ควาญฯวอนนำช้างเร่ร่อนเข้าอยู่ในระบบ


ควาญช้างฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์ฯ ชวนเพื่อนควาญที่นำช้างมาเร่ร่อนในกทม.เข้าอยู่ในระบบ อ้างรายได้ดีกว่า ไม่เสี่ยงอันตราย รองผู้ว่าฯกทม. ระบุ แนวทางแก้ปัญหาเริ่มจากรณรงค์ปลุกจิตสำนึก เผย ช้างที่ถูกนำมาเร่ร่อนเจ้าของมีรายได้เชือกละกว่า 1 แสนบาทต่อปี ซึ่งไม่ต้องเสียภาษีด้วย



(3เม.ย.) ยังเสริฟข่าวร้อนเป็นวันที่ 3 สำหรับรายการ "เช้าข่าวข้น คนข่าวเช้า" วาไรตี้ข่าวที่ออกอากาศทางโมเดินทร์ไนน์ทีวี ในช่วงเวลา 06.00-08.00 น.ทุกเช้าวันจันทร์-ศุกร์เป็นประจำทุกเช้า โดยทีมข่าวคุณภาพจากค่ายอสมท. และเนชั่นฯทีวี โดยรายการ"เช้าข่าวข้น คนข่าวเช้า" วันนี้ผู้ประกาศเจ้าประจำ กนก รัตนวงศ์สกลุล และจอมขวัญ หลาวเพชร  เปิดรายการด้วยการเปิดตัวช้างน้อย "ต้นอ้อ และกอแก้ว" ลูกของช้างชื่อดังจากภาพยนต์ ก้านกล้วย 2และทิ้งปริศนาถึงการนำเสนอช้างน้อยทั้งคู่ให้ผู้ชมได้สงสัย



จากนั้น2ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง เริ่มรายการช่วงแรกด้วยการเล่าข่าวสำคัญที่เกิดขึ้น โดยเริ่มต้นที่ข่าวไฟไหม้ห้องเก็บเสื้อผ้าชั้น 3 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลตำรวจในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตามด้วยข่าวพายุฝนที่โหมกระหน่ำประเทศไทย ทำให้เกิดความเสียหายไปทั่ว โดยเฉพาะปรากฎการณ์ลูกเห็บตกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทำให้คนกรุงตื่นตระหนดไม่ใช่น้อย



จากนั้นตามด้วยการเกาะติดข่าวการประชุม "จี 20" ที่แว่วมาว่า ขณะนี้ที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันที่จะจัดระเบียบโลกทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การเงิน พร้อมปัญหาวิกฤติต่าง ๆ ทีเกิดขึ้นไปทั่วโลก โดยการประชุม จี 20 ในครั้งนี้ นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ผลการประชุมดังกล่าวถือเป็นผลความสำเร็จที่ทำให้ประเทศกำลังพัฒนาได้รับประโยชน์อย่างมาก โดยเชื่อว่าภายหลังการประชุมดังกล่าวจะทำให้ปัญหาเรื่องการกรีดกันการค้าจะเริ่มหมดไป เนื่องจากการประเทศกลุ่มผู้นำให้ความสนใจปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างจริงจัง นอกจากนี้นายอภิสิทธิ ยังมีความเชื่อมั่นว่า หลังจากนี้ไปประมาณ 7 เดือนวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจะเริ่มคลี่คลายลงไปได้



มาถึงช่วงที่สองของ"เช้าข่าวข้น คนข่าวเช้า"เป็นการเกาะติดข่าวรายวันสำคัญๆที่เกิดขึ้น เริ่มด้วยข่าวตำรวจออกมาเตือนประชาชนที่ไปเที่ยวงานกาชาดให้ระมัดระวังแก๊งมิจฉาชีพทที่เข้ามาก่อเหตุในรูปแบบต่างๆ  จากนั้นตามด้วยข่าวผลการเจรจาปัญหาข้อพิพาทของพ่อค้า-แม่ค้าในตลาดคลองเตยกับบริษัทรีเกิลผู้ได้รับสัมปทานที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า ปิดท้ายด้วยข่าวเศรษฐกิจที่กลุ่มนักธรกิจออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการด้วยการหาแหล่งสินเชื่อเข้าโอบอุ้ม
 


โดยกลุ่มนักธุรกิจยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ขณะนี้บริษัทผู้ประกอบการกว่า 75 เปอร์เซ็นต์กำลังขาดสภาพคล่องทางการเงินอย่างหนัก โดยขณะนี้สามารถประคับประคองธุรกิจด้วยวิธีการกินบุญเก่า หากรัฐบาลไม่ยื่นมือมาช่วยเหลือเชื่อว่า ประมาณ 7 เดือนต้องปลดดคนงานประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีคนตกเงาอีก 7 แสนคนอย่างแน่นอน



