วันแรกแน่นขนัด นั่งรถฟรี ดีเดย์ลดค่าไฟฟ้า

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการใช้บริการรถไฟและรถเมล์ฟรีของประชาชนทั่วประเทศว่า
 
ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 1 ส.ค. นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม พร้อมด้วยนายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผอ.ขสมก. เดินทางมาสังเกตการณ์การใช้ บริการรถเมล์ฟรี จำนวน 800 คัน ใน 73 เส้นทางบริการของประชาชน โดยภาพรวมเมื่อเช้าวันที่ 1 ส.ค. พบว่าปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการฟรี ยังไม่คับคั่งเกินไป ผู้โดยสารส่วนใหญ่ยอมรับว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีช่วยลดค่าใช้จ่ายแต่ละวันได้มาก แต่ในชั่วโมงเร่งด่วน เช้าและเย็น ความเร่งรีบในการเดินทาง ทำให้ไม่สามารถรอรถฟรีได้  


นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม กล่าวว่า

การ ให้บริการรถเมล์ฟรีเช้าวันที่ 1 ส.ค. ประชาชนมาใช้บริการตามปกติ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน ทำให้ปริมาณผู้มาใช้บริการนั้นไม่แตกต่างกันมากนักระหว่างรถเมล์ ฟรีและรถเมล์ปกติ โดยในชั่วโมงเร่งด่วน ขสมก.จะมีการจัดให้บริการรถเมล์ฟรีถี่มากขึ้น ส่วนเส้นทางที่มีผู้โดยสารหนาแน่น ตั้งแต่ต้นทางที่ให้บริการนั้นจะมีการจัดรถเสริมวิ่งไปรับผู้โดยสารระหว่างทาง และในช่วงเย็นของวันที่ 1 ส.ค. ก็จะมีการปรับให้รถที่มีผู้โดยสารมากเพิ่มจำนวนรถมากขึ้น 


นายทรงศักดิ์กล่าวด้วยว่า
 
รู้สึกดีใจที่สามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนได้ ส่วนที่มีหลายฝ่ายกังวลว่านโยบายขึ้นรถเมล์ฟรีของกระทรวงคมนาคมนั้น จะเป็นนโยบายเพิ่มคะแนนนิยมให้กับพรรคพลังประชาชนนั้น เรื่องนี้นายทรงศักดิ์กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าสมาชิกพรรคพลังประชาชนที่ได้รับความไว้วางใจมาจากประชาชนเข้ามาเป็นรัฐบาล ก็จะต้องคำนึงถึงการให้ ความช่วยเหลือ  และผลประโยชน์ของประชาชนที่จะได้รับเป็นที่ตั้ง อย่ามองว่าเป็นการหาเสียง เชื่อมั่นว่าการให้บริการรถเมล์ฟรีจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนได้อย่างมาก 
และจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีผู้โดยสารที่ใช้รถร่วมบริการหันมาใช้รถเมล์ฟรี เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเร่งรีบ หลังจากนี้จะให้ ขสมก.ประเมินผลการให้บริการและปริมาณรถที่เดินในแต่ละเส้นทาง เพื่อจัดรถให้เหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสารต่อไป


ขณะที่นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผอ.ขสมก. กล่าวว่า
 
ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หลังจากนี้ 7 วัน จะประเมินผลทั้งหมดให้กระทรวงคมนาคมรับทราบ  ส่วนบรรยากาศการขึ้นรถเมล์ฟรีตามจุดต่างๆ บริเวณฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ด้านหน้าสนามบินดอนเมือง หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สวนจตุจักร ปรากฏว่าเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนแห่ไปรอใช้บริการกันคับคั่ง แต่ละจุดจะมีนายตรวจรถเมล์คอยดูแลผู้โดยสารไม่ให้มีปริมาณมากเกินไป
โดยจะแจ้งให้ผู้โดยสารทราบว่า ให้รอรถเมล์ฟรีที่วิ่งผ่านเส้นทางคันเว้นคัน ทำให้รถเมล์ที่เก็บค่าโดยสารตามปกติมีผู้โดยสารบางตาลง 

