พม.คาดกว่า3.6ล้านพนันบอลเงินสะพัดเกือบ5หมื่นล้านบาท

ศูนย์การเฝ้าระวังและเตือนภัยทางสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับศูนย์การพัฒนาแบบยั่งยืน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) แถลงผลการจัดทำแบบสำรวจและวิเคราะห์ผลกระทบปรากฏการณ์แข่งขันฟุตบอลโลกกับสังคมไทย โดยนายสุรเดช ฉายะเกษตริน ผู้ตรวจราชการ พม. ในฐานะผู้บริหารงานศูนย์การเฝ้าระวังฯ กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์การเล่นพนันบอลทั่วประเทศ จากการสำรวจประชากรทั่วประเทศ 29,869 คน ระหว่าง 14-16 มิถุนายนที่ผ่านมา พบว่ามีผู้เล่นพนันบอลทั่วประเทศกว่า 3.6 ล้านคน เป็นเพศชายประมาณ 2.8 ล้านคน หรือ 1,000 คน มี 95 คนที่เล่นพนันบอล เพศหญิง 750,000 คน หรือ 1,000 คน มี 24 คนที่เล่นพนันบอล



ทางด้านวงเงินหมุนเวียนอันเนื่องมาจากการเล่นพนัน คาดว่าต่อคู่มีเงินหมุนเวียนประมาณ 741 ล้านบาท ผ่านมือเพศชาย 660 ล้านบาท เพศหญิง 81 ล้านบาท ซึ่งปราศจากมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาคาดว่าเมื่อสิ้นสุดฤดูการแข่งขัน จะมีเงินหมุนเวียนในการเล่นพนันบอลมากถึง 47,453 ล้านบาท



สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์การเล่นพนันบอลอยู่ในระดับรุนแรงและต้องเตือนภัย ได้แก่ สมุทรสาคร ชัยนาท ลำปาง สุโขทัย น่าน สุราษฎร์ธานี และพระนครศรีอยุธยา ส่วนจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดของโต๊ะบอล เจ้ามือรับเล่นพนันบอล ในระดับที่มีผลกระทบรุนแรงต่อสังคม คือ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี ราชบุรี น่าน อุตรดิตถ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และสุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ ในอันดับต้น ๆ พบว่าเป็นจังหวัดใกล้เคียงกรุงเทพฯ และมีวงเงินสูง ซึ่งกลุ่มจังหวัดเหล่านี้ต้องมีมาตรการแก้ไขพิเศษต่อไป ซึ่ง พม.จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทางด้านนายสังคม คุณคณากรสกุล นักวิจัยประจำศูนย์การเฝ้าระวังและเตือนภัยทางสังคม กล่าวว่า การเล่นพนันบอลในกรุงเทพฯ ไม่ติดอยู่ในระดับรุนแรงและมีการเตือนภัย และไม่ติดอยู่ในจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดของโต๊ะบอล เพราะเมื่อนำจำนวนผู้เล่นเทียบกับจำนวนประชากรแล้ว กรุงเทพฯ มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ระดับเพียงเฝ้าระวัง แต่วงเงินการพนันนั้น กรุงเทพฯ อยู่ในอันดับสูงสุด คือ 147 ล้านบาทต่อคู่ ส่วนจังหวัดน่านและสุราษฎร์ธานีที่ติดทั้ง 2 อันดับ ทั้งที่เป็นเมืองน่าอยู่ เป็นสิ่งที่ศูนย์เฝ้าระวังฯ จะนำข้อมูลให้แต่ละจังหวัดไปดำเนินการแก้ไขต่อไป



สำหรับผลสำรวจครั้งนี้ สำรวจในพื้นที่ 75 จังหวัด ยกเว้นสงขลา เนื่องจากติดปัญหาบางประการ ดำเนินการโดยนักเฝ้าระวังและเตือนภัยทางสังคมแต่ละจังหวัด กลุ่มประชากรเป็นนักเรียน นักศึกษาระดับมัธยมศึกษา ปวช. ปวส. ปริญญาตรี และประชาชนทั่วไป โดยผู้ให้ข้อมูลเป็นเพศชาย ร้อยละ 74.89 และเพศหญิงร้อยละ 41.58 ซึ่งผลสำรวจพบว่าถึงร้อยละ 74.89 ติดตามการแข่งขันฟุตบอลโลก และร้อยละ 25.11 ไม่ติดตาม สำหรับช่องทางการติดตามการแข่งขัน อันดับ 1 คือสถานีโทรทัศน์/วิทยุ รองลงมาคือหนังสือพิมพ์ การพูดคุย สื่อสิ่งพิมพ์ด้านกีฬา และอินเทอร์เน็ต , สำหรับการเล่นพนันฟุตบอลโลก 2006 พบว่า มีผู้เล่นแล้วและผู้คาดว่าจะเล่น คิดเป็นร้อยละ 18.90 และมีผู้ที่ไม่เล่น



คิดเป็นร้อยละ 81.10 , แหล่งพนันฟุตบอล พบว่าเล่นพนันกับเพื่อน ร้อยละ 45.60 ญาติพี่น้อง ร้อยละ 10.13 อินเทอร์เน็ต ร้อยละ 2.79 และอื่น ๆ ร้อยละ 6.35 , จำนวนเงินต่อคู่ที่เล่น จำแนกตามความจริงจังที่เล่น พบว่าผู้ที่เล่นเพื่อความสนุก เฉลี่ยต่อคู 772 บาท ผู้ที่เล่นเพื่อเชียร์ทีมที่ชอบ เฉลี่ยต่อคู่ 754 บาท และผู้ที่เล่นเพื่อหาเงิน เฉลี่ยต่อคู่ 1,500 บาท , แหล่งที่มาของเงินที่ใช้เล่นการพนัน พบว่า ใช้เงินส่วนตัวเล่น คิดเป็นร้อยละ 66.53 รองลงมาคือใช้เงินจากผู้ปกครองหรือผู้อื่นให้ คิดเป็นร้อยละ 22.77 จากการกู้ยืมคิดเป็นร้อยละ 6.07 และจากแหล่งอื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 4.62

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก