ประณามมือบอน แพร่ภาพ เจ้าจิกมีฯกับสาว

หลังจากที่เจ้าชายจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก มกุฎราชกุมารแห่งภูฏาน

เสด็จเยือนประเทศไทยในช่วงต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และเสด็จไปพักผ่อนพระอิริยาบถที่ จ.ภูเก็ต เป็นเวลาหลายวัน จนก่อให้เกิดกระแส เจ้าชายจิกมีฟีเวอร์ ระบาดอย่างหนักมาหลายสัปดาห์ เพราะนอกจากทรงมีพระสิริโฉมที่หล่อเหลาแล้ว ยังทรงเพียบพร้อมไปด้วยพระจริยวัตรที่สง่างดงาม และทรงดำรงตนด้วยความเรียบง่าย ไม่ถือพระองค์ จนครองใจคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่สาวๆ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) ชาวอินเตอร์เน็ตทั่วไทยต้องตกตะลึง เมื่อมีมือมืดกระหน่ำฟอร์เวิร์ดภาพเจ้าชายจิกมี ทรงฉายภาพแนบชิดกับสาวหมวยนิรนามแต่งกายเซ็กซี่ในชุดเกาะอก มีฉากหลังเป็นทิวทัศน์คล้ายคลึงกับประเทศภูฏาน เข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการโพสต์ภาพดังกล่าวเข้าไปในเว็บไซต์ชื่อดัง พันธุ์ทิพย์ดอทคอม โดยในภาพที่มีการส่งต่อกันมานั้น ระบุที่มาของภาพว่ามีผู้แอบอ้างเป็นปาปารัสซี่ภูฏานนำภาพลับของเจ้าชายจิกมี มกุฎราชกุมารภูฏาน ถ่ายคู่แนบชิดกับสาวหมวยนิรนาม ออกเผยแพร่ส่งต่อไปทั่วประเทศ ใช้หัวข้อการส่งเมล์ว่า Crown Prince Jigme Girlfiend From Bhutan paparazzi หรือ ภาพแฟนสาวเจ้าชายจิกมี จากปาปารัสซี่ภูฏาน เป็นการส่งต่อๆกันในบรรดาเพื่อนฝูง และคนใกล้ชิด เริ่มระบาดตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เมื่อเวลา 17.00 น. มาจากเว็บไซต์ www.credit-suisee.com และ www.diethelmbusinesstravel.com

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากที่ผู้เล่นเน็ตได้รับภาพดังกล่าวแล้ว

ก็มีการโพสต์แสดงความคิดเห็นวิพากษ์ วิจารณ์อย่างคึกคัก ในกระดานข่าวของเว็บไซต์ดังๆของเมืองไทยหลายแห่ง โดยส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าจะเป็นภาพของจริง และน่าจะเป็นการใช้เทคนิคตัดต่อมากกว่า เพราะภูฏานเป็นประเทศหนาว มีอากาศเย็นเกือบตลอดปี ไม่สมเหตุสมผลที่หญิงสาวในภาพจะสวมใส่เสื้อเกาะอกอย่างในภาพ บางรายก็แสดงความคิดเห็นว่า อาจเป็นภาพตัดต่อ โดยเอาภาพฉากหลังของประเทศภูฏาน แล้วนำรูปเจ้าชายจิกมี และรูปตัวเองมาเอียงซบ ขณะเดียวกัน ก็มีผู้เล่นเน็ตจำนวนมาก ไม่เพียงไม่เชื่อว่าเป็นภาพของจริงแล้ว ยังร่วมประณามอย่างหนัก ทั้งผู้ตัดต่อและฟอร์เวิร์ดภาพเข้าไปในโลกไซเบอร์ ที่ไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำ ไม่มียางอาย ไม่ควรจะทำเช่นนี้ เพราะเจ้าชายจิกมีเป็นถึงมกุฎราชกุมาร และที่สำคัญ พระองค์ยังเป็นแขกบ้านแขกเมือง


จากนั้นในช่วงเย็นวันเดียวกัน บรรดาเว็บไซต์ที่มีการโพสต์ภาพและข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพดังกล่าว ต่างพร้อมใจกันลบกระทู้ออกจากหน้าเว็บโดยถ้วนหน้า เนื่องจากถือว่าเป็นข้อความหรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม แม้จะมีคนพยายามโพสต์กระทู้ เรื่องนี้เข้าไปซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ก็จะถูกลบข้อความออกทันทีเช่นกัน


ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังผู้ใกล้ชิดและมีความรู้เกี่ยวกับประเทศภูฏานเป็นอย่างดี ก็ต่างยืนยันว่าไม่น่าเป็นภาพของจริง

และเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่นำภาพมาฟอร์เวิร์ดเช่นนี้ โดย พ.ต.อ.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ตำรวจอารักขาเจ้าชายภูฏาน ตลอดระยะเวลาที่เสด็จเยือนประเทศไทย เปิดเผยว่า ในฐานะที่ติดตามอารักขาเจ้าชาย ภาพดังกล่าวจะต้องไม่ใช่ภาพที่ถ่ายในประเทศไทยแน่นอน เพราะเจ้าชายจิกมีจะสวมชุดประจำชาติภูฏานต่อเมื่อท่านจะต้องอยู่ในพิธีการเท่านั้น และหากอยู่ในพิธีการแล้ว เจ้าชายจิกมีจะไม่ทรงถ่ายภาพคู่กับใคร เว้นตอนที่เสด็จ ประทับที่ภูเก็ต เจ้าชายทรงโปรดให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของไทยถ่ายภาพคู่กับพระองค์เป็นที่ระลึกบ้าง ซึ่งก็ทรงสวมสูทหรือเสื้อสีเหลือง ไม่ได้สวมชุดประจำชาติ



ตำรวจอารักขาเจ้าชายภูฏานกล่าวด้วยว่า การนำภาพของเจ้าชายมาเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตนั้นไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะท่านมีศักดิ์เป็นถึงมกุฎราชกุมารของภูฏาน ซึ่งประชาชนทั้งประเทศภูฏานย่อมเคารพท่าน อีกทั้งการเสด็จมาประเทศไทยนั้น ก็เพื่อร่วมในงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ในฐานะของพระราชอาคันตุกะของพระเจ้า อยู่หัว ตลอดเวลาที่ประทับในไทย ทรงวางตัวเป็นเจ้าชายได้อย่างน่าประทับใจ ไม่ถือพระองค์ และไม่เคยปล่อยเนื้อ ปล่อยตัวไปไหนกับใคร การเผยแพร่ภาพแบบนี้เหมือนกับพวกที่คลั่งดารา ที่ไปสร้างกระแสฟีเวอร์ให้ตัวท่านดังขึ้นมา แล้วสุดท้ายก็มาปล่อยข่าวในทางลบ


การกระทำแบบนี้อาจจะมีผลกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไทยกับภูฏาน ทั้งยังเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าชายจะไปไหนต่อไหนโดยที่ตนไม่ทราบ แม้แต่จะมีบางช่วงที่ทรงเสด็จเสวยพระกระยาหารกับพระสหายที่โรงแรมบ้าง แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ต้องตามไปนั่งอยู่ห่างๆ


ขณะที่ ม.ร.ว.ดัจฉราพิมล ตุงคนาค ธิดาท่านภี หรือ ม.จ.ภีศเดช รัชนี

ซึ่งทรงสนิทชิดเชื้อกับพระราชวงศ์ ภูฏานเป็นอย่างดี และเจ้าชายจิกมีทรงให้ความเคารพนับถืออย่างมาก โดยทุกครั้งที่เสด็จเมืองไทยจะต้องเสด็จมาหา โดย ม.ร.ว.ดัจฉราพิมลกล่าวว่า ภาพที่ว่านั้นตัวเองยังไม่เห็น แล้วไม่รู้ว่าเป็นยังไง จึงให้ความคิดเห็นอะไรไม่ได้ แต่ก็อยากรู้ และอยากให้ช่วยส่งภาพมาให้ดู เพื่อจะได้รู้ว่า ลักษณะของภาพที่กำลังแพร่ระบาดทางเน็ตอยู่ ในขณะนี้เป็นยังไง