นางอาภรณ์ วงศ์ฤกษ์ อายุ 45 ปี อาชีพพนักงานทำความสะอาดออฟฟิศ ย่านคลองสาน กล่าวว่า

บ้านอยู่ รังสิตต้องนั่งรถเมล์ 2 ต่อ ตามปกติจะใช้บริการรถเมล์สาย 59 รังสิต-สนามหลวง ไปลงสนามหลวง แล้วต่อรถเมล์สาย 3 หมอชิต-คลองสาน แต่เมื่อมาตรการนั่งรถเมล์ฟรีออกมา คาดว่าจะทุ่นค่าใช้จ่ายได้หลายร้อยบาทต่อเดือน เหลือเพิ่มเป็นค่ากับข้าว ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในครอบครัวมากขึ้น อยากให้รัฐบาลไฟเขียวให้คนจนนั่งรถเมล์ฟรีตลอดไป เช่นเดียวกับนายสุชาติ มีล้อม อายุ 28 ปี อาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย กล่าวว่า พักอยู่ด้านหลัง ปตท.สำนักงานใหญ่ แต่ทำงานอยู่ย่านบางแค ทุกวันจะนั่งรถเมล์สาย 29 รังสิต-หัวลำโพง ไปต่อรถสาย 7 หัวลำโพง-คลองขวาง ไปลงตลาดบางแค แล้วยังต้องต่อรถมอเตอร์ไซค์เข้าซอยไปอีก 10 บาท ทุกเดือนต้องรัดเข็มขัดเต็มที่ เพราะต้องกันเงินส่วนหนึ่งไว้เป็นค่ารถ แต่เมื่อรัฐบาลออกมาตรการให้คนขึ้นรถเมล์ฟรี ถือว่าถูกอกถูกใจประชาชนที่หาเช้ากินค่ำทุกคน อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นคือรถเมล์แน่น ต้องรอคันเว้นคัน ทำให้รถเมล์ขาดช่วง อยากให้แก้ไขเพิ่มรถมากขึ้น


นายฉัตรชัย ชัยวิเศษ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน กล่าวว่า
 
เห็นด้วยกับมาตรการทั้ง 6 ของรัฐบาล ที่ลดภาระให้กับประชาชน โดยหนึ่งในมาตรการดังกล่าว คือให้บริการรถเมล์ฟรี แต่ต้องยอมรับว่า การให้บริการรถเมล์ฟรีได้ส่งผลกระทบต่อรถร่วม ขสมก. ในภาพรวม เนื่องจากผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ต้องเลือกใช้บริการรถเมล์ฟรี เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ได้หารือกับสมาชิกสมาคมแล้วเห็นว่าจะมีการประเมินผลกระทบกับมาตรการดังกล่าวภายใน 7 วันว่า เอกชนได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง หลังจากประเมินแล้ว จะหารือกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป ส่วนที่มีบางคนเสนอให้ฟ้องศาลปกครอง ตนไม่เห็นด้วย เพราะเป็นมาตรการของรัฐบาล ที่ต้องการช่วยเหลือประชาชน แต่ภาคเอกชนขอเพียงมีส่วนร่วมเข้าไปวิ่งให้บริการร่วมกับรถ ขสมก. โดยให้ภาครัฐชดเชยรายได้เช่นเดียวกับ ขสมก. หรือให้ลดราคาค่าตั๋วของเอกชนลง เพื่อไม่ให้ราคาเหลื่อมล้ำกับรถ ขสมก. และให้ภาครัฐเข้ามาชดเชยส่วนต่างราคาค่าตั๋ว 


สำหรับบรรยากาศการให้บริการรถไฟฟรี ที่บริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง เมื่อเช้าวันเดียวกัน การให้บริการขบวนรถไฟเชิงสังคมฟรีวันแรกเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้ใช้บริการไม่แตกต่างกับช่วงปกติ โดยในวันที่ 1 ส.ค. มีขบวนรถไฟฟรีออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพงทั้งสิ้น 13 ขบวน และขาเข้าอีก 17 ขบวน 



ขณะที่บรรยากาศตามจังหวัดต่างๆก็คึกคักไม่แพ้กัน
 
ประชาชนใช้บริการกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษาที่ต้องเดินทางไปเรียนในต่างอำเภอ ซึ่งการรถไฟต้องจัดเจ้าหน้าที่มาคอยให้คำแนะนำแก่ประชาชน เพื่อป้องกันความสับสน แต่ก็มีบางคนที่มารอซื้อตั๋วชั้น 3 เนื่องจากยังไม่รู้ว่ามีการให้บริการฟรี ต้องมีการประชาสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง ที่ จ.นครราชสีมา บรรยากาศที่สถานีรถไฟนครราชสีมาและสถานีรถไฟชุมทางจิระ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา เมื่อเช้า 1 ส.ค. มีนักเรียน นักศึกษา พ่อค้า แม่ค้า คนทำงาน ที่อยู่ต่างอำเภอ และนอกเขตเทศบาลนครนครราชสีมา แห่ใช้บริการรถไฟฟรีเดินทางเข้าตัวเมืองนครราชสีมาเดินทางมาโรงเรียนและที่ทำงาน หลายคนนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์มาจอดที่สถานีแล้วขึ้นรถไฟเดินทางไปยังที่หมาย
 

ขณะเดียวกัน นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต รองปลัดกระทรวงคมนาคม เผยที่โรงแรมสีมาธานี ขณะไปตรวจราชการที่นครราชสีมาว่า
 
