จับสลากเข้าม.1 บีบหัวใจ นํ้าตานองร.ร.

หลังจากที่โรงเรียนมัธยมศึกษาในสังกัดสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประกาศผลการสอบการรับเด็กนักเรียนเข้าเรียนต่อชั้น ม.1

ทั้งในเขตและนอกเขตพื้นที่บริการไปแล้ว แต่ยังมีเด็กจำนวนมากที่สอบไม่ได้นั้น เมื่อวันที่ 30 มี.ค. โรงเรียนมัธยมศึกษาในสังกัด สพฐ.ทั่วประเทศก็ได้กำหนดการจับสลากวัดดวงเพื่อเข้าเรียนต่อ ม.1 ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์ จึงมีครอบครัวเดินทางมาให้กำลังใจ ส่วนใหญ่จะทยอยมาถึงโรงเรียนตั้งแต่เช้า และก่อนที่จะไปรายงานตัวเพื่อจับสลากก็มีการซื้อดอกไม้ ธูปเทียน และพวงมาลัยกราบไหว้สิ่งศักดิ์ประจำโรงเรียน บางรายถึงกับบนบานศาลกล่าวขอให้ลูกดวงดีจับสลากเข้าเรียนได้ บางรายให้ลูกพกพระหรือเครื่องรางติดตัวไว้เพื่อให้โชคช่วย 

กระทั่งเวลา 09.00 น. คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการ กพฐ. เดินทางมาตรวจเยี่ยมความเรียบร้อยในการจับสลากที่โรงเรียนหอวัง
 
แล้วต่อด้วยโรงเรียน สารวิทยา ซึ่งบรรยากาศโดยรวมเป็นไปด้วยดี โดยนักเรียนที่จับสลากไม่ได้ทางโรงเรียนได้จัดให้ลงชื่อไว้ เพื่อจัดหาที่เรียนให้ต่อไป ขณะที่โรงเรียนบางแห่ง เช่น โรงเรียนสารวิทยา ประกาศรับนักเรียนที่มาจับสลากเข้าเรียนทั้งหมด สร้างความดีใจให้กับผู้ปกครองที่มาร่วมลุ้นกับลูก บางรายถึงกับโผกอดลูกร้องไห้ด้วยความดีใจที่ลูกมีที่เรียนต่อ


ต่อมาคุณหญิงกษมาให้สัมภาษณ์ว่า

เท่าที่สอบถามทราบว่าเด็กที่ไม่ได้เข้าเรียนในชั้น ม.1 ในโรงเรียนที่มาสมัครสอบและจับสลาก ร้อยละ 70 จะมาจากโรงเรียนที่เปิดสอนชั้น ม.ต้น ซึ่งเด็กสามารถกลับไปเรียนต่อที่เดิมได้ นอกจากนี้ พบว่าส่วนใหญ่จะมาจากโรงเรียนเอกชน ซึ่งจะหารือกับสำนักบริหารงานคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ถึงการส่งเสริมให้โรงเรียนเอกชนเปิดสอนระดับ ม.ต้นให้มากขึ้น โดยมีมาตรการสนับสนุน เป็นกรณีพิเศษ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อไหร่จะยกเลิกการจับฉลากเข้าเรียน เพราะกดดันทั้งเด็กและผู้ปกครอง คุณหญิงกษมา กล่าวว่า
 
พยายามกันอยู่เพราะเข้าใจว่าเป็นความทุกข์ใจของผู้ปกครอง รวมทั้ง สพฐ.เอง โดยพยายามให้โรงเรียนเปิดสอน ม.ต้นมากขึ้น และในปีที่ผ่านมา สพฐ.พยายามหาที่ดินย่านที่เป็นชุมทางที่ผู้ปกครองเดินทางรับ-ส่งได้สะดวก เพื่อสร้างโรงเรียนเพิ่ม แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดให้ใช้ที่ดิน จึงอยากวิงวอนหน่วยงานต่างๆว่าใครมีที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ก็ขอให้บริจาคใช้สร้างโรงเรียน ซึ่งหน่วยงานจะได้รับประโยชน์ สามารถใช้โรงเรียนเป็นสวัสดิการให้กับพนักงานโดยการฝากเด็กเข้าเรียนได้ 

