เมียจูงลูกบุกงานแต่ง วิวาห์ล่ม-เจ้าบ่าวเผ่น!

ฮือฮาวิวาห์ล่ม เจ้าบ่าวกำมะลอขอม่ายสาวแต่งงาน ทั้งที่ตัวเองมีลูก-เมียอยู่แล้ว

ระหว่างทำพิธีตอนเช้าเมียเก่ากระเตงลูก 2 คนบุกกลางงาน พร้อมถือทะเบียนสมรสมาแสดงเป็นหลักฐาน เล่นเอาวงแตกเจ้าบ่าวต้องเผ่นแทบไม่ทัน เมียลั่นมาทวงสามีคืนเพื่อให้กลับบ้าน เผยรู้ข่าวว่ามาติดพันม่ายสาวจนถึงขั้นขอแต่งงานเลยบุกพิสูจน์ ส่วนฝ่ายเจ้าสาวก็ใช้แผนดัดหลัง ประกาศเอาเรื่องเจ้าบ่าวตัวแสบถึงที่สุด ยึดเงินสินสอด 4 หมื่นกับทองหมั้นอีก 2 บาท พลิกแผนปรับเปลี่ยนงานแต่งงานมาเป็นงานทำบุญบ้านกันเดี๋ยวนั้น

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 11 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.กบเจา อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา

ซึ่งกำลังจัดงานพิธีมงคลสมรส ระหว่างนายเดชา สินอำพล เจ้าบ่าว กับนางเอ (นามสมมติ) เจ้าสาว ได้เกิดความอลหม่านขึ้น เมื่อจู่ๆ คนเป็นเจ้าบ่าวเกิดมีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เดินอุ้มลูกบุกทวงสิทธิ์ถึงกลางงาน จึงทำให้พิธีวิวาห์ต้องล่มลงโดยปริยาย โดยนายเดชาซึ่งเป็นเจ้าบ่าวเมื่อเห็นเมียอุ้มลูกบุกมาก็ถึงกับหน้าถอดสี วิ่งหนีออกจากงานไปทันที ทิ้งให้เจ้าสาวและญาติยืนงงเป็นไก่ตาแตก โดยญาติๆ ฝ่ายหญิงต้องเปลี่ยนรูปแบบงาน จากงานแต่งงานมาเป็นงานทำบุญบ้านแทนทันที ท่ามกลางความงุนงงของแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย ที่ถูกเชิญมาเป็นสักขีพยาน ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังทุกอย่างแดงออกมา นางสุพัตรา สินอำพล อายุ 33 ปี มี

ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 4/2 ม.7 ต.ท่าเจ้าสนุก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ภรรยานายเดชาที่อุ้มลูกบุกงานแต่ง กล่าวเปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตนทำงานอยู่บริษัท แคนนอน (ประเทศไทย) จำกัด ส่วนนายเดชา สามี ทำงานอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมโฮเทค อ.บางปะอิน โดยแต่งงานอยู่กินกับนายเดชามาตั้งแต่ปี 2544 จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย มีลูกด้วยกัน 2 คน แต่มาระยะหลังสามีไม่คอยอยู่บ้าน ชอบหายออกจากบ้านไปครั้งละหลายวัน ไม่รู้ว่าไปทำอะไร จนกระทั่งมาทราบข่าวจากเพื่อนที่ทำงานเดียวกัน ว่าสามีได้แอบหนีมาแต่งงานกับแม่ม่ายสาวในอำเภอบางบาล ซึ่งเป็นเพื่อนพนักงานบริษัทเดียวกัน กำหนดพิธีแต่งงานในเช้าวันนี้ จึงได้อุ้มลูกทั้งสองคนพร้อมใบสมรสมาแสดงให้ดู

"หนูมาเพื่อประกาศตัวให้รู้ว่าเขามีเจ้าของแล้ว และต้องการให้ยุติงานแต่งงานครั้งนี้ หนูขอทวงสามีคืนกลับบ้าน อย่างน้อยก็เพื่อให้เห็นแก่ลูกน้อยทั้งสองคน ส่วนเงินสินสอดทองหมั้นหนูไม่สนใจ ขอสามีกลับบ้านอย่างเดียวพอแล้ว" นางสุพัตรากล่าว พร้อมแสดงทะเบียนสมรสที่ออกโดยสำนักงานทะเบียนราษฎร อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้ทุกคนดู

ซึ่งนอกจากนี้ นางสุพัตรายังได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.บางบาล ไว้เพื่อเป็นหลักฐานอีกด้วย

ญาติฝ่ายเจ้าสาวคนหนึ่งออกมากล่าวว่า เจ้าสาวตกเป็นพุ่มม่ายเลิกร้างกับสามีมานานแล้ว มีลูกแล้ว 1 คน คบหารู้จักกับนายเดชามานานจนทั้งคู่เกิดเห็นใจกัน โดยเมื่อ 3 เดือนก่อนทั้งคู่ประสบอุบัติเหตุขาหัก นายเดชาคอยดูแลช่วยเหลือนางเอไม่ห่าง และมานอนค้างที่บ้านหลังนี้เป็นประจำ โดยนายเดชายอมรับว่ามีภรรยาแล้ว แต่ก็ได้หย่าร้างเลิกรากันไปนานแล้ว ทำให้ทุกคนหลงเชื่อ จนกระทั่งนายเดชาได้ให้ญาติผู้ใหญ่มาสู่ขอตามประเพณี มีค่าสินสอดเป็นเงิน 4 หมื่นบาท ทอง 2 บาท จึงมีการจัดงานวิวาห์ขึ้นโดยไม่มีใครคิดว่าจะมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น

"ในฐานะที่เป็นญาติฝ่ายหญิงซึ่งเป็นผู้เสียหาย จึงคุยกันว่าจะเอาเรื่องกับนายเดชาถึงที่สุดเช่นกัน ในฐานะที่ทำให้คนอื่นเกิดความอับอาย เรายืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด และขอยึดเงินสินสอดทองหมั้นทั้งหมดเอาไว้ก่อน" ญาติฝ่ายหญิงกล่าว