วันนี้มีประชาชนมาใช้ บริการรถไฟฟรี และรถเมล์ ขสมก.ฟรี อย่างคึกคักมาก การโดยสารรถไฟฟรีขอให้ประชาชนตรวจสอบก่อนโดยสารว่าเป็นขบวนที่ขึ้นฟรีได้หรือไม่ ซึ่งมีอยู่ 3 ประเภท คือ 1. รถไฟชานเมือง ส่วนใหญ่อยู่ชานเมืองกรุงเทพฯ ระยะทางสั้นๆ 2. รถไฟระหว่างเมือง วิ่งระยะทางไม่มากนัก และเป็นขบวนธรรมดา ระหว่างเมืองหรือระหว่างอำเภอ และ 3. ขบวนรถไฟที่ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียม โดยจะติดต่อขอตั๋วฟรีก่อน
แต่บางขบวนบางจังหวัดสายสั้นอาจไม่ต้องเอาตั๋ว และจะต้องสังเกตให้ดีว่ามีการติดสติกเกอร์รถไฟฟรี เพื่อประชาชนที่ด้านหน้า ด้านหลัง และข้างขบวนรถด้วย หากมีข้อข้องใจสามารถสอบถามที่สถานีได้ 



นอกจากนี้ ทุกสถานีจะต้องทำป้ายติดไว้ ให้ชัดเจนว่า

วันนี้ขบวนรถไฟฟรีมีกี่ขบวน เวลาไหนบ้าง ภาคเหนือ ที่สถานีรถไฟพิษณุโลก นายไพศาล มีเวียงจันทร์ นายสถานีรถไฟพิษณุโลก เปิดเผยว่า ส่วนใหญ่เป็นคนเดินทางไปทำงาน คาดว่าวันเสาร์อาทิตย์  บรรยากาศจะคึกคัก ประชาชนจะใช้บริการเพื่อท่องเที่ยวเส้นทางระยะสั้น ขอเตือนผู้มาใช้บริการหากมีผู้โดยสารจำนวนมาก ขอให้รอรถเที่ยวต่อไป ไม่ควรโหนหรือนั่งบริเวณทางขึ้นลงโบกี้ หรือปีนขึ้นไปนั่งบนหลังคา สำหรับสาเหตุที่บรรยากาศการขึ้นรถไฟฟรีคึกคักมาก ส่วนหนึ่งมาจากการเดินทางของเครือข่ายพันธมิตรฯ พิษณุโลกจำนวน 1 โบกี้ ซึ่งจะมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์เดียวกัน ขึ้นรถไฟขบวนนี้ตามสถานีรถไฟต่างๆ  ตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะที่จังหวัดพิจิตรและนครสวรรค์ ที่รวมกลุ่มเป็นจำนวนมาก และไปลงรถไฟพร้อมกันที่สถานีสามเสน กรุงเทพมหานคร เวลา 14.00 น. วันที่ 1 ส.ค.


สำหรับขบวนรถไฟที่พิษณุโลกที่ให้ขึ้นฟรี

มีขบวนรถธรรมดา ขบวนรถชานเมือง ขบวนรถท้องถิ่น แต่ละวันมี 5 เที่ยว ประกอบไปด้วยขบวน 403 พิษณุโลก-ศิลาอาสน์ (อุตรดิตถ์) เวลา 05.55 น. ขบวน 202 พิษณุโลก-กรุงเทพมหานคร เวลา 06.05 น. ขบวน 407 นครสวรรค์-เชียงใหม่ เวลา 07.30 น. ขบวน 402 พิษณุโลก-ลพบุรี เวลา 13.45 น. ขบวน 408 เชียงใหม่-นครสวรรค์ เวลา 16.52 น.
 

ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายบรรจบ เพชรช่วย นายสถานีรถไฟนครศรีธรรมราชเผยว่า

ให้บริการชั้น 3 ฟรีเฉพาะรถท้องถิ่น คือรถไฟที่ไม่มีค่าธรรมเนียมเท่านั้น ได้แก่ สายนครศรีธรรมราช-สุไหงโก-ลก ขบวนเวลา 06.00 น. สายนครศรีธรรมราช-ยะลา ขบวนเวลา 10.00 น. และสายนครศรีธรรมราช-พัทลุง ขบวนเวลา 14.20 น. เชื่อว่าไม่ทำให้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ส่วนรถชนิดที่มีค่าธรรมเนียมเดินรถ ผู้โดยสารต้องจ่ายค่าโดยสารตามปกติคือ เส้นทางสายนครศรีธรรมราช-กรุงเทพมหานคร ทั้งขบวนรถเร็วและขบวนรถด่วน มี 2 ขบวนต่อวัน ส่วนที่สถานีรถไฟยะลา อ.เมืองยะลา มีประชาชน นักเรียน นักศึกษาและพ่อค้าแม่ค้าไปใช้บริการกันมาก โดยเฉพาะไป อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทำให้รถตู้โดยสารระหว่างยะลา-หาดใหญ่ และ ยะลา-สุไหงโก-ลก ยอดผู้โดยสารลดลงไปกว่าครึ่ง  

