เตือนภัยขยายจู๋ ใหญ่แบบเกาหลี

เผยไฮโซชายแห่ผ่าตัดเพิ่มขนาดเจ้าโลก แพทยสภาชี้ไม่มีข้อกำหนดมาตรฐานจริยธรรม

เล็งหารือราชวิทยาลัยศัลยแพทย์ออกกฎควบคุม ด้านหมอรามาฯ เผยมีวิธีการผ่าตัดเพิ่มไซซ์แบบใหม่จริงเป็นเทคนิคเกาหลี ใช้ห่วงไหมละลายมีอันตรายน้อย เพิ่มขนาดได้ แต่ยังไม่แพร่หลายในไทย ระบุทางการแพทย์ยังเถียงไม่จบควรไม่ควรผ่า ขณะที่จิตแพทย์ระบุ เป็นเรื่องของความเชื่อฝังหัวชายไทย ชี้ความพึงพอใจไม่เกี่ยวกับขนาดแต่อยู่ที่เทคนิคและลีลามากกว่า

จากกรณีกลุ่มไฮโซเพศชายนิยมผ่าตัดเพื่อเสริมขนาดอวัยวะเพศให้ใหญ่ขึ้น เพราะเชื่อว่าจะทำให้คู่รักมีความสุขในเรื่องเพศสัมพันธ์

เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ศ.น.พ.สมบุญ เหลืองวัฒนากิจ อาจารย์ประจำภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การผ่าตัดเพื่อเพิ่มขนาดอวัยวะเพศนั้นยังเป็นที่ถกเถียงกันในวงการแพทย์ว่าเหมาะสมหรือไม่ ฝ่ายหนึ่งมีเหตุผลว่าส่วนใหญ่ขนาดอวัยวะเพศชายจะปกติ แต่อยู่กับเจ้าตัวเองที่ไม่พอใจในสิ่งที่ตนมี และการผ่าตัดอาจได้รับผลกระทบ และทำให้เกิดความเสียหายเป็นอันตรายได้ แต่อีกทางก็มีเหตุผลว่า ความกังวลในเรื่องของขนาดอวัยวะเพศ หากมีมากก็ส่งผลกระทบต่อจิตใจและทำให้เกิดปัญหากับบุคคลนั้นๆ ได้เช่นกัน และการเสริมขนาดอวัยวะเพศ ก็เหมือนกับการเสริมขนาดเต้านม ที่ไม่ได้เกิดความผิดปกติอะไรแต่ก็มีการผ่าตัดเสริมเต้านมได้เป็นเรื่องปกติ ซึ่งส่วนตัวแล้วคิดว่า หากกระทำด้วยวิธีการที่ปลอดภัยก็สามารถทำได้

ศ.น.พ.สมบุญ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีเทคนิคแบบใหม่ที่นำมาใช้ในการเสริมขนาดอวัยวะเพศจริง

โดยเป็นเทคนิคจากประเทศเกาหลีที่ขณะนี้กำลังจะตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ ซึ่งเป็นการนำเอาไหมละลายที่ใช้ในการผ่าตัดหน้าท้องมาใช้ โดยนำมาพันเป็นห่วงวงกลม และทำให้มีช่องว่างหรือรูพรุนอยู่ภายใน เพื่อนำมาสวมเข้าไปในองคชาต เป็นการผ่าตัดเล็ก โดยใช้วิธีเดียวกับการขริบปลายหนังหุ้มปลายและรูดหนังลง เพื่อใส่ห่วงลงไป ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 40 นาที ซึ่งวิธีการทำงานของห่วงนี้ เมื่อใส่เข้าไปในอวัยวะเพศแล้ว เซลล์ในร่างกายจะสร้างตัวและเข้าไปอยู่แทนที่รูพรุนในห่วงดังกล่าว ส่วนคุณ สมบัติของไหมละลาย จะสลายตัวในช่วงเวลา 2-3 เดือน เมื่อไหมละลายไป เซลล์ที่อยู่ในรุพรุนนั้นก็จะกลายเป็นส่วนเดียวกันขององคชาต ทำให้ขนาดดูใหญ่ขึ้นได้ สำหรับขนาดองคชาตที่ผ่าตัดด้วยวิธีดังกล่าวจะคงตัวในช่วงเวลา 1 ปี โดยขนาดจะเล็กลงจากที่ผ่าตัดใส่ห่วง 70%

"วิธีดังกล่าวในปัจจุบันยังไม่มีการทำในประ เทศไทยอย่างเป็นทางการ เพราะยังไม่มีการตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ แต่ทางการแพทย์พบว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัย อันตรายและผลข้างเคียงที่รุนแรงที่สุดคือการติดเชื้อ ซึ่งเกิดขึ้นได้ในการผ่าตัดทั่วไป" ศ.น.พ.สมบุญกล่าว


ศ.น.พ.สมบุญ กล่าวต่อว่า เรื่องของการผ่าตัดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศนั้น โดยส่วนมากผู้ที่มาขอรับการผ่าตัดจะมีขนาดปกติอยู่แล้ว

