เสียตัวเสียตางค์อดแต่ผัวฝรั่งครูยังโดนตุ๋น

แฉบริษัทจัดหาคู่ชาวต่างชาติให้หญิงไทยในจ.ขอนแก่น ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด หญิงสาวชาวอีสานต้องเสียเงิน-เสียตัวไปฟรีๆ จำนวนมาก แต่ไม่กล้าแจ้งความเพราะอาย ตร.เผยถ้ามีเจ้าทุกข์เอาเรื่อง ตั้งข้อหาฉ้อโกงได้ทันที ขณะที่เอ็นจีโอด้านผู้หญิงเผยแฟชั่นหาสามีฝรั่งลามถึงครูแล้ว เผยชายฝรั่งที่เสนอตัวส่วนใหญ่เป็นคนตกงาน-ขี้ยา-ขี้เหล้า-อาชญากร ด้าน "เหยื่อ" เตือนระวังฝรั่งเจ้าเล่ห์ฟันแล้วทิ้ง
 

ปัญหาหญิงสาวชาวไทยต้องการมีสามีเป็นชาวต่างชาติเพื่อหวังยกระดับชีวิตให้สุขสบายขึ้นแต่สุดท้ายกลายเป็นเหยื่อต้องเสียตัวเสียเงินฟรีๆ 

ยังคงมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดที่ จ.ขอนแก่น พบหญิงสาวหลายคนถูกหลอกในลักษณะเช่นนี้ โดยต้องเสียเงินให้บริษัทจัดหาคู่ที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดอย่างมหาศาล แต่ตำรวจไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะส่วนใหญ่จะไม่ยอมแจ้งความ
 

 พ.ต.ท.วีระวุฒิ เสียงใส สว.สป.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า 

ขณะนี้มีบริษัทจัดหาคู่ให้บริการกับหญิงไทยที่ต้องการมีสามีเป็นชาวต่างชาติเกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งผู้ไปใช้บริการบางส่วนก็ประสบความสำเร็จ ได้แต่งงานมีครอบครัวมีความสุข แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่ประสบความสำเร็จ ต้องเลิกรากันไปภายหลัง นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายกรณีที่หญิงไทยเข้ามาร้องเรียนว่าถูกบริษัทจัดหาคู่หลอกลวงเอาเงิน แต่ส่วนใหญ่ไม่กล้าเปิดเผยตัวเอง หรือแจ้งความดำเนินคดี เพราะเกรงจะเกิดความอับอายและถูกซ้ำเติม ตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้เป็นต้นมามีผู้ร้องเรียนแล้วกว่า 50 ราย ส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวในเขต  อ.เมือง จ.ขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียง
 

พ.ต.ท.วีระวุฒิกล่าวอีกว่า

การสอบปากคำเบื้องต้นพบว่าส่วนใหญ่ผู้ที่มาร้องเรียนไปใช้บริการจากบริษัทจัดหาคู่ 2 บริษัทที่ตั้งอยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยบริษัทดังกล่าวมีการเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในกลุ่มหญิงสาวชาวไทยที่ประสงค์จะมีสามีเป็นชาวต่างชาติ โดยได้เข้าไปขอรับคำปรึกษา และกำหนดคุณสมบัติของชาวต่างชาติที่ต้องการแต่งงานไว้ด้วยโดยไม่ระบุสัญชาติ จากนั้นทางบริษัทก็จะติดต่อไปยังเครือข่ายกลุ่มเพื่อนชาวต่างชาติ โดยมีการประสานผ่านไปยังเครือข่ายคนไทยที่มีสามีเป็นชาวต่างชาติอยู่แล้ว ในลักษณะของแชร์ลูกโซ่ จนกระทั่งพบชาวต่างชาติที่ต้องการมีภรรยาเป็นคนไทย จึงนัดให้มีการพูดคุยกันผ่านทางอินเทอร์เน็ต ในเว็บไซต์ของบริษัท โดยจะใช้เวลาในการพูดคุยกันนานกว่า 2 เดือน ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงกันที่จะนัดพบกันที่ประเทศไทย ซึ่งจะใช้สถานที่นัดพบที่ จ.ขอนแก่น ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ หรือตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทเป็นผู้ประสานงานให้ทั้งหมด  ส่วนผู้ที่เข้ามาขอใช้บริการจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเบื้องต้นคนละประมาณ 5-7 หมื่นบาท

