เดินหน้าเปิดตลาดสินค้าเกษตรไทยในญี่ปุ่น

เพื่อช่วงชิงโอกาสและเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นได้รู้จักสินค้าเกษตรและอาหารไทยมากขึ้น

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำโดยนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายจรัลธาดา กรรณสูต ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธรรมรัต หวั่งหลี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรฯ จึงเดินทางไปร่วมงานเผยแพร่สินค้าเกษตรไทยในประเทศญี่ปุ่น “Thai Fruit and Food Festa Opening Ceremony” ณ Rop-pongi Hills Arena กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

โดยนำผักผลไม้ทั้งสดและแปรรูป  รวมทั้งสินค้าปศุสัตว์และสินค้าประมงแปรรูปหลากหลายชนิดซึ่งล้วนผ่านการรับรองคุณภาพ
และมีระบบการตรวจสอบย้อนกลับจากหน่วยงานที่รับผิดชอบไปให้ชาวญี่ปุ่นได้ลิ้มลองรสชาติ ควบคู่ไปกับศึกษาพฤติกรรมการบริโภคของชาวญี่ปุ่นเพื่อนำมาปรับปรุงมาตรฐานการผลิตของเกษตรกรไทย ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นมากขึ้น
  
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า งานดังกล่าวได้รับการตอบรับจากชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างดี โดยชาวญี่ปุ่นสนใจสินค้าเกษตรและอาหารของไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ มะม่วง มังคุด และทุเรียน ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีรสชาติถูกปากผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น

ขณะที่สินค้าปศุสัตว์และสินค้าประมงแปรรูปก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้นำเข้าชาวญี่ปุ่นเช่นกัน เนื่องจากประเทศไทยมีมาตรฐานการผลิตที่มีคุณภาพสูงกว่าประเทศอื่น จึงนับเป็นโอกาสของเกษตรกรและผู้ผลิตสินค้าเกษตรและอาหารของไทยที่จะสามารถส่งออกสินค้าเหล่านี้ไปยังประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง เกษตรฯ ได้ใช้โอกาสในการเดินทางมายังประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้เข้าพบและหารือสองฝ่ายกับ นายมาซาโตชิ วาคาบายาชิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้และประมงประเทศญี่ปุ่น เพื่อผลักดันให้มีการประชุมคณะอนุกรรมการพิเศษว่าด้วยความปลอดภัยอาหาร และคณะอนุกรรมการพิเศษว่าด้วยความเชื่อมโยงท้องถิ่นสู่ท้องถิ่นภายใต้ความร่วมมือด้านการเกษตร ป่าไม้ และประมงของเจเทปป้า ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 1 พ.ย. 2550


โดยการประชุมคณะอนุกรรมการพิเศษว่าด้วยความปลอดภัยอาหารจะเป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชและการเปิดตลาดสินค้าเกษตรชนิดใหม่ของไทยไปยังประเทศญี่ปุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พร้อมกันนี้ ยังขอให้ทางกระทรวงเกษตร ป่าไม้และประมงของประเทศญี่ปุ่นเร่งรัดการพิจารณาอนุญาตให้นำเข้าส้มโอจากประเทศไทย และ
ให้การสนับสนุนการนำเข้าไก่สดจากประเทศไทย เพราะในปัจจุบันประเทศไทยปลอดจากโรคไข้หวัดนกนานกว่า 3 เดือน และได้เฝ้าระวัง   การเกิดโรคตามเงื่อนไข  ที่องค์กรโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) กำหนด ซึ่งถือว่าได้รับสถานะปลอดจาก HPNAI แล้ว 
 
กระทรวงเกษตรฯยังได้ขอความร่วมมือทางวิชาการประมงกับรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งมีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยีและวิทยาการด้านการประมงที่ก้าวหน้า

ทั้งเรื่องการปรับปรุงระบบการบรรจุผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ การพัฒนาระบบการดูแลรักษากุ้งแช่เย็น การพัฒนาการทำฟาร์มทะเลหอยเชลล์และปลาทะเลในประเทศ ตลอดจนการบริหารจัดการระบบสหกรณ์ประมงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อนำความรู้ที่ได้มาพัฒนากระบวนการผลิตสินค้าประมงทั้งระบบของไทยให้มีประสิทธิภาพบนพื้นฐานของการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยั่งยืนควบคู่ไปด้วย ซึ่งขณะนี้รัฐบาลญี่ปุ่น   ได้รับเรื่องดังกล่าวแล้วคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในเร็ว ๆ นี้เช่นกัน
 
การเจรจาทางการค้าและความร่วมมือทางวิชาการกับประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการขยายช่องทางการส่งออกสินค้าเกษตรสู่ผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง
 
เพื่อสร้างรายได้และเพิ่มโอกาสให้กับเกษตรกรไทยแล้ว กระทรวงเกษตรฯ ยังตั้งเป้าให้หน่วยงาน เกษตรกรและภาคเอกชนที่       เกี่ยวข้องได้เรียนรู้เรื่องความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งเงื่อนไขทางการค้าของประเทศผู้นำเข้าต่าง ๆ อันจะนำไปสู่การพัฒนามาตรฐานการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารไทยให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลกในอนาคต.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์