ธปท.แฉแบงก์เสือนอนกิน



กนง.ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% หลังปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยเข้าสู่แดนลบ จากวิกฤติโลกที่แรงกว่าที่คาดกระทบส่งออกรุนแรงมาก และหากการเมืองยืดเยื้อรุนแรง เศรษฐกิจไทยจะดิ่งเหวลบมากกว่าที่ปรับลดประมาณการวันนี้ ธปท.ชี้แบงก์พาณิชย์ลดดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีลงไม่เท่าเงินฝาก

 นางดวงมณี วงศ์ประทีป ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายนโยบายการเงิน กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ผ่านมาว่า นโยบายการเงินยังมีความจำเป็นในการช่วยประคับประคองเศรษฐกิจไทยต่อเนื่อง ในช่วงที่มีโอกาสที่การดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมีแนวโน้มจะถูกเลื่อนออกไป จากปัญหาการเมืองที่กำลังก่อตัว และเป็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ ทั้งในและนอกประเทศที่รุนแรงมากกว่าการประมาณการในครั้งที่ผ่านมา ทำให้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ทันทีทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 1.25%  จากการประเมินของ ธปท.พบว่าวิกฤติการเงินโลกยังคงส่งผลให้เศรษฐกิจหดตัวลงต่อเนื่องอย่างชัดเจนและกระทบต่อการส่งออกของไทยอย่างรุนแรง

ส่งผลต่อเนื่องต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยมากกว่าที่ประมาณการไว้ในครั้งก่อน ในขณะที่ยังไม่มีความแน่นอนว่าความรุนแรงและความยาวนานของวิกฤติเศรษฐกิจโลกจะเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ดังนั้นในการปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยใหม่ในวันที่
22 เม.ย.นี้ซึ่งได้รับความเห็นชอบจาก กนง.แล้ว ธปท.จะปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงมาอยู่ในแดนลบ



"หากปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองยืดเยื้อหรือเกิดความรุนแรง จะเป็นปัจจัยลบเพิ่มขึ้นให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ดิ่งลงติดลบมากขึ้นจากตัวเลขที่เราประมาณการใหม่ได้อีก และอาจจะกระทบการบริหารงานของรัฐบาล และการเบิกจ่ายงบประมาณและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ไม่เกิดขึ้นเต็มที่หรือมีความล่าช้า อย่างไรก็ตาม มาตรการรัฐที่ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจน่าจะส่งผลได้ในระดับหนึ่งและทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปีนี้ขยายตัวดีกว่าไตรมาสที่ 4 ปีที่ผ่านมา และหากเศรษฐกิจสหรัฐฯไม่ทรุดตัวลงอีกไตรมาสที่ 4 ปีนี้น่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอย่างค่อยเป็นค่อยไปได้"  นางดวงมณีกล่าวต่อว่า ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจครั้งนี้ ธปท.ยังมีความเห็นเดิมว่า

นโยบายการคลังควรเป็นนโยบายหลัก แต่เมื่อมีความเสี่ยงมากขึ้นในการใช้นโยบายการคลัง การใช้นโยบายการเงินช่วยพยุงเศรษฐกิจในขณะที่ไม่มีปัญหาเรื่องเงินเฟ้อเป็นเรื่องที่ควรดำเนินการ ดังนั้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้อีก
0.25% จึงเป็นการเสริมแรงของการผ่อนคลายนโยบายการเงินในช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือน ธ.ค.ปีที่แล้วโดยในช่วง ธ.ค.ถึง มี.ค. กนง.ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 2.25% และเมื่อรวมครั้งนี้ลดลงไป 2.5% ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและลดภาระดอกเบี้ยของประชาชนและภาคธุรกิจได้มากขึ้น

"
ยอมรับว่าการส่งผ่านนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงในช่วงที่ผ่านมา ยังไม่สามารถทำได้เต็มที่เพราะการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก

ทำให้การปล่อยสินเชื่อชะลอตัวลงอย่างรุนแรงและการแข่งขันในด้านดอกเบี้ยลดลง ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้เฉลี่ยไปแล้ว
70% ของอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือประมาณ 1.4% แต่หากแยกเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี พบว่าธนาคารพาณิชย์ลดลงไปเพียง 1.1% หรือประมาณ 50% ของการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขณะระบบธนาคารพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไปแล้ว 1.8% หรือ 80% ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเท่านั้น"

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์