"ต้องยอมรับว่าขณะนี้กระแสแฟชั่นหญิงไทยนิยมมีสามีเป็นชาวต่างชาติมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการที่ตำรวจมาดูแลเรื่องนี้ ก็ไม่ใช่ว่าต้องการจะไปปิดกั้นกระแสความนิยม แต่เมื่อพบเห็นความไม่ถูกต้องก็จะต้องเข้าไปห้ามปราม หรือดำเนินการตามกฎหมาย โดยมูลความผิดที่ชัดเจนคือการที่หญิงสาวเหล่านี้ไปเสียเงินคนละ 5  หมื่นบาท สำหรับการจัดหาในเบื้องต้นแล้ว เมื่อถึงช่วงของการนัดเจอตัวที่ประเทศไทย ถ้าฝ่ายหญิงและฝ่ายชายยินยอมพร้อมใจที่จะตกลงปลงใจอยู่ร่วมกัน ทางบริษัทก็จะได้อีกคนละ 5  หมื่นบาท ซึ่งถึงกระบวนการนี้หญิงสาวจะต้องเสียเงินรวมแล้ว 1 แสน บาท และถ้าคู่ใดตกลงปลงใจที่จะแต่งงานกัน ทางบริษัทก็จะหักเงินจากค่าสินสอดอีกร้อยละ 10 ซึ่งบางคนต้องเสียเงินกับความต้องการมีสามีเป็นชาวต่างชาติถึง 2-3 แสนบาท" พ.ต.ท.วีระวุฒิกล่าว
 

พ.ต.ท.วีระวุฒิกล่าวด้วยว่า

ปัญหาอีกอย่างที่พบคือถ้าหญิงสาวที่ใช้บริการไปพบกับชาวต่างชาติที่ไม่มีความพร้อม หรือเข้ามาในประเทศไทยเพื่อจุดประสงค์ในลักษณะหลอกลวงหญิงสาว เมื่อได้คบหากันแล้วก็จะเลิกรากันไปภายในไม่ถึง 1 เดือน หรือถ้าเพียงแค่พบหน้าแล้วไม่ตกลงคบหากัน ฝ่ายหญิงก็ไม่สามารถเรียกเงินคืนได้ ซึ่งเท่าที่ทราบเฉพาะเดือนมกราคมเดือนเดียวมียอดเงินที่เสียไปรวมแล้วกว่า 10 ล้านบาท จากการตรวจสอบยังพบว่าหญิงสาวบางคนไปกู้หนี้ยืมสินมา เพราะคิดว่าจะได้รับความสบายหรือความร่ำรวยในเพียงแค่ชั่วข้ามคืน แต่ไม่มองถึงผลกระทบที่จะตามมา 

"สิ่งที่ทางตำรวจดำเนินการได้ในขณะนี้คือ การประชาสัมพันธ์ให้หญิงสาวที่ยังคงนิยมหรือชื่นชอบแฟชั่นการเป็นภรรยาของชาวต่างชาติให้รู้ว่าถ้าพบสามีชาวต่างชาติเป็นคนดีและมีความจริงใจ หรือมีเงินจริง ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าไปพบคนที่ไม่ตรงตามที่เราต้องการ ก็เป็นเรื่องที่สูญเสียโดยไม่ได้กลับคืน ซึ่งถ้ามีเจ้าทุกข์มาแจ้งความ ก็สามารถจะดำเนินคดีได้โดยทันที ซึ่งในรอบ 3 ปีที่ผ่านมามีเพียง 1 รายที่เข้าแจ้งความ แต่ก็สามารถตกลงและยอมความกันได้ ส่วนบริษัทที่ให้บริการแบบนี้ ทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น มีอยู่ 6 บริษัท มีลูกค้าทั่วประเทศรวมกว่า 1,000 ราย ถ้าพบว่ามีการทำความผิดจริง และมีผู้เสียหาย ทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถจะดำเนินคดีในข้อกล่าวหาล่อลวงหรือฉ้อโกงได้ทันที" พ.ต.ท.วีระวุฒิกล่าว
 