แต่ไม่พอใจในสิ่งที่มี ซึ่งหากพิจารณาว่า ความกังวลกระทบกับการดำเนินชีวิตแพทย์ก็อาจจะทำให้ แต่ทั้งนี้ การเลือกวิธีการผ่าตัด จำเป็นต้องเลือกวิธีที่ปลอดภัย และไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง ยกตัวอย่างเช่น มีการผ่าตัดเพิ่มความยาวขององคชาต ในประเทศยูโกสลาเวีย ซึ่งใช้วิธีผ่าตัดเปิดหน้าท้องเลาะซี่โครงขนาด 1 นิ้ว มาเหลาให้มนๆ แล้วผ่าองคชาตโดยตัดส่วนหัวองคชาตออกก่อน แล้วใส่กระดูกซี่โครงเข้าไป และต่อส่วนหัวกลับเข้าไปเหมือนเดิม ซึ่งเป็นวิธีที่ค่อนข้างเสี่ยง และทำให้เกิดผลกระทบที่รุนแรง เพราะฉะนั้น การผ่าตัดเพื่อเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ จำเป็นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยอย่างยิ่ง

น.พ.อำนาจ กุศลานันท์ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า การผ่าตัดเสริมขนาดอวัยวะเพศนั้น

แม้จะไม่มีเขียนระบุเป็นข้อห้ามไว้ในเรื่องมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ แต่การกระทำการใดๆ กับผู้ป่วยนั้น จำเป็นต้องมีเหตุผลรองรับว่าควรทำหรือไม่ และเมื่อทำแล้วผู้ป่วยจะได้ผลกระทบที่อาจเป็นอันตรายหรือไม่ และวิธีการกระทำนั้นต้องได้มาตรฐานทางการแพทย์ ซึ่งการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ แม้จะเป็นวิธีที่ยังไม่แพร่หลาย แต่ต้องมีการหาข้อมูล โดยอาจพิจารณาร่วมกับราชวิทยาลัยศัลยแพทย์ เพื่อขอข้อมูลเรื่องเทคนิคทางการแพทย์ใหม่ๆ อันตรายและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และอาจรวมไปถึงกำหนดเกณฑ์มาตรฐานในการรักษาเพื่อป้องกันการรักษาที่เป็นอันตราย

"สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดในกรณีเหล่านี้ คือ การเพิ่มขนาดของอวัยะเพศโดยหมอเถื่อน หรือใช้อุปกรณ์อื่นใด ที่อาจทำให้เกิดอันตรายได้ ที่ผ่านมาพบได้บ่อย เช่น การฉีดน้ำมันมะกอก หรือซิลิโคนเข้าไป เพราะทำได้ง่าย แต่ผลกระทบนั้นอาจมีความรุนแรงถึงขั้นอวัยวะเพศเน่า หรือติดเชื้อได้ แต่หากเป็นวิธีที่มีผลวิจัยทางการแพทย์รองรับ และไม่มีผลกระทบที่รุนแรง เป็นการรักษาที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ ก็สามารถทำได้"
น.พ. อำนาจ กล่าว

น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ความจำเป็นและความเหมาะสมของการผ่าตัดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย

ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคนไข้และแพทย์ ซึ่งเป็นข้อถกเถียงคล้ายกับการผ่าตัดแปลงเพศ หรือการผ่าตัดเสริมขนาดหน้าอก ว่ามีความจำเป็นหรือไม่ แต่เนื่องจากชายไทยถูกปลูกฝังความเชื่อและค่านิยมของว่า "ชายไทยต้องใหญ่" ซึ่งข้อเท็จจริงทางการแพทย์แล้ว ขนาดหรือความใหญ่ ไม่ได้มีผลต่อความพึงพอใจของฝ่ายหญิง แต่ขึ้นอยู่กับลักษณะความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ฝ่าย และการมีเพศสัมพันธ์ที่ขึ้นอยู่กับเทคนิคและลีลามากกว่า

"อวัยวะเพศของฝ่ายชายที่เรียกว่าปกติ คือสามารถทำหน้าที่ได้อย่างไม่มีปัญหาคือ ขับถ่ายของเสีย และมีเพศสัมพันธ์ได้ ถือว่าปกติ หรือยกตัวอย่างเรื่องขนาดมาตรฐานชายไทยอยู่ที่ 6 นิ้ว หากคนที่มีขนาดเพียง 4 หรือ 5 นิ้ว แต่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ดี สามารถถึงจุดสุดยอดไปพร้อมๆ กับฝ่ายหญิง ก็ถือว่าปกติ ไม่มีปัญหาที่จะต้องไปผ่าตัด"
น.พ.ทวีศิลป์กล่าว

น.พ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สาเหตุที่คนมักไปรับบริการผ่าตัดเสริมขนาดส่วนใหญ่

เพราะต้องการลบล้างความไม่พึงพอใจของตนเอง หรือต้องการสร้างความมั่นใจให้ตัวเองมากขึ้น แม้จะรู้ว่าการผ่าตัดมีอันตราย เช่น การฉีดสารเข้าอวัยวะเพศเพื่อเพิ่มขนาด ซึ่งมีข่าวให้เห็นเป็นประจำว่า เน่า หรือไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์อีกได้ แต่คนก็ยังไปรับบริการเป็นจำนวนมาก

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์