เจ๊เบียบกรี๊ดโคโยตี้ไร้เกียรติ

“เจ๊เบียบ” กรี๊ดอาชีพสาว “โคโยตี้” ไร้เกียรติ-ศักดิ์ศรี เผยต้องแก้ที่จิตสำนึกเยาวชน อย่าตกเป็นทาสอำนาจเงิน

เผย “หนุ่มโฮส” อีกอาชีพรายได้งาม เฟ้นหนุ่มหล่อ การศึกษาดีแต่งสูทให้บริการสาวขี้เหงา แต่ดริ๊งก์แพงยิ่งกว่า “โคโยตี้” เผยลูกค้ามีตั้งแต่เศรษฐินี ยันเมียน้อยเสี่ยเต็มใจจ่าย ด้าน “โคโยตี้-สาวไซด์ไลน์” เลิกงานแห่ใช้บริการ


หลังจาก “เดลินิวส์” ตีแผ่เรื่องราวสาว “โคโยตี้” ที่อาจกลายเป็นปัญหาในอนาคตที่เกิดกับเยาวชนของชาติ

หากไม่ใส่ใจและปล่อยปละละเลย แม้ว่าจะเป็นอาชีพสุจริต สร้างรายได้อย่างงาม ที่ใครก็สามารถทำได้หากมีรูปร่างหน้าตาดี ขณะที่สถานบริการต่าง ๆ ไม่ได้เข้มงวดกับอายุของหญิงสาวที่สมัครใจมาทำอาชีพนี้มากนัก ตามข่าวที่นำเสนอไปอย่างต่อเนื่องนั้น เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกเหนือจาก “โคโยตี้” สาวนั่งดริ๊งค์ที่ขณะนี้รู้จักกันดีในสังคมอยู่แล้ว ยังมีอีกอาชีพที่มีลักษณะการทำงานคล้ายกัน เพียงแต่ผู้ให้บริการเป็นผู้ชาย หรือ   ที่รู้จักกันดีในชื่อ “หนุ่มโฮส”

โดยสถานบริการ   “บาร์โฮส” เหล่านี้ มักจะตั้งอยู่ใจกลางกรุง การให้บริการมีความใกล้เคียงกับการเที่ยวโคโยตี้

ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเศรษฐินีหญิงที่มีหน้าตาฐานะทางสังคม ต้องจ่ายดริ๊งค์ราคาแพงแลกบริการอันเลิศหรูจากบรรดาหนุ่ม ๆ หน้าตาดี ใส่สูทมาดเฉียบเนี้ยบทุกกระเบียดนิ้ว โดยแต่ก่อน บาร์โฮส ชั้นหนึ่งรู้กันว่ามีอยู่เพียง 2-3 แห่งเท่านั้น แต่ขณะนี้ได้มีบาร์โฮสชั้น 2 ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนลูกค้าที่มาเที่ยว “หนุ่มโฮส” ในบาร์ชั้น 2 เหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นสาว “โคโยตี้” หรือไม่ก็บรรดาภรรยาน้อยของเสี่ย

ตลอดจนสาวขายบริการทางเพศจำพวก “ไซด์ไลน์” ที่ต้องการเติมเต็มส่วนที่ขาดให้กับตนเอง หลังจากต้องให้บริการ อดทนจำใจรับแขกหลากหลายจำพวก โดยช่วงหลังเลิกงานของบรรดาสาวสวยเหล่านี้ มักจะจับกลุ่มไปหาความสุขชั่วข้ามคืนจาก “หนุ่มโฮส” แม้จะต้องจ่ายค่าดริ๊งค์ราคาแพงกว่าที่พวกเธอได้รับก็ตาม

ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่า “หนุ่มโฮส” ที่ทำงานในสถานบริการ

ชั้น 1 นั้น ส่วนใหญ่จะมีรูปร่างหน้าตา บุคลิก ตลอดจนการศึกษาดี ในการทำงานจะต้องผ่านการฝึกฝนเต้นรำ เต้นลีลาศ เพื่อขึ้นเต้นบนฟลอร์กับลูกค้าหญิงที่เข้ามาเที่ยวขณะที่ในสถานบริการบาร์โฮสชั้น 2 ส่วนมากแล้วจะเป็นหนุ่มวัยรุ่น แต่งกายทำผมเหมือนวัยรุ่นญี่ปุ่น เกาหลี บางรายจะหาลูกค้าด้วยการไปเที่ยวตามสถานบันเทิง หรือผับที่มีโคโยตี้ จากนั้นจะชวนสาว ๆ ไปดื่มกินต่อยังสถานบริการที่ตัวเองทำงานอยู่
 
ด้านนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข กล่าวถึงกรณีสาววัยรุ่นหันไปประกอบอาชีพโคโยตี้ว่า ตนเป็นห่วงคุณภาพของเด็กและเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง

เพราะอาชีพโคโยตี้ทำให้เด็กฟุ้งเฟ้อไม่รู้จักขยัน อุตสาหะ เมื่อเดินเข้ามาเส้นทางนี้ก็ไม่รอดพ้นตะเข้ตะโขง เสี่ยงต่อการเสียตัวเพราะทิศทางมันเอื้อให้ “ดิฉันคิดว่าอาชีพนี้ไม่มีเกียรติ ทำได้ระยะหนึ่ง อายุเกิน 25 ปี ก็ไม่มีใครจ้างแล้ว จะกลายเป็นปัญหาสังคม เพราะจะนำไปสู่การขายตัว เป็นโสเภณี เสี่ยเลี้ยง แย่งผัวชาวบ้าน กลายเป็นผู้หญิงไม่มีคุณค่า ส่วนการแก้ไขปัญหาคงอยู่ที่สามัญสำนึกของคนเป็นหลัก เด็กอายุ 18 ปี มีสมอง มีความคิดกันแล้ว แต่มีค่านิยมชอบความสุขสบาย จึงถูกชักจูงได้ง่าย ดังนั้นต้องปรับทัศนคติเด็กให้คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิง”
 
พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รอง ผบช.น. ในฐานะหัวหน้าชุดเฉพาะกิจปราบปรามอบายมุข บช.น. กล่าวถึงปัญหาดังกล่าว ว่า  ได้เรียกประชุมระดับรองผู้การฯ ที่รับผิดชอบด้านอบายมุขทั้ง 88 โรงพัก

ให้กวดขันแนวทางการทำงานเรื่องปิด-เปิดสถานบริการ โดยสถานบริการในโซนนิ่งกำหนดปิดเวลา 01.00 น. ส่วนนอกโซนปิดเวลา 24.00 น. หากมีนอกหน่วยเข้าจับกุม ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบ นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำนโยบายของ ผบช.น.  คือ ห้ามรับผลประโยชน์ และกวดขันไม่ให้มีเยาวชนในสถานบริการทุกแห่งอย่างต่อเนื่อง.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์