สำหรับบรรยากาศการจับสลากเข้าเรียนต่อชั้นม.1 ตามโรงเรียนชื่อดังหลายแห่งทั่วกรุง ก็ยังคงเนืองแน่นไปด้วยผู้ปกครองที่พาลูกหลานมาหาที่เรียนต่อชั้น ม.1

ซึ่งการจับสลากมีทั้งที่สมหวังและผิดหวัง ซึ่งโรงเรียนแต่ ละแห่งก็ได้หาทางรองรับนักเรียนที่ยังเคว้งคว้าง อาทิ นายอมรรัตน์ ปิ่นเงิน ผอ.โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) กล่าวว่า ที่โรงเรียนมีผู้มีสิทธิจับสลาก 416 คน มารายงานตัว 380 คน แต่รับได้เพียง 120 คน ส่วนนักเรียนที่พลาดโอกาส ให้แสดงความจำนงที่จะเรียนโรงเรียนในสหวิทยาเขตวังทองหลาง โดยขอความร่วมมือให้ผู้ปกครองแนะนำและตัดสินใจเลือกโรงเรียนสำหรับให้บุตรหลานได้เรียนก่อน เพื่อที่จะสบายใจได้ว่ามีที่รองรับ นอกจากนี้ ยังได้แจ้งให้ ผู้ปกครองทราบก่อนรับสมัครว่า ให้ระวังผู้แอบอ้างแสวงหาผลประโยชน์ และหากมีข้อสงสัยใดๆ ให้สอบถามมายังคณะกรรมการคัดเลือกนักเรียนโดยตรง ขณะนี้จึงไม่ได้รับแจ้งว่ามีผู้แอบอ้างดังกล่าว



ด้านนายเชิดชัย พลานิวัติ ผอ.โรงเรียนสตรีวิทยา 2 กล่าวว่า

ปีนี้ผู้มีสิทธิจับฉลาก 564 คน รับได้ 140 คน สำหรับเด็กที่พลาด 424 คน และนักเรียนที่อยู่นอกเขตพื้นที่บริการและพลาดจากการสอบ จะให้ โอกาสคัดเลือกเพื่อเข้าเรียนอีกครั้ง 40 คน โดยให้ส่งคะแนน ประวัติส่วนตัว ความสามารถพิเศษ และความจำนงที่จะเข้าเรียนส่งมาที่โรงเรียนตั้งแต่วันที่ 1-7 เม.ย. นี้ โดยโรงเรียนจะตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ และประกาศผลภายในวันที่ 10 เม.ย. นี้ 


ส่วนที่โรงเรียนศึกษานารี มีนักเรียนรายงานตัว 118 คน จากผู้มีสิทธิ์ 134 คน

ขณะที่รับได้ 88 คน ซึ่งทำให้ มีนักเรียนที่พลาดหวัง จับสลากไม่ได้ถึงกับน้ำตาร่วง ซึ่งนางสิริยุพา ศกุนตะเสฐียร ผอ.โรงเรียนศึกษานารี ได้ แนะนำให้เข้าโรงเรียนมัธยมวัดดาวคนอง ซึ่งมาตั้งโต๊ะรับ นักเรียนถึงที่ พร้อมระบุเป็นโรงเรียนคู่พัฒนาของโรงเรียนศึกษานารี ซึ่งมีคุณภาพไม่แพ้กัน รวมทั้งยังฝากเตือนถึงพ่อแม่ผู้ปกครองว่า ให้ระวังผู้ที่แอบอ้างว่าสามารถฝากเข้าโรงเรียนดังๆได้ เพราะทราบว่ามีผู้ไม่หวังดีมาแอบอ้างว่าสามารถฝากเข้าโรงเรียนได้ โดยให้จ่ายเงินเท่านั้นเท่านี้ จึงอยากย้ำเตือนอย่าหลงเชื่อ เพราะไม่มีที่ไหนทำเช่นนั้นเด็ดขาด


