กกต.ยอมรับยากเอาผิดเนวินร่วมตั้งรัฐบาล

“สดศรี สัตยธรรม” มองสถานภาพรัฐบาลเปราะบาง
 
อาจถูกกดดันจากคลื่นใต้น้ำ ทั้งจากภายในพรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาล ที่พลาดตำแหน่งรัฐมนตรี
ส่วนการเอาผิด “เนวิน ชิดชอบ” ร่วมจัดตั้งรัฐบาล ทำได้ยาก กฎหมายเขียนกว้าง ทำให้มีช่องโหว่ "จตุพร"ชี้"อภิสิทธิ์"สร้างภาพตกเป็นเป้าลอบทำร้าย

นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประเมินเสถียรภาพรัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ว่า

ปัญหาเศรษฐกิจยังเป็นประเด็นหลักในการทำงานของรัฐบาล แต่ปัญหาทางการเมืองก็ยังมีอยู่ รัฐบาลจะอยู่นานหรือไม่ ต้องดูจาก 3 เดือนแรก หากอยู่ได้ก็ไม่มีปัญหา แต่การเป็นรัฐบาลผสม ไม่ใช่ทุกอย่างจะราบเรียบ จะมีลักษณะของคลื่นใต้น้ำ


นางสดศรี กล่าวว่า

การที่จำนวนรัฐมนตรีมีได้เพียง 35 คน ก็ต้องมีทั้งคนสมหวังและผิดหวัง แต่เพื่อให้ประเทศไปรอด ก็ต้องทนกลืนเลือดกันบ้าง เพราะเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เสียงข้างมาก ก็ต้องอาศัยคนอื่นเขาหายใจ ต้องทนและยอมรับบางสิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจ การเมืองช่วงนี้จึงเปราะบาง สถานภาพของรัฐบาลไม่เข้มแข็งนัก

 

 “นายกรัฐมนตรีไม่เจอกระแสกดดันด้านอื่น แต่เจอกระแสกดดันภายในพรรคร่วมรัฐบาล เรื่องเกี่ยวกับพันธมิตรฯ ก็รู้ว่าอยู่ว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สิ่งที่น่ากลัว คือ กลัวตัวเอง แต่ก็เชื่อว่าการที่เป็นพรรคเก่าแก่มานาน และมีระเบียบวินัยมากกว่าพรรคอื่นๆ ก็น่าจะทำให้ทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องการแย่งชิงตำแหน่งผ่านพ้นไปได้ แต่คลื่นใต้น้ำก็ยังไม่จบ จะมีเป็นระยะ ซึ่งอาจจะเกิดจากความไม่พอใจกันในการทำงาน การขัดกันของพรรคร่วมรัฐบาล ช่วงเวลานี้ต้องพยายามรักษาสถานภาพไว้” นางสดศรี กล่าว


 นางสดศรี กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมวันที่ 11 มกราคมนี้ ว่า
 
พรรคประชาธิปัตย์อาจจะได้ ส.ส.ภาคอีสานกับภาคเหนือน้อยหรือไม่ได้เลย หากพรรคฝ่ายค้านได้รับเลือกตั้งมี ส.ส.เพิ่มขึ้น โอกาสที่จะมีเสียงข้างมากในสภาฯ มีมาก ซึ่งจะทำให้มีผลต่อการเสนอกฎหมาย การถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ที่สำคัญคือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ หากรัฐบาลแก้ไขไม่ได้ ก็จะเป็นการทำลายตัวเอง แต่การที่พรรคประชาธิปัตย์มีคนเก่งมาก น่าจะแก้ไขปัญหานี้ไปได้


 ส่วนเรื่องที่ผู้ถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมือง นางสดศรี กล่าวว่า
 
ที่ผ่านมามีการพูดถึงเรื่องนี้กันมาก ส่วนตัวเห็นว่าเมื่อรัฐธรรมนูญเขียนกว้าง กฎหมายลูกจะต้องขยายความให้ชัดเจน ไม่ต้องให้ตีความกันอีก อย่างไรก็ตาม บุคคลเหล่านั้นจะอยู่เบื้องหลัง และเข้าข่ายมาตรา 98 ของกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่ ศาลเคยวินิจฉัยแล้วว่า ต้องพิสูจน์ให้ได้ ตราบใดที่พิสูจน์ไม่ได้ จะกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังคงไม่ได้


 “การที่เห็นภาพถ่ายกอดเอวกัน จะถือว่าเขาเป็นผู้ตั้งรัฐบาลใหม่ไม่ได้ กรณีนายเนวิน ชิดชอบ ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า ให้เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง คือ ใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ได้ ไม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ไม่ได้ห้ามบุคคลนั้น เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งกิจกรรมทางการเมืองจะถือว่าอยู่ในกลุ่มเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งหรือไม่ กฎหมายไม่ได้เขียนไว้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้จึงมีช่องโหว่ที่จะต้องแก้ไข” นางสดศรี กล่าว


 นางสดศรี กล่าวว่า

หลายคนเคยพูดเรื่องพรรคนอมินี และเรายอมรับว่า ไม่ได้เขียนไว้ในกฎหมาย ซึ่งเรารู้ว่าการตั้งพรรคการเมืองหลายพรรค ก็อยู่ในทุนสนับสนุนของผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง จะเห็นพฤติกรรมของนักการเมือง ที่สืบทอดกันไม่กี่ตระกูล พรรคการเมืองนอมินีก็มาจากสิ่งนี้ ซึ่งต่างประเทศก็มีเช่นกัน ส่วนกรณีผู้ถูกเพิกถอนสิทธิ์ไปเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี ตามกฎหมายพรรคการเมือง เมื่อไม่ได้เป็นกรรมการบริหาร ก็สามารถให้คำปรึกษาได้ 

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ในส่วนของพรรคพลังประชาชน ชาติไทยและมัชฌิมาธิปไตย ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค จะต้องดำเนินการชำระบัญชี ภายใน 30 วัน ซึ่งตรงกับวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา โดย กกต.จะส่งให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบบัญชีของพรรคการเมืองต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์