สั่งเอาผิดนร.รุ่นพี่-ตบรุ่นน้อง รร.ส่งคู่กรณีเข้าค่ายธรรมะ

จงรัก สั่งดำเนินคดีมือตบและกองเชียร์ หลังพบมีผุ้เกี่ยวข้องอีก 2 คน ส่วนทางโรงเรียนจับเข้าค่ายธรรมะ และบำเพ็ญประโยชน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาฯ ติงไม่น่าเกิดเรื่อง เผยเหตุเกิดจากแย่งทอม


จากกรณีที่ ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียน นำภาพคลิปวีดีโอ นักเรียนนักเรียนระดับชั้น ปวช.ปีที่ 3 ตบนักเรียนชั้น ปวช.ปี่ที่ 1 ในห้องเรียนและจิกหัวกระชากผม จับหัวโขกกับเก้าอี้ และยังบังคับให้กราบเท้าขอโทษ ซึ่งเป็นนักเรียนของโรงเรียนพัทยาพานิชยการ (พี.แบค) ถนนพัทยา-นาเกลือ หมู่ที่ 5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยภาพดังกล่าวผู้ปกครองของนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์แล้วทำการบันทึกภาพไว้ในโทรศัพท์ ทนต่อพฤติกรรมโหดของนักเรียนไม่ได้ จึงได้นำภาพคลิปเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน


ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวัที่ 26 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้ขอเข้าพบ นายนิวัตร หมดราคี ผู้อำนวยการโรงเรียนพัทยาพาณิชยาการ (พี.แบค) ซึ่งได้เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 22 มิ.ย.49 ซึ่งตรงกับวันไหว้ครู หลังจากที่ไหว้ครูเรียบร้อยแล้ว ประมาณเที่ยงวัน เด็ก 2 คน ได้เกิดมีปากเสียงกันขึ้นทำให้นักเรียนรุ่นพี่ ได้ลากตัวนักเรียนรุ่นน้องขึ้นไปบนตึกเค ชั้น 3 โดยมีกลุ่มเพื่อนักเรียนร่วมห้องขึ้นไปร่วมในเหตุการณ์ด้วย เวลาประมาณ 14.00 น. เมื่อทราบเรื่องจึงได้ดำเนินการเชิญผู้ปกครองของนักเรียนและนักเรียนทั้งหมด 15 คน มารับทราบปัญหา


พร้อมไกล่เกลี่ยให้ผู้ปกครองทำความเข้าใจ และให้มีการขอโทษกัน และขอให้เลิกราต่อกัน ทั้งสองฝ่ายได้จับมือดีกันเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งได้ให้นักเรียนทั้งหมดลบภาพคลิปวีดีโอออกจากเมโมรี่สติ๊กให้หมดเรียบรัอยแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดภาพเหล่านี้จึงได้รอดออกไปสู่สื่อมวลชน รู้สึกเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ต่อมา นางนิตย์ โรจน์รัตนวาณิชย์ สำนักผู้ตรวจราชการประจำเขตตรวจราชการที่ 5 กระทรวงศึกษาธิการ อ.เมือง จ.ชลบุรี พร้อมคณะได้เดินทางมายังโรงเรียนพัทยาพาณิชยการ (พี.แบค) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกับให้ข้อแนะนำในเรื่องของการปฎิบัติต่อนักเรียน เพื่อให้นักเรียนทุกคนที่เกี่ยวข้องมีบทลงโทษให้นักเรียนสำนึกในการกระทำในกรอบที่ทางโรงเรียนทำได้ คือการนำนักเรียนไปหล่อหลอมจิตใจหรือเข้าค่ายธรรมะ และบำเพ็ญประโยชน์ให้กับสังคม ต่อไป และให้ทางโรงเรียนเข้มงวด กวดขันความประพฤติของนักเรียน อย่าให้เกิดเรื่องทำนองนี้อีกเพราะจะทำให้เสื่อมเสียสถาบันการศึกษา


พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้เดินทางมาติดตาม และตรวจข้อเท็จจริงกรณีภาพคลิปวีดีโอที่สื่อมวลชนนำไปเผยแพร่ ณ สภ.อ.บางละมุง โดยมี พ.ต.อ.นพดล ศรสำราญ ผกก.สภ.อ.บางละมุง ให้การต้อนรับ พร้อมได้เชิญผู้ปกครองและเด็กนักเรียนทั้งสองฝ่าย ผู้อำนวยการโรงเรียน และอาจารย์ฝ่ายปกครอง มาดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริง โดยได้ให้ตำรวจพาเด็กนักเรียนคนที่ตกทำร้ายร่างกายไปให้แพทย์ตรวจบาดแผลตามร่างกายเพื่อประกอบสำนวนคดี และให้ดำเนินคดีกับ น.ส.เอ ( นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ชั้น ปวช.ปีที่ 3 ในข้อหา ทำร้ายร่างกายและข่มขืนใจผู้อื่นให้จำต้องยอมโดยการบังคับ ให้ยกมือไหว้และกราบ ในส่วนความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่สามารถยอมความกันได้ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พันบาท

