ธปท.เผยแบงก์ปลอมระบาดทำศก.เสียหายแล้ว12ล.

นายนพพร ประโมจนีย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายจัดการธนบัตร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าววันนี้ (24 ธ.ค.) ว่า หลังจากประชาชนกังวลปัญหาธนบัตรปลอม

ทำให้มีการกดเงินจากตู้เอทีเอ็มเป็นธนบัตรใบละ 500 บาท และ 100 บาท มากขึ้น จนทำให้แบงก์ดังกล่าวหมดตู้เอทีเอ็ม ซึ่งยืนยันว่า ธนบัตรทุกชนิดราคาไม่ขาดแคลน โดย ธปท.มีการจ่ายธนบัตรให้ธนาคารพาณิชย์ เพื่อแจกจ่ายผ่านเคาน์เตอร์และตู้เอทีเอ็ม สำรองไว้ถึง 3.5 เดือน และในช่วงเทศกาลจะเพิ่มการสำรองอีกร้อยละ 50 จึงมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาขาดแคลนแน่นอน


ส่วนที่มีความกังวลว่า การเบิกเงินผ่านตู้เอทีเอ็มแล้วจะพบธนบัตรปลอม นายนพพร กล่าวว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ประธานสมาคมธนาคารไทย


ได้ยืนยันก่อนหน้านี้แล้วว่า ทางธนาคารรับประกัน หากมีปัญหาแบงก์ปลอมก็สามารถคืนได้ และจากการประสานงานกับฝ่ายบริหารเงินสด พบว่ามีเครื่องมือในการตรวจสอบธนบัตรได้ จึงเชื่อว่าธนบัตรปลอมคงจะไม่หลุดรอดออกมา ขณะเดียวกัน การเบิกจ่ายผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร พนักงานจะต้องระวังเป็นพิเศษ ตรวจสอบ
100% ก่อนนำออกจ่ายให้ประชาชน


ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ธนบัตรหมวด
9A, 2D มีการปลอมแปลงมากที่สุด นายนพพร กล่าวว่าไม่เป็นความจริง

เพราะธนบัตรปลอมกระจายอยู่ในทุกหมวด ขอให้ประชาชนสังเกตธนบัตรทุกครั้ง จะช่วยยับยั้งธนบัตรปลอมได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปัญหาที่ประชาชนตื่นธนบัตรปลอมจะเป็นภาวะชั่วคราว เพราะประชาชน พ่อค้า จะเรียนรู้เกี่ยวกับการสังเกตธนบัตรปลอมมากขึ้น


นายนพพร กล่าวอีกว่า ธปท.ได้ประสานกับตำรวจ เพื่อสาวให้ถึงต้นตอการปลอมแปลงธนบัตร ซึ่งเคยจับกุมผู้ผลิตได้ และได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปให้ข้อมูลตามแหล่งสำคัญต่าง ๆ


เช่น ตลาดโรงเกลือ ตลาดไท และ ที่ จ.ขอนแก่น เพราะการปลอมธนบัตรมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน จึงต้องเร่งรัดมากขึ้น จับกุมในรายสำคัญให้ได้ ทั้งนี้ ธปท.มีการนำธนบัตรใบละ
1,000 บาท ออกหมุนเวียนในระบบประมาณ 500 ล้านฉบับ คิดเป็นมูลค่า 500,000 ล้านบาท และพบว่าการปลอมแปลงธนบัตรสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจไปแล้ว 12 ล้านบาท

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์