จ่อเลิกเมล์ร้อน3พันคัน ดันรถแอร์เอ็นจีวี6พันคันวิ่งแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 มิ.ย.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี  เรียกประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งทางรางและระบบขนส่งมวลชน เป็นครั้งที่ 3 

ใช้เวลาหารือประมาณ
2 ชั่วโมง ในที่ประชุมมีการหารือเรื่องของการปรับโครงสร้างองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โดยนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญและได้ซักถามในที่ประชุม ว่า หลังการปรับโครงสร้างไปแล้วจะทำให้ ขสมก. มีกำไรเพิ่มขึ้นหรือไม่   ขสมก. ยืนยันว่าหากปรับโครงสร้างแล้วจะทำให้ ขสมก. มีผลกำไรเกิดขึ้นในปี 2562 หรือในอีก 10 ปีข้างหน้า แต่หากไม่ทำอะไรเลยจะมีผลงานติดลบมากถึง 1.4 แสนล้านบาท
  

รายงานระบุว่า แผนปรับโครงสร้างของ ขสมก. ครั้งนี้ จะยกเลิกระบบรถเมล์ร้อน จำนวน
3,000 คัน ออกไปทั้งหมด

แล้วนำรถปรับอากาศที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิงจำนวน
6,000 คัน เข้ามาวิ่งแทนโดยใช้ระบบเช่าแทนการซื้อ  ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ส่วนหนึ่ง  ทำให้คิดค่าโดยสารได้เพียงเที่ยวละ 15 บาทเท่านั้น จากปัจจุบันที่คิดค่าโดยสารตามระยะทางสูงสุดไม่เกิน 26 บาท หากที่ประชุม ครม. เห็นชอบแล้วจะดำเนินการได้ภายในเดือน พ.ค.2552   จากนี้ กระทรวงคมนาคม จะสรุปรายละเอียดเพื่อนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
 

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า


ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการเกี่ยวกับการปรับเพิ่มค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าใน
2 เส้นทาง คือ สายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน ตามที่คณะกรรมการ รฟม. เห็นชอบ แต่ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางและสำนักงบประมาณไปพิจารณาในรายละเอียดเพิ่มเติมว่าสูตรการคำนวณต้นทุนต่างๆ ถูกต้องตามกฎระเบียบหรือไม่ และให้ทำความเห็นเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า  จากการคำนวณเบื้องต้น พบว่ารถไฟฟ้าสายสีม่วงนั้นมีต้นทุนเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 15 คือ จากเดิมที่กำหนดค่าก่อสร้างในงานโยธาไว้ที่ 31,000 ล้านบาท โดยคำนวณเมื่อเดือน มี.ค. 2550 ปรับเพิ่มเป็น 36,000 ล้านบาท ส่วนสายสีน้ำเงิน จะปรับขึ้นประมาณร้อยละ 5 คือจากที่คำนวณไว้ที่ 48,000 ล้านบาท เมื่อเดือน ต.ค. 2550 จะปรับเพิ่มเป็น 52,000 ล้านบาท

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์