หลังการสอบสวนทราบว่าได้มีเพื่อนร่วมรุ่นที่เป็นกองเชียร์มีส่วนร่วมในการทำร้ายร่างกายอีก 2 คน ก็คือคนที่รากเก้าอี้ และคนที่ถอดรองเท้าให้เพื่อนตบ ซึ่งถือว่ามีส่วนร่วมในการร่วมกันทำร้ายร่างกาย จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาจารย์ปกครองเชิญตัวมารับทราบข้อหาต่อไป


นายนิวัตร หมดราคี ผู้อำนวยการโรงเรียนพัทยาพาณิชยการ (พี.แบค) เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องที่ทางโรงเรียนบกพร่องในเรื่องของการปกครองแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุจึงทราบข้อเท็จจริงว่าเป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนตัวของเด็กนักเรียนเอง ก็คือ ได้มีทอมซึ่งไม่ได้เรียนอยู่ในโรงเรียน มาชอบพอกับนักเรียนชั้นปีที่ 3 แต่ว่าด้วยความเจ้าชูของทอม ได้มาจีบ นักเรียนชั้นปีที่ 1 ทำให้รุ่นพี่ไม่พอใจ ถึงขั้นพาขึ้นไปตกลงกันในห้องและทำร้ายร่างกายดังกล่าว

นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีคลิปวิดีโอจากโทรศัพท์มือถือที่นักเรียนหญิงชั้น ปวช.3โรงเรียนพานิชย์แห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ตอบตีตุ่นน้องชั้น ปวช.ปี 1 ทั้งใช้มือจิกกระชากผมจับศีรษะโขกพื้น ใช้รองเท้าตีศีรษะและบังคับให้กราบขอโทษว่าการที่เด็กตบตีกันภายในโรงเรียนทางครูอาจารย์คงปฏิเสธไม่ได้ ปัญหาการใช้ความรุนแรงส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมเลียนแบบ โดยเฉพาะจากพ่อแม่ ซึ่งเป็นต้นแบบของเด็ก หากพ่อแม่ทะเลาะตบตีกันให้เด็กเห็นเด็กก็อาจมีพฤติกรรมเลียนแบบเกิดขึ้นได้


อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี ดังนั้นควรมีการปลูกฝังให้รุ่นพี่รักและปกป้องรุ่นน้อง และรุ่นน้องเคารพรุ่นพี่ มิใช่คนที่แข็งแรงกว่าเป็นหัวโจกทำร้ายคนอื่นเป็นฮีโร่ เพราะมิฉะนั้นเราอาจจะเห็นภาพรับจ้างตบข้ามโรงเรียน ตนเห็นว่า ทางโรงเรียนควรส่งเสริมกิจกรรมที่ทำให้เกิดความรักและสามัคคี เช่น กีฬา ดนตรี การออกแคมป์ หรือ ทำกิจกรรมกลุ่มในลักษณะต่าง ๆ ในลักษณะการทำความดีช่วยเหลือซึ่งกันและกัน


ผมว่ากิจกรรมรับน้องเป็นเรื่องที่ดี กิจกรรมนี้ควรเริ่มตั้งแต่ระดับมัธยมด้วยซ้ำ นอกจากนี้กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ก็ยังมีความสำคัญ ที่จะลดความรุนแรงในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยที่พร้อมจะเลียนแบบในสิ่งดีและสิ่งไม่ดี การดึงเด็กมาอยู่ในเครื่องแบบจะช่วยให้ลดปัญหาดังกล่าวได้ เหมือนกับการนำเด็กนักเรียนอาชีวะที่ยกพวกตีกันไปฝึกในค่ายทหาร อยางไรก็ตามตอนนี้มีการตบตีกันมากขึ้น กลายเป็นแฟชั่นไปแล้ว โดยเฉพาะผู้หญิงที่ตบตีกันในโรงเรียน ทางโรงเรียนควรรีบเข้าไปแก้ไขปัญหาโดยเร็ว หากเด็กกลุ่มไหนมีปัญหาก็รีบเข้าไปควบคุม จะบอกว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้นพ.มล.สมชาย กล่าว

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก