พบกบพันธุ์ใหม่ของโลก

วันนี้(18 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ประจำจังหวัดนครราชสีมารายงานหลังได้รับการเปิดเผยจากนายทักษิณ อาชวาคม ผอ.สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช

ได้ค้นพบกบสายพันธุ์ใหม่ล่าสุดของโลกภายในป่าดงดิบสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช ต.ภูหลวง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา โดยกบพันธุ์นี้มีลักษณะลำตัวค่อนข้างใหญ่ยาว ส่วนของหัวกว้าง บนหัวระหว่างตาทั้งสองข้างมีรอยพับของแผ่นหนังพาดขวางในตำแหน่งด้านท้ายของตา เพศผู้มีหัวใหญ่กว่าเพศเมีย  ผิวหนังส่วนต้นของลำตัวค่อนข้างเรียบแต่ผิวหนังส่วนท้ายลำตัวและบนขาหลังมีตุ่มกระจายหนาแน่นโดยเฉพาะด้านข้างลำตัว ส่วนยอดของตุ่มบางตุ่มเป็นสีขาว ขาหน้าและขาหลังสั้นแต่ใหญ่ นิ้วตีนหน้าไม่มีแผ่นหนังระหว่างนิ้ว ส่วนนิ้วตีนหลังมีแผ่นหนังเต็มความยาวนิ้ว


จากการสำรวจโดยละเอียดพบว่า ลูกอ๊อดมีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่(ประมาณลูกอ๊อดปาดบ้าน)ลำตัวแบนและมีสีน้ำตาล

บนหลังมีปื้นสีน้ำตาลเข้มกระจาย หางยาว และมีกล้ามเนื้อแข็งแรงแผ่นครีบหางใหญ่ ปากอยู่ทางด้านล่างของหัว ช่องปากใหญ่ ตุ่มฟันในอุ้งปากมีจำนวนแถวและลักษณะการเรียงตัวเป็นสูตร I:1+1/1+1:I ขอบของจะงอยปากบนและจะงอยปากล่างมีรอยหยัก


ผู้อำนวยการสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช กล่าวต่อว่า จากการสำรวจวิจัยพบว่ากบชนิดนี้พบเห็นเฉพาะที่ประเทศไทย

ในพื้นที่สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช บริเวณลำห้วยบนภูเขาสูง ในเวลากลางวันจะหลบซ่อนตัวอยู่ใต้กองใบไม้ที่ทับถม หรือซอกหินตามลำห้วย และออกหากินในเวลากลางคืน ผสมพันธุ์และวางไข่ในช่วงต้นปี ซึ่งจะเห็นลูกอ๊อดขนาดใหญ่ในช่วงเดือนเมษายน ออกหากินบริเวณพื้นท้องน้ำ ซึ่งทางทีมวิจัยที่ค้นพบได้ตั้งชื่อกบพันธุ์ใหม่ของโลกว่า “โคราช บิ๊กเฮด ฟอร์ก” ให้เป็นเกียรติแก่จังหวัดนครราชสีมาหรือโคราช ซึ่งเป็นจังหวัดที่ค้นพบกบชนิดนี้เป็นแห่งแรก


ด้านนายวุฒิ ทักษิณธรรม อาจารย์ประจำภาควิชาสัตววิทยา คณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขน หนึ่งในคณะวิจัยเปิดเผยว่า กบชนิดนี้มีลักษณะที่แตกต่างอย่างชัดเจนจากกบห้วยขาปุ่มที่พบทั่วไป

โดยมีลักษณะเด่นคือ หัวโต ตัวจะลื่นๆ และฤดูการสืบพันธุ์ก็แตกต่างจากกบชนิดอื่นๆ เช่น กบนาจะสืบพันธุ์ช่วงต้นฤดูฝน แต่กบพันธุ์ใหม่นี้จะสืบพันธ์ในช่วงปลายฤดูฝนที่น้ำในลำห้วยนิ่งแล้วเพื่อไม่ให้กระแสน้ำหลากไหลพัดเอาไข่หรือลูกอ๊อดลอยหายไปตามกระแสน้ำ รวมทั้งลักษณะโดยทั่วไปในการดำรงชีวิตต้องอยู่ในแหล่งน้ำที่มีน้ำขังตลอดทั้งปี ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะถ้าหากพื้นที่ป่าถูกทำลายจนส่งผลให้น้ำตามลำห้วยในป่าแห้งขอด กบชนิดนี้จะปรับตัวไม่ได้ก็จะสูญพันธุ์ไป.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์