วิกฤตการเงินทำคนตกงานพุ่ง210ล.

ไอแอลโอชี้วิกฤตการเงินครั้งนี้จะทำให้คนตกงานทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 210 ล้านคนภายในสิ้นปีหน้า

ตั้งเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์นั่งหัวหน้าคณะทำงานให้คำปรึกษาด้านการปฏิรูประบบการเงิน เตือนอาเซียนระวังผลกระทบ หากไม่เร่งแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะความชำนาญ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) หน่วยงานในสังกัดองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุเตือนเมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า วิกฤตการเงินโลกที่เกิดขึ้นจะทำให้มีคนตกงานทั่วโลกเพิ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2552 เป็นจำนวนทั้งสิ้นราว 210 ล้านคน นับเป็นอัตราการว่างงานทั่วโลกสูงที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

ทั้งนี้ อัตราการว่างงานทั่วโลกดังกล่าวเป็นการรวมเอาตัวเลขคนตกงานในขณะนี้จนถึงสิ้นปีหน้า ซึ่งจะมีจำนวนอย่างน้อยกว่า 20 ล้านคน เอาไว้ด้วย ทำให้อัตรารวมการว่างงานทั่วโลกมีอัตราพุ่งสูงกว่าระดับ 200 ล้านคน เป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ

นายมิเกล เดสโกโต บร็อคแมน ประธานสมัชชาใหญ่ยูเอ็น กล่าวว่า ตนจะตั้งคณะทำงานระดับสูงขึ้นเพื่อคอยให้คำแนะนำปรึกษาในการปฏิรูประบบการเงินโลกที่สะท้อนถึงสภาวะเศรษฐกิจแห่งศตวรรษที่ 21 ที่แท้จริง โดยคณะทำงานชุดนี้จะมีนายโจเซฟ สติกลิตซ์ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกัน เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งยังจะทำงานร่วมในคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตที่สำนักงานใหญ่ยูเอ็นในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ด้วย

นายเดสโกโตชี้ด้วยว่า วิกฤตการเงินในปัจจุบันไม่สามารถแก้ไขได้โดยผ่านการค่อยๆ ตอบสนองระดับชาติหรือระดับภูมิภาค หากแต่จำเป็นจะต้องประสานความพยายามระดับโลกร่วมกันที่นำโดยยูเอ็นซึ่งเป็นหนทางที่ดีสุด

ด้านนายฆวน โซมาเวีย ผู้อำนวยการใหญ่ไอแอลโอ กล่าวที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ว่าเมื่อมีการทบทวนแผนกู้วิกฤต บรรดาผู้นำโลกจำเป็นต้องมุ่งความสนใจไปที่ผลกระทบที่มีต่อรายบุคคลมากกว่าที่จะคำนึงถึงแต่สถาบันการเงิน เพราะมีความชัดเจนแล้วว่าประชาชนกำลังได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงิน ซึ่งมาตรการที่จะมีออกมานั้นควรจะจัดหาเงินช่วยเหลือผู้ที่ตกงานและให้หลักประกันคุ้มครองทางด้านสังคมอื่นๆ ด้วย อาทิ การคุ้มครองเบี้ยบำนาญ เป็นต้น

รายงานการคาดการณ์อัตราการว่างงานทั่วโลกของไอแอลโออ้างอิงข้อมูลรายงานการคาดการณ์ล่าสุดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศที่ชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและยุโรปจะหยุดการขยายตัวอย่างแท้จริง

ส่วนเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเติบโตเพียงแค่ 0.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ไอแอลโอยังระบุเตือนชาติเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ว่าจะได้รับผลกระทบ หากปัญหาการขาดแคลนแรงงานระดับฝ่ายบริหารจัดการและแรงงานที่มีทักษะความชำนาญยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยปัญหาการขาดแคลนแรงงานดังกล่าวจะไม่ได้จำกัดวงอยู่ในเฉพาะบริษัทข้ามชาติอีกต่อไป แต่ยังจะกระทบต่อบริษัทในท้องถิ่นที่ต้องการขยายงานไปในระดับสากลเพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อภาวะการแข่งขันของบริษัทและการพัฒนาในอนาคตของอาเซียน (เอพี/เอเอฟพี)

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์