พระพยอม คืน 2 ล้าน ให้เจ้าของเตียงบริจาค

หลังจากพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

ออกมาเปิดเผยว่า พบเงินสดกว่า 1 ล้านบาท และทองรูปพรรณจำนวนหนึ่งในช่องหัวเตียงนอนที่ได้รับบริจาคจากผู้ใจบุญและต้องการคืนเจ้าของ เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไป ปรากฏว่ามีคนอ้างเป็นเจ้าของ บ้างก็ว่าเป็นทายาทมาขอรับคืน แต่หลักฐานยังไม่มากพอ ทำให้พระพยอมไม่คืนให้ กระทั่งล่าสุดมีคนแสดงหลักฐานจนเชื่อว่าเป็นเจ้าของที่แท้จริง


ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 พ.ค. ที่ลานธรรมของวัดสวนแก้ว พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว

นำเงินสดและทรัพย์สินที่เจอ มีเงินสด 1,190,000 บาท ทองรูปพรรณหนัก 10 บาท พระเลี่ยมทองและนาฬิกาโรเล็กซ์ 1 เรือน ให้สื่อมวลชนถ่ายรูปก่อนมอบคืนให้เจ้าของท่ามกลางชาวบ้านที่สนใจมามุงดูนับร้อยคน ขณะเดียวกันขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่มาดูแลความเรียบร้อย ระหว่างนั้นมีนายณรงค์ จารุจุฑา อายุ 50 ปี กับนายสุวิทย์ มณีวงศ์ตระกูล อายุ 62 ปี 2 พี่น้อง มีบ้านอยู่ย่านเจริญนคร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร ฝั่งธนบุรี ที่เคยมายื่นเรื่องขอรับทรัพย์สินทั้งหมดก่อนหน้านี้ แต่หลักฐานไม่พอ ได้ซักถามพระพยอมอย่างเคร่งเครียดเกี่ยวกับเรื่องการตรวจสอบที่มาที่ไปของทรัพย์สินรวมถึงหลักฐานการเป็นเจ้าของที่แท้จริง ได้รับบริจาคมาเดือนอะไร ปีอะไร เพราะเท่าที่เป็นข่าวออกไปไม่ตรงกัน ตนได้ไปแจ้งความที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำให้รวบรวมพยานหลักฐานให้มากกว่านี้และไปแจ้งความอีกครั้ง
 


นายณรงค์กับนายสุวิทย์กล่าวต่อไปว่า ได้แสดงหลักฐานการบริจาคหัวเตียงจำนวน 7 รายการ ให้กับวัดเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2549 มีเจ้าหน้าที่ของวัดขับรถมารับสิ่งของบริจาคที่บ้าน

ซึ่งตนเชื่อว่าสมบัติทั้งหมดน่าจะเป็นของพ่อตนที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ปัจจุบันป่วยเป็นอัมพาตไม่สามารถพูดได้ ส่วนที่ฝ่ายคู่กรณีมีหลักฐานใบรับประกันนาฬิกาโรเล็กซ์นั้น คงต้องนำหลักฐานไปนำสืบพิสูจน์กันในชั้นศาล หากพิสูจน์ได้จริงตนเองก็ไม่ ติดใจ ส่วนหลักฐานของฝ่ายตนก็จะนำไปพิสูจน์ในชั้นศาลเพื่อแสดงว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติทั้งหมดเช่นกัน ขณะที่พระพยอมเรียกนายรุ่งโรจน์ ไตรรสโสภณ อายุ 36 ปี กับพี่สาวชื่อนางวัลลภา นฤนาถวานิช อายุ 41 ปี ซึ่งนำหลักฐานมาแสดงว่าเป็นลูกเจ้าของทรัพย์สิน โดยนางวัลลภากล่าวว่า ทำธุรกิจส่วนตัว มารดาป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ส่วนพ่อมีอาการเส้นโลหิตฝอยในสมองตีบ เป็นอัมพาตมาหลายปี จนเสียชีวิตลงทั้งคู่ ตนกับน้องชายจึงบริจาคเตียงของบิดามารดาให้กับวัดสวนแก้วซึ่งส่งรถและคนงานมาขนไปเมื่อปี 2549 โดยไม่รู้ มาก่อนว่าพ่อแม่เก็บเงินและสมบัติไว้ในช่องหัวเตียง
 

เมื่อได้รับการติดต่อจากวัดให้มาดูจึงรู้ว่าเป็นเตียงของตน และแจ้งรูปพรรณทรัพย์สินกับหลักฐานให้ทราบ

ส่วนนายรุ่งโรจน์กล่าวว่า ได้นำหลักฐานเป็นใบรับประกันของนาฬิกาโรเล็กซ์ ซึ่งพี่สาวเป็นคนซื้อให้บิดาตอนเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศฝรั่งเศส โดยในเอกสารระบุเลขที่ T 998322 รหัสตัวเรือนด้านหลังนาฬิกา 16233 ซึ่งเมื่อแกะฝาหลังของนาฬิกาดูปรากฏว่าเป็นเลขเดียวกัน พระพยอมจึงแน่ใจและตกลงมอบทรัพย์สินทั้งหมดคืนให้


จากนั้นนายรุ่งโรจน์และนางวัลลภาได้มอบเงิน 4 หมื่นบาท ให้กับเจ้าหน้าที่ของวัด 4 คน ที่เดินทางไปรับบริจาคเตียง และถวายเงินสด 3 แสนบาท ให้กับพระพยอม

เพื่อเป็นทุนการศึกษาเด็กยากจนที่อาศัยอยู่ในวัด ส่วนที่นายณรงค์กับนายสุวิทย์อ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้น นายรุ่งโรจน์และนางวัลลภากล่าวว่า คงต้องไปฟ้องศาล ด้านพระพยอมกล่าวว่า ระยะหลังวัดสวนแก้วมีข่าวบ่อยครั้ง บางคนมองว่าพระพยอมจ้างสื่อโปรโมตวัดสวนแก้วบ้าง พระพยอมเป็นพระลวงโลกพยายามสร้างข่าวบ้าง เป็นการเข้าใจผิด ขอชี้แจงว่าวัดสวนแก้วไม่ จำเป็นต้องจ้างสื่อโปรโมตโฆษณา เพราะญาติโยมมาทำบุญมากจนต้องสร้างที่จอดรถสูง 4 ชั้น เหมือนกับห้างสรรพสินค้าเพื่อรองรับคนที่มา ส่วนที่กล่าวหาวัดสวนแก้วกับพระพยอมลวงโลกนั้น ถ้าวัดสวนแก้วและพระพยอมลวงโลก คงได้เงินมากกว่าการสร้างพระของบางคน ตนทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์