เซ่นหวัดนกแล้ว1 ผสมไข้เลือดออกรายแรกของโลก

รมว.สธ.แถลงเป็นทางการ หนุ่มเมืองพิจิตรเสียชีวิตจากไข้หวัดนก


แจงที่ผลออกมาล่าช้าเพราะมีอาการป่วยซ้อนจากโรคไข้เลือดออก ระบุเป็นรายแรกของโลกที่พบอาการ "สุดารัตน์" ของขึ้น สั่งย้ายปศุสัตว์จังหวัด ส่วนที่ทับคล้อ พบเด็กชาย 9 ขวบ อยู่ในเกณฑ์ต้องสงสัย


แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีคำยืนยันที่ชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่ให้ความมั่นใจว่า ผู้ป่วยที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยไม่มีส่วนกี่ยวข้องกับการป่วยจากโรคหวัดนก แต่ล่าสุดก็มีการยอมรับแล้วว่า มีผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดนกเป็นรายแรกในปีนี้


นายพินิจ จารุสมบัติ รักษาการ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย น.พ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวที่ จ.พิจิตร

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ว่า ประเทศไทยพบผู้ป่วยไข้หวัดนกรายใหม่ โดยเป็นเพศชายอายุ 17 ปี ที่ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ซึ่งผลการตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยืนยันเมื่อเช้าวันที่ 26 กรกฎาคม ว่า ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไฟว์เอ็นวัน (H5 N1)

จึงถือว่าเป็นการพบผู้ป่วยการระบาดรอบใหม่ ซึ่งเดิมประเทศไทยมีผู้ป่วยไข้หวัดนก 22 ราย ตาย 14 ราย การระบาดรอบใหม่ทำให้ประเทศไทยมีผู้ป่วยหวัดนกรวม 23 ราย เสียชีวิต 14 ราย


ทั้งนี้ ประวัติการเจ็บป่วยของ นายยงยุทธ แดงมีศรี อายุ 17 ปี ภูมิลำเนาอยู่หมู่ 11 ต.ทับคล้อ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร

เสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดนกเป็นรายแรกของประเทศไทย โดยนายยงยุทธมีประวัติสัมผัสไก่ตายและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลทับคล้อ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา


ต่อมาส่งตัวมารักษาโรงพยาบาลพิจิตร และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-23 กรกฎาคม 2549 สถานพยาบาลกระทรวงสาธารณสุขได้รับรายงานผู้ป่วยที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังทั้งหมด 1,567 ราย จาก 67 จังหวัด

ทุกรายป่วยจากโรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ทั่วไป ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดนก ส่วน จ.พิจิตร ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-24 กรกฎาคม 2549 มีผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสงสัยอาจติดเชื้อไข้หวัดนก 120 ราย

ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเป็นไข้หวัดใหญ่ 71 ราย ไข้หวัดธรรมดา 48 ราย และรอผลตรวจเลือดอีก 1 ราย ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่การระบาดรอบใหม่ โดยมีผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกทั้งหมด 23 ราย และเสียชีวิต 14 ราย


น.พ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การวางเครือข่ายระบบการป้องกัน

เตรียมความพร้อมของสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง โดยเฉพาะโรงพยาบาลชุมชนซึ่งเป็นด่านแรก ได้สำรองยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์และชุดทดสอบเชื้อไข้หวัดใหญ่แห่งละ 20 ชุด ที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่สำรองอย่างละ 50-100 ชุด


และยังสำรองยาต้านไวรัสที่ส่วนกลางอีกกว่า 1 ล้านแคปซูล รวมทั้งสนับสนุนอุปกรณ์ในการป้องกันการติดเชื้อสำหรับบุคลากรให้สถานบริการทุกแห่งอย่างเพียงพอ และจัดเตรียมความพร้อมของทีมเคลื่อนที่เร็วระดับจังหวัดและระดับอำเภอ ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมออกปฏิบัติงานทันทีเมื่อพบผู้ป่วยที่เฝ้าระวังในรายที่สงสัย




แหล่งที่มา : คมชัดลึก



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์