แรงงานสั่งลดเก็บเงินสมทบประสังคมดีเดย์มิถุนายน

ลูกจ้าง-นายจ้างเตรียมเฮ"ก.แรงงาน"เคาะลดเงินสมทบประกันสังคม 2-2.5%ดีเดย์ มิ.ย.นี้

ยันไม่กระทบกองทุนบำนาญ-ชราภาพโว ช่วยคนงานไม่ให้ถูกเลิกจ้าง 5 แสน พร้อมเตรียมของบ ต้นกล้าอาชีพ 280 ล้าน ฝึกฉันทนาในโรงงานร่อแร่ 105 แห่ง 4.7 หมื่นคน ด้าน กพร. เปิดสอน 3 ภาษา ตั้งเป้า เพิ่มทักษะ บัณฑิตใหม่-ผู้ว่างงาน หมื่นคน รับการฟื้นตัว ธุรกิจท่องเที่ยว
 
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่กระทรวงแรงงาน นายสมชาย ชุ่มรัตน์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.)

เปิดเผยว่า การประชุม บอร์ด สปส. ในวันที่ 28 เม.ย. นี้จะมีวาระพิจารณาลดเงินสมทบให้กับลูกจ้าง นายจ้างในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำในขณะนี้ครั้งสุดท้าย หลังมีการนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมมาแล้วถึง 2 ครั้ง ซึ่งบอร์ด สปส. ทุกฝ่ายเห็นชอบในหลักการร่วมกันแล้ว แต่ยังต้องหารือข้อสรุปจำนวนตัวเลขที่จะดำเนินการลดกันอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าจะได้ข้อสรุปลดลงเหลือฝ่ายละร้อยละ 2 จากเดิมที่จ่ายอยู่ร้อยละ 5 สำหรับ ในส่วนรัฐบาลจะยังสมทบที่ ร้อยละ 2.75 
 
“มาตรการนี้เราต้องการที่จะช่วยคนไม่ให้ตกงานเพิ่มประมาณ 4-5 แสนคน แต่หากไม่ลดหรือไม่ทำอะไรเลยกองทุนประกันสังคมจะต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับคนตกงานไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท จริงอยู่การลดเงิน สมทบครั้งนี้ สปส. ต้องเสียเงินกองทุนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่ากันเมื่อเทียบกันเงินที่เสียไป ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่กระทบต่อกองทุนบำนาญชราภาพกระทบเนื่องจากเป็นเงินกำไรของกองทุนประกันสังคมเท่านั้น”
 
นายสมชาย กล่าวต่อว่า คาดว่าจะสามารถหาข้อสรุปได้ในวันที่ 28 เม.ย. หลังจากนั้นจะนำเสนอให้นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน

พิจารณาพร้อมนำสู่ขั้นตอนการร่างกฎกระทรวง   ก่อนจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบประกาศใช้ต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน หรือจะเริ่มประกาศใช้ได้ภายในเดือน มิ.ย. นี้ ซึ่งการลดเงินสมทบครั้งนี้จะดำเนินการภายในระยะเวลา 6 เดือน คือตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ธ.ค. 52 หลังจากนั้นจะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร
 
ส่วนมาตรการในการช่วยเหลือลูกจ้าง นายจ้างในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจนั้น กระทรวงแรงงานเตรียมเสนอของบประมาณ 280 ล้านบาทจากคณะกรรมการการบริหารโครงการต้นกล้าอาชีพ

เพื่อดำเนินการฝึกทักษะฝีมือให้กับคนงาน 47,024 คนใน 105 สถานประกอบการที่กำลังได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจภาคการท่องเที่ยว ส่งออก และบริการต่อเนื่องธุรกิจส่งออก ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือโรงงานไม่ให้ปิดกิจการและประคับประคองไม่ให้มีการเลิกจ้างคนงาน อย่างไรก็ตามโครงการนี้เป็นโครงการเริ่มแรกและหากดำเนินการได้ผลจะมีการพิจารณาเสนองบประมาณเพื่อดำเนินการโครงการดังกล่าวในระยะ 2 และ 3 ต่อไป
 
“ยืนยันว่าเราไม่ได้มั่วข้อมูลเป็นเหตุทำให้โครงการชะลอการเลิกจ้างล่าช้าและไม่ได้ขัด แย้งกับใคร แต่ข้อมูลโรงงานที่เราส่งไปส่วนมากไม่เข้าข่ายพิจารณาของคณะกรรมการ ที่เน้นโรงงานส่งออก บริการ เป็นต้น หรือบางรายส่งหลักฐานมาไม่ครบ เช่น บิลค่าน้ำ ค่าไฟ ใบเสียภาษี เป็นต้น ทำให้โครงการไม่ได้รับการพิจารณา แต่ครั้งนี้เราได้รวบรวมข้อมูลครบ มั่นใจว่าจะได้รับการพิจารณาอย่างแน่นอน”
 
ด้านนายนคร ศิลปอาชา อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กล่าวว่า กพร.ได้จัดโครงการฝึกอบรมทักษะฝีมือแรงงานด้านภาษาต่างประเทศ

เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ใช้แรงงานได้มีโอกาสในการก้าวหน้าในอาชีพโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใน 3 หลักสูตร คือ ภาษาอังกฤษ จีน และญี่ปุ่น ในกลุ่มเป้าหมายนักศึกษาจบใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงาน ผู้ใช้แรงงานในสถานประกอบการ และผู้ว่างงาน นอกจากนี้ผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรมยังจะได้รับคู่มือในการฝึกอบรม ซีดีการฝึกภาษา พร้อมทั้งรับประกาศนียบัตรการันตีความสามารถในการสื่อสาร ในการฝึกอบรม 3 ระดับ ระยะเวลา 99 ชั่วโมง โดยตั้งเป้าผู้เข้ารับการฝึกอบรมกว่า 1 หมื่นคน ซึ่งขณะนี้มีผู้สนใจสมัครแล้วกว่า 1,000 คน โดยโครงการดังกล่าวจะสามารถรองรับธุรกิจการท่องเที่ยวที่กำลังจะกลับมาฟื้นตัวได้อีกด้วย.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์