ฮือฮาหนุ่ม ´เป๊ก´ โฉมหน้า! ละม้าย ´เจ้าจิกมี´

"เจ้าชาย เสด็จกลับ"



เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ (19 มิ.ย.) เจ้าชายจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก มกุฎราชกุมารแห่งภูฏาน ได้เสด็จเข้าเยี่ยม ม.จ.ภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ณ วังประมวญ เพื่อทูลลาก่อนเสด็จฯกลับประเทศภูฏาน ในเวลา 05.50 น. ของวันนี้ (20 มิ.ย.) โดยการเข้าเยี่ยม ม.จ.ภีศเดช ของเจ้าชายจิกมี กินเวลานานประมาณ 2 ชั่วโมง ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง โดยมีพระญาติสนิทในราชตระกูลรัชนีร่วมเข้าเฝ้าฯ เจ้าชายจิกมีอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังมีประชาชนชาวไทย ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้ใหญ่ ที่ทราบข่าวการเสด็จฯมาวังประมวญของมกุฎราชกุมารแห่งภูฏาน มายืนเรียงรายรอรับเสด็จ พร้อมส่งเสียงกรี๊ดและโบกมือต้อนรับอย่างอบอุ่น ตลอด 2 ข้างทางที่รถยนต์ที่ประทับแล่นผ่านทางเข้าวังประมวญ ซึ่งเจ้าชายจิกมีทรงโบกพระหัตถ์ตอบเป็นการทักทายประชาชนชาวไทยด้วยพระพักตร์ ยิ้มแย้มแจ่มใส


ในโอกาสนี้ ม.จ.ภีศเดชทรงมอบหนังสือที่ระลึกแก่เจ้าชายจิกมี จำนวน 2 เล่ม คือ ชีวิตชั้นๆ เป็นอัตชีวประวัติของ ม.จ.ภีศเดช รัชนี ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ถึงปัจจุบัน ส่วนอีกเล่มเป็นตำราปรุงอาหาร ชื่อ อร่อยกับดอยคำ ฉบับภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นที่ถูกพระราชหฤทัยของเจ้าชายจิกมีมาก เนื่องเพราะพระองค์ทรงโปรดการเข้าครัวทำอาหารให้พระมารดาเสวยอยู่เป็นประจำ ขณะเดียวกัน มกุฎราชกุมารภูฏานทรงมอบรูปแขวนภาพพิมพ์พระพุทธรูปภูฏาน เป็นของขวัญแก่ ม.จ.ภีศเดชด้วย สร้างความปลื้มปีติแก่ ม.จ.ภีศเดชเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหลังจากเจ้าชายจิกมีเสด็จฯกลับ ม.จ.ภีศเดช รัชนี ได้นำภาพดังกล่าวขึ้นแขวนที่ผนังห้องทันที


"ไม่ทรงถือองค์ ชาวไทยชื่นชม"




ต่อมาเวลา 16.30 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายโยธิน ประยูรโภคราช เป็นผู้แทนพระองค์ นำของที่ระลึกมาถวายแด่เจ้าชายจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก มกุฎราชกุมารแห่งภูฏาน ณ วังประมวญ เป็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ขณะสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงสัมผัสพระหัตถ์ทักทายกับเจ้าชายจิกมี ในวันเสด็จ พระราชดำเนินถึงประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมเฉลิมฉลองงานครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


และภาพพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงฉายคู่กับเจ้าชายจิกมี กับภาพ เจ้าชายจิกมี ขณะเข้าเฝ้าฯสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกร รัศมีโชติ ณ วังศุโขทัย รวมทั้งหมด 3 ภาพ ซึ่งเจ้าชายจิกมีทรงปลื้มพระทัยเป็นยิ่งนัก และมีรับสั่งขอบพระทัยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ผ่านผู้แทนพระองค์อย่างนอบน้อม


ก่อนทูลลา ม.จ.ภีศเดช รัชนี เสด็จฯกลับโรงแรมที่ประทับ ในเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน มกุฎราชกุมารจิกมีประทานพระวโรกาสให้สื่อมวลชนไทยและประชาชน ได้เข้าเฝ้าฯและถ่ายพระรูปอย่างไม่ถือพระองค์ ณ วังประมวญ เมื่อผู้สื่อข่าวไทยรัฐทูลถามว่า ทรงรู้สึกอย่างไรบ้างที่คนไทยปลื้มในตัวพระองค์มาก เจ้าชายจิกมีรับสั่งตอบเป็นภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำว่า ขอบคุณครับ พร้อมกับทรงยกพระหัตถ์ไหว้อย่างน่าประทับใจยิ่ง และกล่าวว่า พระองค์ทรงทราบว่าคนไทยรักพระองค์ และขอบคุณที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น


พร้อมกันนี้ ทรงอวยพรให้ คนไทยทุกคนมีความสุขและสุขภาพดีกันทั่วหน้า นอกจากนี้ เจ้าชายจิกมียังทรงยื่นพระหัตถ์ทักทายเด็กนักเรียนโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ที่มารอเฝ้ากันเป็นกลุ่ม และทรงรับริสต์แบนด์สีเหลืองที่มีข้อความเรารักพระเจ้าอยู่หัว ที่ประชาชนมาถวายให้ พร้อมกับทรงสวมใส่ทันที สร้างความปลื้มปีติแก่ผู้เฝ้ารับเสด็จและพากันกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เจ้าชายจิกมีทรงมีพระจริยาวัตรงดงาม สมกับคำร่ำลือว่าพระองค์ทรงรักเด็ก มีพระนิสัยน่ารัก ไม่ถือพระองค์ และเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวภูฏาน



"ลือ เป๊ก หน้าคล้าย เจ้าชาย"




ระหว่างการเสด็จเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ เจ้าชายจิกมีได้เสด็จเข้าเยี่ยม ม.จ.ภีศเดช รัชนี ณ วังประมวญแล้วครั้งหนึ่ง ตั้งแต่วันแรกที่เสด็จถึงเมืองไทย โดยเสด็จ เป็นการส่วนพระองค์ และหลายปีที่ผ่านมาเจ้าชายจิกมีทรงเคยเสด็จเยือนประเทศไทยหลายครั้งพร้อมกับพระ มารดา และทรงมีความสนิทสนมกับ ม.จ.ภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวงเป็นพิเศษ เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้โครงการหลวง ดำเนินการช่วยเหลือพัฒนาพันธุ์พืชเมืองหนาวให้ประเทศภูฏาน สำหรับส่งออกเป็นพืชเศรษฐกิจมาเป็นเวลาต่อเนื่องเกือบ 4 ปี


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประมาณเดือน ก.ค.นี้ เจ้าชายจิกมีจะเสด็จเยือนประเทศไทยอีกครั้ง เพื่อทอดพระเนตรการดำเนินงานของโครงการหลวง ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ โดยจะทรงศึกษาแนวทางไปใช้ในการพัฒนาการเกษตรของประเทศภูฏาน ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศคล้ายคลึงกับดอยทางเหนือของไทย



ขณะที่กระแสความคลั่งไคล้และประทับใจในตัวเจ้าชายจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กำลังฟีเวอร์สุดๆในหมู่สาวๆ และประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ เนื่องเพราะทรงมีพระจริยาวัตรที่งดงาม นอบน้อมถ่อมตน ทั้งยังทรงมีพระสิริโฉมงดงาม มีพระอัธยาศัยเป็นกันเองไม่ถือพระองค์ โดยเฉพาะสาวๆต่างเสาะหารูปเจ้าชายจิกมี ระหว่างการเสด็จไปเยือนที่ต่างๆมารวบรวมเก็บไว้เป็นที่ระลึก พร้อมทั้งมีการส่งภาพต่อๆกันด้วยวิธีการฟอร์เวิร์ดอีเมล์ ทางอินเตอร์เน็ตด้วย ล่าสุดได้มีกระแสข่าวว่า ขณะนี้กำลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันในหมู่สาวๆว่า มีผู้มีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับเจ้าชายจิกมีเหมือนกับเป็นฝาแฝด กันเลยทีเดียว คือ ร.ท.สัณชัย เองตระกูล ชื่อเล่นเป๊ก นายทหารหนุ่มสามีของดาราสาว ธัญญ่า เองตระกูล ขณะเดียวกันก็มีผู้ส่งภาพเปรียบเทียบให้เห็นถึงความเหมือนของเจ้าชายจิกมีกับ ร.ท.สัณชัย มาที่ น.ส.พ.ไทยรัฐด้วย


เอเอฟพีรายงาน "ชาวไทยชื่นชมเจ้าชายมาก"




ต่อมา ร.ท.สัณชัยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้ยินข่าวเรื่องตนมีใบหน้าละม้ายคล้ายกับเจ้าชายจิกมีมาหลายวันแล้ว โดยมีคนที่สนิทสนมกันโทรศัพท์มาเล่าให้ฟัง จึงไปเปิดอินเตอร์เน็ตดูก็พบภาพเจ้าชายจิกมีและภาพตนถูกโพสอยู่คู่กัน ตอนมองแรกๆดูไปแล้วไม่เหมือน แต่พอมองไปนานๆบางรูปก็คล้ายเหมือนกันโดยเฉพาะตรงรอยยิ้ม แม้แต่ภรรยาตนคือธัญญ่ายังแซวว่าตนเป็นเจ้าชาย ส่วนตัวรู้สึกดี เพราะผู้ที่หน้าเหมือนตนมีศักดิ์สูงส่งเป็นถึงเจ้าชายแห่งภูฏาน อย่างไรก็ตาม ตนติดตามข่าวคราวของเจ้าชายจิกมีโดยตลอดระหว่างที่เสด็จประทับอยู่ในเมืองไทยและชื่นชมในพระจริยาวัตรอันงดงามของพระองค์ด้วย



ด้านสำนักข่าวต่างประเทศก็ได้รายงานข่าวกระแส ความชื่นชมเจ้าชายจิกมีของประชาชนชาวไทย โดยสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เจ้าชายจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก มกุฎราชกุมารแห่งภูฏาน ซึ่งเสด็จเยือนประเทศไทย ในฐานะพระราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เข้าร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ได้กลายเป็นขวัญใจของสาวไทยจำนวนมาก และทรงได้รับความนิยมจากสื่อมวลชน ซึ่งพากันรายงานข่าวขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับติดต่อกันหลายวัน หนึ่งในหญิงไทยซึ่งประทับใจในตัวเจ้าชายแห่งภูฏาน เผยกับเอเอฟพีว่า พระองค์ทรงชนะใจคนไทยด้วยพระอิริยาบถ ที่ไม่ถือพระองค์ ทรงนอบน้อม และทรงเป็นกันเอง



"ขายกันทั่ว ภาพถ่ายที่ระลึกงานฯ"




เอเอฟพียังรายงานว่า เว็บไซต์แสดงความคิดเห็นชื่อดังอย่างพันธุ์ทิพย์ในช่วงนี้ เต็มไปด้วยข้อความเกี่ยวกับเจ้าชายและการสอบถามถึงการเดินทางไปเที่ยวภูฏาน ซึ่งหนึ่งในหญิงสาวที่ชื่นชมเจ้าชายเขียนข้อความในกระทู้ เผยว่า ภูฏานเป็นประเทศที่เธออยากไปมากที่สุด เพราะมีเจ้าชายจิกมีประทับอยู่


ทางด้านพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ และสมเด็จพระราชินีซิลเวียแห่งสวีเดน ซึ่งเสด็จเป็นการส่วนพระองค์เยือนจังหวัดภูเก็ตตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. นั้น เมื่อตอนสายวานนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ และสมเด็จพระราชินีซิลเวียแห่งสวีเดน ได้เสด็จไปยังโรงเรียนสตรีภูเก็ต อ.เมืองภูเก็ต เยี่ยมนักเรียนผู้ประสบภัยสึนามิจำนวน 23 คน พร้อมทั้งพระราชทานทุนการศึกษาแก่นักเรียนจำนวน 5 ทุน และทรงศึกษาศูนย์ข้อมูลสารสนเทศสึนามิ โดยมีนายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผวจ.ภูเก็ต และเหล่าข้าราชการรวมทั้งบรรดานักเรียนของโรงเรียนถวายการต้อนรับ



ทางด้านบรรยากาศการหาซื้อของที่ระลึกเนื่องในพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายงานประวัติศาสตร์ หรือเสื้อยืดสีเหลือง รวมทั้งของที่ระลึกอื่นๆ ยังคงมีความคึกคักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพวันประวัติศาสตร์ของงานพระราชพิธีทั้งหมด ที่มีผู้นำมาวางขายกันแทบทุกหย่อมหญ้าทั่วทุกมุมเมือง โดยเฉพาะที่ ย่านท่าพระจันทร์ ฝั่งตรงข้ามวัดมหาธาตุ และที่หน้าร้านถ่ายรูปตรงข้ามห้ามเซ็นทรัล ลาดพร้าว มีประชาชนจำนวนมากไปเดินหาซื้อของที่ระลึกและพระบรมฉายาลักษณ์


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนพระประมุขและพระราชวงศ์องค์อื่นๆ จาก 25 ประเทศ ที่ทรงเข้าร่วมใน พระราชพิธีฉลองฯ ที่พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากนำมาตั้งแผงขาย เพื่อนำไปบูชาและเก็บเป็นที่ระลึกทางประวัติศาสตร์ กันอย่างคึกคัก ทำให้ร้านล้าง-อัดรูป หลายร้านในละแวกดังกล่าว ถึงขั้นหยุดให้บริการอัด-ขยายภาพถ่ายทั่วไป และเปลี่ยนมาอัด-ขยายภาพพระบรมฉายาลักษณ์ขายแทน



"ตั้งแต่ 10 บาท ถึง 2,000"




โดยภาพที่มีการนำมาขายส่วนใหญ่ เป็นภาพที่ดาวน์โหลดมาจากเว็บไซต์ www.60thcelebrations.com และภาพที่มีการตัดมาจากหนังสือพิมพ์ต่างๆ นำมาสแกนแล้วตีพิมพ์ใหม่ลงในกระดาษโปสต์การ์ด กระดาษอาร์ตมันอย่างสวยงาม สำหรับราคาจำหน่าย มีตั้งแต่ราคาใบละ 10 บาท ไปจนถึงอัดกรอบไม้สีทองหรู ราคารูปละ 1,200-2,000 บาท ทำให้พ่อค้าแม่ค้าหลายคนรับทรัพย์ยิ้มแก้มปริกันถ้วนหน้า ขนาดบางรายถึงขั้นหยุดขายขนม เปลี่ยนมาเปิดแผงขายภาพเป็นการชั่วคราวแทน






แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์