ทาบน้องเก๋โปรโมตข้าวเหนียว

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้ทาบทาม น้องเก๋-ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล ฮีโร่ยกลูกเหล็กเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2008 พร้อมด้วย ยิ่งยง ยอดบัวงาม ไมค์ ภิรมย์พร ซูเปอร์สตาร์นักร้องลูกทุ่ง และเขาทราย กาแล็กซี่  แชมป์โลกขวัญใจชาวไทย

มาช่วยประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ข้าวเหนียว ให้คนไทยบริโภคมากขึ้น เพื่อช่วยแก้ปัญหาราคาข้าวเหนียวตกต่ำ

 
“ระหว่างวันที่ 29-31 ส.ค.นี้ กรมฯจัดงานมหกรรมข้าวเหนียวเทิดเกล้า ที่กรมส่งเสริมการส่งออก ถนนรัชดาภิเษก โดยได้เชิญศิลปิน ดารา นักร้อง และนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขัน  กีฬาโอลิมปิก มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อรณรงค์ส่งเสริมการส่งออกข้าวเหนียว และรณรงค์ให้คนไทยบริโภคข้าวเหนียวเพิ่ม ให้เป็นเหมือนอาหารประจำวัน ดังเช่นข้าวเจ้าและข้าวหอมมะลิ
 
นอกจากนี้ จะมีการประสานเพิ่มรายการข้าวเหนียวไปยังสถาบันการศึกษาในโครงการอาหารกลางวัน

นักโทษในเรือนจำและทหารที่ปฏิบัติงานตามชายแดนและ 3 จังหวัดภาคใต้ ให้รับประทานข้าวเหนียวมากขึ้น ตามแนวคิดของพ.ต.ท.บรรยิน  ตั้งภากรณ์ รมช.พาณิชย์ เนื่องจากขณะนี้ปัญหา  ที่ข้าวเหนียวราคาไม่สูง เนื่องจากคนไทยยังบริโภคในวงจำกัด เพียงแค่ภาคอีสานเท่านั้น ทำให้ผลผลิตที่ออกมามีมากกว่าความต้องการ อีกทั้ง  ยังส่งออกไปได้ลำบาก เพราะต่างประเทศยังไม่นิยมบริโภคมากนัก มีเพียงแค่จีน และญี่ปุ่นเท่านั้น ที่นำเข้าไปใช้เป็นส่วนผลิตขนม และสุรา ท้องถิ่น
 
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งความคืบหน้าการนิรโทษกรรมแก่โรงสีในบัญชีดำว่า องค์การคลังสินค้า (อคส.) กำลังรวบรวมข้อมูลโรงสีที่ถูกขึ้นบัญชีดำ

และแบ่งกลุ่มฐานความผิดเพื่อพิจารณาผ่อนผันให้เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวรัฐบาลปลายปีนี้ โดยในส่วนโรงสีที่ผิดสัญญากับรัฐ เนื่องจากประสบปัญหาสภาพคล่อง รัฐบาลยินดีจะให้กลับเข้าร่วมโครงการอีกครั้งเพราะไม่ได้จงใจกระทำผิด เนื่องจากช่วงปี 49-51 ราคาข้าวผันผวนมาก ทำให้ไม่สามารถหาเงินซื้อข้าวที่ประมูลไว้ได้ แต่ในกลุ่มที่จงใจปลอมปนข้าวและขโมยข้าวรัฐที่ฝากเก็บไว้ จะไม่อนุญาตให้เข้าร่วมโครงการและจะดำเนินคดีเอาความผิดแน่นอน
 
ทั้งนี้ หากจัดกลุ่มความผิดได้ โรงสีที่จะได้รับการผ่อนปรนจะต้องชำระค่าปรับตามที่ตกลงไว้

แต่เม็ดเงินที่โรงสีจ่ายจะไม่เท่า 1,400 ล้านบาท ตามเม็ดเงินที่รัฐประเมิน เนื่องจากเงินดังกล่าวเป็นการคำนวณค่าปรับในอนาคตรวมไว้ ไม่ใช่หนี้ที่รัฐเป็นเจ้าหนี้อยู่ และการทำเช่นนี้ไม่ถือว่าช่วยยกหนี้ให้เอกชน เพราะในที่สุดหากนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาชั้นศาล แม้รัฐจะชนะคดีแต่ศาลจะให้จำเลยชำระหนี้ตามอัตราดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์ทั่วไป คือไม่เกิน 15% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าอัตราที่รัฐคำนวณ 72% ต่อปี ทำให้รัฐจะไม่ได้เม็ดเงินคืน 1,400 ล้านบาทอยู่ดี.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์