บีบคอสินค้าลดราคาตามนํ้ามัน

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว. พาณิชย์ สั่งการให้เรียกผู้ผลิต ผู้ประกอบการสินค้าทุกกลุ่ม

โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารสำเร็จรูป และสินค้าที่มีต้นทุนขึ้นลงเกี่ยวเนื่อง กับราคาน้ำมัน เช่น ปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูพืช อาหารสัตว์ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับประชาชนจำนวนมาก เข้ามาหารือเพื่อขอความร่วมมือให้ปรับลดราคาลงในสัปดาห์นี้ เนื่องจากเวลานี้ราคาน้ำมันลดราคาลงมากแล้ว ราคาสินค้าต้องปรับลดลงมาด้วย เพื่อสร้างความเป็นธรรมและลดค่าครองชีพแก่ผู้บริโภค
 
สำหรับกลุ่มสินค้าที่กรมจะเร่งลดราคา ได้แก่ กลุ่มปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูพืช และอาหารสัตว์

โดยเฉพาะปุ๋ยเคมีที่จะประชุมคณะอนุกรรมการปุ๋ยในวันที่ 21 ต.ค.นี้ เนื่องจากสินค้ากลุ่มนี้เป็นต้นทุนสำคัญของสินค้าเกษตรและเป็นต้นทางสำคัญที่ทำให้สินค้าหลายรายการปรับราคาขึ้น หากสามารถลดราคา ได้ จะช่วยลดต้นทุนการเพาะปลูกให้เกษตรกร ขณะเดียวกันช่วยลดต้นทุนการผลิตสินค้าได้อีกทาง อีกทั้งก่อนหน้านี้กรมเคยอนุมัติให้สินค้าเหล่านี้ขึ้นราคาสินค้าไปแล้วในช่วงน้ำมันขึ้น ดังนั้นเมื่อน้ำมันลดราคาต้องปรับลงตาม
 
ส่วนกลุ่มอาหารสำเร็จรูปและสินค้า  อุปโภคบริโภค ต้องหารือรายละเอียดต้นทุนก่อน

แต่ที่ผ่านมาสินค้ากลุ่มนี้ไม่มีการขยับราคา จนทำให้ประชาชนเดือดร้อนมาก เพราะมีการจัดโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษตลอด เพื่อกระตุ้นยอดขายและแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด แต่ทั้งหมดจะต้องประชุมให้รอบคอบอีกครั้งเพื่อช่วยเหลือประชาชน และผู้ผลิตให้อยู่ร่วมกันได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับสินค้าที่ลดราคาได้ทันที อาทิ เหล็ก วัสดุก่อสร้าง น้ำมันปาล์มที่ต้นทุนผันผวนขึ้นลงตามตลาดโลก และขณะนี้ได้ปรับราคาลงมาแล้ว
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์พยายามขอปรับลดราคาสินค้ากลุ่มต้นทุนการเกษตรอันดับแรก

เพราะหากลดราคาอาหารสัตว์ได้ จะช่วยให้ราคาเนื้อสัตว์ หมู กุ้ง ไก่ ลดราคาด้วย ขณะที่ราคาปุ๋ยเคมี และยาปราบศัตรูพืช ก็จะ  ช่วยลดต้นทุนการปลูกพืชได้ ซึ่งจะทำให้สินค้าอาหารลดลงตาม อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะลดราคาได้ทันที และอาจใช้เวลาไม่น้อยกว่า 60 วัน เพราะส่วนใหญ่สินค้ากลุ่มนี้เป็นสต๊อกเก่า จึงต้องอาศัยเวลาในการปรับลดลง ส่วนกลุ่มที่ผู้บริโภค ร้องเรียนเข้ามามาก คือ กลุ่มอาหารสำเร็จรูปที่ช่วงน้ำมันแพงใน 3-4 เดือนก่อนหน้านี้ ได้ขยับขึ้นราคาถึงจานละ 5-10 บาท เช่น ก๋วยเตี๋ยว หรืออาหารจานเดียวได้เพิ่มจาก 25 บาท เป็น 30-35 บาท จึงต้องการให้กรมการค้าภายในช่วยตรวจสอบลดราคาลง
  
นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังการประชุมสมัชชาตลาดสดว่า กลุ่มตลาดสดได้รับผลกระทบจากการขยายสาขาของห้างค้าปลีกรายใหญ่อย่างมาก เพราะห้างค้าปลีกได้พัฒนารูปแบบการทำธุรกิจ โดยหันมาเปิดเป็นตลาดสดติดแอร์ แข่งกับตลาดสดทั่วไป.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์