ขณะที่สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ประชาชนไปใช้บริการกันคึกคัก แต่มีประชาชนบางคนซื้อตั๋ว เนื่องจากไม่รู้ว่ารัฐบาลให้นั่งรถไฟฟรี ขณะเดียวกันมีทหาร อส.และตำรวจดูแลความปลอดภัย บริเวณสถานีและบนขบวนรถไฟ โดยเมื่อเวลา 06.30 น.เป็นขบวนรถปลายทางสุราษฎร์ธานี 

นอกจากนี้ ที่บริเวณสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ตั้งแต่เช้าตรู่เป็นต้นมา
 
มีผู้โดยสารเดินทางมาใช้บริการรถไฟฟรีอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด ทั้งการขอตรวจค้นร่างกาย ตรวจค้นสัมภาระ รวมถึงใช้เครื่องสแกน ตรวจจับหาวัตถุระเบิดและอาวุธต่างๆ แม้ว่าบรรยากาศโดยรวมจะไม่คึกคักมาก ตามเป้าที่ทางเจ้าหน้าที่สถานี รถไฟคาดการณ์เอาไว้ แต่หลายฝ่ายยังคงมั่นใจว่า จะมี ผู้โดยสารมาใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆหลังจากนี้ เนื่องจากวันนี้เป็นการเปิดให้บริการวันแรกเท่านั้น ขณะเดียวกัน พบว่ามีประชาชนบางส่วน ที่ยังเข้าใจผิดคิดว่ารถไฟชั้น 3 ที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งเป็นรถให้บริการเชิงพาณิชย์ เช่น ขบวนรถด่วน ขบวนรถเร็ว นั่งฟรี ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมซื้อตั๋วโดยสาร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องคอยประกาศข้อมูลที่ถูกต้อง ให้ผู้โดยสารรับทราบอยู่เป็นระยะ


สำหรับรถไฟขบวนที่เปิดให้บริการนั่งฟรีขบวนแรกที่แล่นออกจากสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่

ในเช้าวันที่ 1 ส.ค. คือ ขบวนรถไฟท้องถิ่น ที่ 446 หาดใหญ่-ชุมพร ออกจากสถานีในเวลาประมาณ 06.30 น. ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า  รวมถึงประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในเส้นทางใกล้เคียง จากนั้นในเวลาประมาณ 08.00 น. เป็นขบวนรถไฟท้องถิ่น ที่ 463 พัทลุง-สุไหงโก-ลก ต้นทางจากสถานีรถไฟพัทลุง ปลายทางสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้เข้าจอดเทียบชานชาลาที่ 3 ของสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่  เพื่อรอรับผู้โดยสารเดินทางลงไปยังพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนใหญ่ผู้โดยสารเป็นประชาชนที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้บนขบวนรถไฟจำนวน 14 นาย 


นอกเหนือบริการรถไฟ รถเมล์ฟรีแล้ว ในส่วนไฟฟ้าฟรีซึ่งเป็น 1 ใน 6 มาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลนั้น นายสมบัติ ศานติจารี ผู้ว่าการ กฟผ. เปิดเผยว่า
 
คณะกรรมการ กฟผ.ได้มีมติเห็นชอบดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ในส่วนของการใช้ไฟฟ้าฟรีของครัวเรือนเป็นระยะเวลา 6 เดือน สำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 80 หน่วยต่อเดือน และครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าต่อเดือนเกิน 80 หน่วย แต่ไม่เกิน 150 หน่วย รัฐบาลจะรับภาระจ่ายให้ครึ่งหนึ่งของค่าไฟฟ้าทั้งหมด ทั้งนี้ประชาชนผู้อาศัยในแฟลต คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ และหอพัก สามารถรับสิทธิได้เช่นเดียวกับประชาชนที่อาศัยอยู่ตามบ้านทั่วไปเช่นกัน จากเงื่อนไขดังกล่าวคาดว่า
กฟผ.จะสามารถลดค่าไฟฟ้าให้ประชาชน เฉลี่ยครัวเรือนละประมาณ 120-200 บาทต่อเดือนครอบคลุมผู้ใช้ไฟฟ้าประมาณ 9.85 ล้านครัวเรือน แยกเป็น ผู้ใช้ไฟฟ้าที่อยู่ในเขตนครหลวง ประมาณ 400,000 ครัวเรือน ต่างจังหวัดทั่วประเทศ 9.44 ล้านครัวเรือน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์