ส่วนนายเผ่าทอง ทองเจือ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแต่งกายของชาวภูฏานเป็นอย่างดี ก็ได้กล่าวถึงวัฒนธรรมการแต่งกายของหญิงภูฏานว่า จะเป็นลักษณะผ้าชิ้นเดียวห่มรอบตัว เกี่ยวด้วยโลหะซึ่งคุณภาพดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับฐานะ ด้วยประเทศมีอากาศค่อนข้างเย็นสบายตลอดทั้งปี จึงต้องใช้ผ้าผืนค่อนข้างหนา ส่วนที่จะแต่งตัวไม่มิดชิดนั้นเป็นไปไม่ได้เลย เพราะเขามีกฎหมายบังคับให้ประชาชนทุกคนเวลาออกนอกเคหสถาน จะต้องใส่ชุดประจำชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการท่องเที่ยวของเขา และจะไม่มีชาวภูฏานหันไปนิยมวัฒนธรรมฝรั่ง นุ่งเสื้อยืด กางเกงยีน


ส่วนนักท่องเที่ยวที่จะใส่เสื้อผ้าไม่ เรียบร้อยนั้น โดยส่วนตัวก็ไม่ค่อยเห็น หรือนักท่องเที่ยวอาจจะคิดกันเองว่าใส่แล้วกลายเป็นตัวประหลาด ท่ามกลางประชากรชาวภูฏานที่เขาใส่มิดชิดกันทั้งประเทศ อีกอย่างหนึ่ง สถานที่ท่องเที่ยวของภูฏานส่วนใหญ่ก็จะเป็นวัดวา อาราม เขาก็มีกฎหมายห้ามใส่ชุดไม่เรียบร้อย หรือเปิดเผยเนื้อตัวมากๆเข้าไปอยู่แล้ว เหมือนบ้านเรา






เช่นเดียวกับ ตุ้ม-เมตตา ตันติสัจธรรม ดีไซเนอร์ ร้านเสื้อห้องดัง เมตตา

แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ความจริงแล้วไม่รู้เรื่อง และยังไม่ได้เห็นภาพอะไรเลย แต่จะว่าไปพระองค์ก็เหมือนคนทั่วไป ที่อาจจะมีเพื่อนๆผู้หญิงในสมัยเรียนอยู่ที่เมืองนอก ภาพอย่างนี้ก็อาจจะเป็นไปได้ หากจะมีคนขอเข้ามาถ่ายรูปกับพระองค์ คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา

ส่วนที่ว่าผู้หญิงแต่งตัวสายเดี่ยวแล้วไม่เรียบร้อย ทำตัวไม่น่ารักนั้น ถ้าเป็นเมืองนอกช่วงซัมเมอร์ ซึ่งอากาศมันร้อน การใส่เสื้อผ้าอย่างนั้นก็ไม่ใช่ ว่าน่าเกลียด หรือไม่สุภาพอะไร แล้วเรื่องที่พระองค์มีพระสหายหญิงคนสนิทหรือไม่ อันนี้พี่ก็ไม่ทราบเลย ตอนเจอครั้งแรกพระองค์ก็ยังทรงพระเยาว์มาก ประมาณ 8-10 ชันษามั้ง แล้วก็ไม่รู้ว่าพระองค์มีหรือเปล่า เพราะไม่เคยถามถึงชีวิตส่วนพระองค์และก็ไม่เคยเห็นด้วย





ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า กำลังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสันติบาลและสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารตรวจสอบในเรื่องนี้ เพื่อพิจารณาดำเนินการทางด้านกฎหมาย

เนื่องจากอาจจะกระทบถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับภูฏาน เว็บไซต์ที่เผยแพร่ภาพดังกล่าวต้องรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร เพราะสถาบันกษัตริย์อยู่ในใจของคนไทยทุกคน เช่นเดียวกับคนภูฏาน ใจเขาใจเราต้องเห็นใจกันเพื่อสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกัน


ด้าน พล.ต.ต.พิสัณฑ์ จุลดิลก ผบก.ศูนย์ตรวจสอบ

วิเคราะห์การกระทำผิดทางเทคโนโลยี กล่าวว่า เพื่อไม่ให้ กระทบกระเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ภูฏาน ได้ประสานทางศูนย์ไอทีซี บล็อกไม่ให้เผยแพร่ภาพดังกล่าว พร้อมกับตรวจสอบซอฟต์แวร์ของเว็บไซต์พันธุ์ทิพย์ เพื่อหาตัวคนเผยแพร่ภาพต่อไป ซึ่งตรวจสอบได้จากหมายเลขโทรศัพท์




แหล่งข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์