ตำรวจ-ขนส่งฯเอาจริงจับ จยย.ติดก๊าซ

พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ดูแลงานจราจร เปิดเผยว่า จากภาวะราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บางส่วนได้ดัดแปลงเครื่องยนต์รถมาใช้ก๊าซแอลพีจี

ซึ่งเป็นรถที่ผิดกฎหมายและเสี่ยงอันตรายเนื่องจากมีการดัดแปลงสภาพรถ โดยที่ไม่มีการตรวจสอบรับรองในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย โดยหากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเห็นว่ามีผู้นำรถจักรยานยนต์ลักษณะดังกล่าวไปใช้จะเป็นความผิด ตามพระราชบัญญัติ รถยนต์ มาตรา 12 ฐานเพิ่มเติมสิ่งหนึ่งสิ่งใดซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่นและมาตรา 14 ฐานเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ผิดไปจากที่จดทะเบียน มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ซึ่งเป็นความผิดฐานเดียวกันกับการดัดแปลงใช้ก๊าซในรถยนต์

ด้านนายชัยรัตน์ สงวนชื่อ รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมฯ ไม่มีนโยบายที่จะสนับสนุนให้รถจักรยานยนต์เปลี่ยนมาใช้ก๊าซ

ซึ่งรถประเภทนี้ใช้ปริมาณเชื้อเพลิงน้อย ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงมาติดตั้งก๊าซซึ่งขณะนี้ยังไม่มีมาตรฐานรับรองความปลอดภัย โดยหากพบก็จะถูกจับเพราะเป็นรถผิดกฎหมาย ซึ่งผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์หากต้องการประหยัดค่าน้ำมันเชื้อเพลิง น่าจะใช้รถพลังงานไฟฟ้าซึ่งสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยและขณะนี้กรมฯ ก็เปิดให้มีการจดทะเบียนมาใช้บนถนนได้อย่างถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้กรมการขนส่งทางบกได้มีการออกกฎหมายรองรับการจดทะเบียนรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแล้ว

โดยรถจักรยานยนต์จะต้องมีขนาดมอเตอร์ไม่น้อยกว่า 0.5 กิโลวัตต์ ขนาดล้อเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 10 นิ้ว และมีกระจกมองข้าง ไฟหน้า ไฟเลี้ยวอุปกรณ์ส่วนควบต่าง ๆ ถูกต้องตามกฎกระทรวง และต้องผ่านการตรวจสภาพเช่นเดียวกับรถใช้น้ำมัน ซึ่งขณะนี้มีบริษัทที่นำเข้ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้ากว่า 10 บริษัท ส่วน ใหญ่เป็นรถจากประเทศจีนและขณะนี้ได้มีการจดทะเบียน นำมาวิ่งบนท้องถนนร่วมกับรถอื่น กว่า 100 คัน ทั้งนี้ในอนาคตหากมีการพัฒนาสมรรถนะให้สามารถวิ่งด้วยความเร็วและแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นในอนาคตเป็นอีกทางเลือกให้กับผู้ขับขี่.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์