มาถึงช่วง ข่าวค้นรอบโลก โดยช่วงนี้ น.ส. กิตติมา ณ ถลาง ผู้ดำเนินรายการ  ได้เปิดเผยถึงการประชุม จี 20 ที่ประสบความสำเร็จอันนำไปถึงการออกแถลงการร่วม โดยเฉพาะหัวใจหลักของการประชุมในการร่วมแก้ปัญหาเศรษฐกิจนั้น ที่ประชุมเห็นพร้องว่า ต่อไปต้องมีการจัดกฎระเบียบกับสถาบันการเงินให้เข้มงวดมากขึ้น พร้อมทั้งมาตรการกระตุ้นนเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินไปที่ไอเอ็มเอฟ เพื่อมุ่งเน้นในการช่วยเหลือประเทศที่ประสบวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงนี้ นอกจากนี้ในแถลงการร่วมยังเปิดเผยถึงผลความสำเร็จการขึ้นบัญชีดำประเทศที่หลบเลี่ยงภาษี พร้อมแฉบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆที่ฟอกเงินในต่างประ เทศ 



ตบท้ายด้วยการวิเคระห์ของ นายสุทธิชัย หยุ่น ทางวีดีโอลิงค์ เกี่ยวกับผลสำเร็จการประชุม จี 20 ที่ยกคำกล่าวอ้างนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ระบุว่า แม้การประชุมจี 20 จะประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ แต่ปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลายได้คงต้องให้ทุกประเทศช่วยป้องกัน และมีระเบียบในการบริหาร ไม่กระทำด้วยการประมาท จากนั้นนายสุทธิชัย เปิดเผยเบื้องลึกประเด็นการนำไปสู่การขึ้นบัญชีดำประเทศหลบเลี่ยงภาษีและฟอกเงิน โดยกล่าวชม นายบารัค โอบามา ที่เป็นตัวกลางปะสานเชื่อมให้การประชุมดังกล่าวเป็นไปด้วยดี



ช่วงต่อมาเป็นการหยิบยกประเด็นเรื่องช้างเร่ร่อนหากินในเมืองใหญ่ มาพูดคุยกัน โดยภาคสนามได้สัมภาษณ์ควาญช้างฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ ซึ่งควาญช้างเตือนเพื่อนควาญด้วยกันที่นำช้างมาเร่ร่อนว่าอยากให้มาอยู่ในระบบดีกว่า เพราะรายได้ดีกว่า และไม่เสี่ยงอันตรายต่อช้าง
 

ด้านในห้องส่งพิธีกร นายกนก และ น.ส.จอมขวัญ ได้สัมภาษณ์นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.และนายศรีสุวรรณ จรรยา กรรมการมูลนิธิเพื่อนช้าง โดยนายศรีสุวรรณกล่าวว่า ช้างที่มาเร่ร่อนใน กทม.ขณะนี้ส่วนใหญ่มีนักการเมืองเป็นเจ้าของ มีการให้คนเช่ามา หรือจ้างให้นำมาเร่ร่อน สามารถสร้างรายได้ต่อเชือก เดือนละ 4-5 หมื่นบาท คุ้มกับค่าปรับ เวลาถูกจับครั้งละไม่กี่ร้อยบาท



ส่วนนายธีระชนกล่าวว่า กทม.มีแนวทางแก้ปัญหาโดยเริ่มจากการรณรงค์ปลุกจิตสำนึก โดยมีการจัดโครงการให้เยาวชนส่งเรียงความในเรื่องนี้เข้าประกวดด้วย



รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า ช้างที่ถูกนำมาเร่ร่อนนั้น เจ้าของช้างมีรายได้เชือกละกว่า 1 แสนบาทต่อปี ซึ่งไม่ต้องเสียภาษีด้วย ดังนั้นการพยายามคุยกับเจ้าของช้างเพื่อแก้ปัญหาจึงลำบาก เพราะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ขณะที่การคืนช้างสู่ธรรมชาตินั้นตั้งเป้าปีนี้ 87 เชือก โดยมีที่พักช้างก่อนส่งคืนสามารถรองรับได้กว่า 200 เชือก เช่น ที่ปางช้างพระนครศรีอยุธยา และสวนนงนุช จ.ชลบุรี เป็นต้น



นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า การคุยกับเจ้าของช้างนั้น ทางเจ้าของคงไม่ยอม ขณะที่ตนก็มีบางเรื่องที่ไม่เห็นด้วยกับกทม. เช่น เรื่องที่พักช้าง เพราะ กทม.ไม่มีพื้นที่ที่เหมาะสมเลย และไม่มีมาตรการที่ปลอดภัยเพียงพอสำหรับช้าง เช่นถ้ามีใครเอางูโยนไปกัดช้างก็ตายทันที การแก้ปัญหาอยากให้เน้นเรื่องกฎหมาย รวมทั้งการทำความเข้าใจกับชาวบ้านอย่าไปซื้อของให้ช้างเพราะเหมือนเป็นการร่วมกระทำความผิด ส่งเสริมให้ช้างมาเร่ร่อน



ทั้งในประเด็นเรื่องกฎหมาย นายธีระชนกล่าวว่า ถ้าใช้กฎหมายหลายฉบับมาดำเนินการก็น่าจะทำให้หนักแน่นพอที่จะทำให้โทษหนักขึ้นได้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์