ที่โรงเรียนศรีอยุธยา นักเรียนที่มีสิทธิจับสลาก 585 คน มารายงานตัว 444 คน รับได้ 238 คน

ซึ่งปรากฏว่าเป็นที่ฮือฮาเมื่อมีเด็กสายตาเลือนราง บางรายป่วยเป็นอีสุกอีใส และมีสามเณร มาร่วมจับสลาก ซึ่งทั้งหมดล้วนจับสลากได้เข้าเรียนต่อ ท่ามกลางการร่วมลุ้นของผู้ปกครอง ขณะที่โรงเรียนราชวินิตมัธยม มี นร.ที่มีสิทธิจับสลาก 79 คน รับได้ 70 คน จึงมีผู้พลาดหวัง 9 คน แต่นายธีระ จันทรรัตน์ ผอ.สำนักงานการศึกษาพิเศษ กล่าวว่า คาดว่าจะรับเด็กที่เกินทั้งหมด และให้เด็กยื่นความจำนงไว้ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน


เช่นเดียวกับที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นักเรียนมีสิทธิจับฉลาก 313 คน มารายงานตัว 289 คน รับทั้งสิ้น 130 คน

นางอ่องจิต เมธยะประภาส ผอ.โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ กล่าวว่า นักเรียนที่พลาดหวัง ไม่ต้องหมดกำลังใจ เพราะได้เตรียมโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนแบบสหวิทยาเขต มีคุณภาพการศึกษาในระดับเดียวกันไว้รองรับ เช่น โรงเรียนราชดำริ โรงเรียนศรีพฤกษา เป็นต้น รวมทั้งโรงเรียนสังกัด กทม.รูปแบบสหกิจจัดการศึกษาร่วมอีก 3 โรงคือ โรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ โรงเรียนมัธยมวัดปากบ่อ และโรงเรียนมัธยมนาคนาวาอุปถัมภ์ โดยนักเรียนจะต้องแจ้งความจำนงตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 7 เม.ย.นี้ ประกาศผลวันที่ 10 เม.ย. และมอบตัวในวันที่ 11 เม.ย.นี้


ด้านนายสายัณห์ รุ่งป่าสัก ผู้อำนวยการ สพท.กทม. เขต 2 กล่าวว่า

ใน สพท.กทม.เขต 2 ขณะนี้มีเด็กในเขตพื้นที่บริการเกินกว่าที่โรงเรียนจะรับได้อยู่ 5,307 คน ซึ่งยืนยันว่าโรงเรียนใน สพท.กทม.เขต 2 ที่มีอยู่ 30 กว่าโรง จะสามารถเกลี่ยเด็กเข้าเรียนได้หมด อย่างไร ก็ตาม ได้ขอให้โรงเรียนต่างๆที่เด็กไปสมัครเข้าเรียนและยังไม่มีที่เรียนเปิด ให้เด็กแจ้งความจำนงขอให้จัดที่เรียนให้ 5 อันดับ ซึ่งหากใครยังไม่แจ้งก็ให้มาแจ้งได้อีกในวันที่ 6-7 เม.ย. ที่โรงเรียนทุกแห่ง โดยจะประกาศผลการจัดสรรที่เรียนให้ในวันที่ 10 เม.ย. และรายงานตัว วันที่ 11 เม.ย. เพื่อทุกคนจะได้เที่ยวสงกรานต์อย่างมีความสุข แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าขอเรียนที่ไหนแล้วจะได้เรียนที่นั่นทั้งหมด และยืนยันว่าหากไม่เลือกที่เรียน มีที่เรียนแน่นอน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์