ด้านเจ้าหน้าที่เครือข่ายคุ้มครองเด็กและผู้หญิงจังหวัดขอนแก่นเปิดเผยว่า 

แนวคิดที่ว่าการแต่งงานอยู่กินกับชายชาวต่างชาติเพื่อความสุขสบายนั้นไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็พบว่ามีผู้หญิงถูกหลอกเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่หญิงที่ถูกหลอกจะเป็นกลุ่มประเภทที่หาเอง ติดต่อกับชาวต่างชาติโดยตรงผ่านทางเว็บไซต์ 

"หลายคนคิดว่าเมื่ออยู่กินกับชาวต่างชาติแล้วจะได้เงินดีและนำไปสู่การแต่งงานมีครอบครัว แต่ที่ผ่านมาพบว่าหลังจากการติดต่อผ่านทางเว็บไซต์แล้ว มีชายชาวต่างชาติเดินทางมาพบที่ประเทศไทย และไปเที่ยวกันอาจเป็นเวลา 1 เดือนหรือมากกว่านั้น แต่หลังจากนั้น ชาวต่างชาติก็จะขอตัวกลับประเทศ โดยที่ไม่ได้ให้เงินกับหญิงชาวไทย และไม่ได้แต่งงานกัน เพราะชาวต่างชาติมองว่าต่างฝ่ายต่างสนุกร่วมกันเฉยๆ ทำให้หญิงชาวไทยเสียตัวไปฟรีๆ ซึ่งลักษณะนี้จะพบเห็นจำนวนมาก" เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าว
 

เจ้าหน้าที่เครือข่ายคุ้มครองเด็กและผู้หญิงจังหวัดขอนแก่นยังเปิดเผยว่า

ที่ผ่านมาพบว่าผู้หญิงที่แต่งงานกับชาวต่างชาติมีอยู่ 3 ประเภท คือ 1.ประเภทที่ญาติไปเรียนต่อหรือทำงานต่างประเทศแล้วติดต่อกันเอง 2.กลุ่มที่หาเอง และหวังเงินจากชาวต่างชาติเท่านั้น โดยส่วนใหญ่จะหาตามเว็บไซต์ ซึ่งกลุ่มนี้พบว่าถูกหลอกมากที่สุด เพราะรู้ภาษาอังกฤษเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และ 3.จะเป็นกลุ่มคนที่มีความรู้ ล่าสุดพบว่ามีกลุ่มครูบางส่วนที่เป็นม่าย หรือไม่มีครอบครัว พยายามหาช่องทางติดต่อกับชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น
 

"หลายรายถูกหลอก เพราะทุกวันนี้ ชาวต่างชาติเริ่มรู้ไต๋หญิงสาวชาวอีสานมากขึ้น เพราะหากแต่งงานกันไป ก็จะต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูพ่อแม่ฝ่ายหญิงด้วย ซึ่งฝรั่งก็ไม่จริงจังกับเรื่องนี้ และส่วนใหญ่พบว่า ที่เขาติดต่อมาเพียงต้องการมีสัมพันธ์ทางด้านร่างกายเท่านั้น ดังนั้นการแต่งงานผ่านทางติดต่อตรงหรือผ่านทางบริษัทจัดหาคู่ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากพบว่าชาวต่างชาติที่เล่นเว็บไซต์หรือติดต่อผ่านทางบริษัทจัดหาคู่ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ตกงาน แต่ได้รับเงินจากรัฐบาลเขาอยู่ กลุ่มติดยา ติดเหล้า และสุดท้ายเป็นกลุ่มอาชญากรที่แฝงเข้ามา เพื่อหลอกลวงผู้หญิงไปขายหรือทำมิดีมิร้าย"
 

นางบีอายุ 40 ปี ชาวขอนแก่น เปิดเผยว่า 

อดีตเคยมีสามีชาวไทย อยู่กินกันจนมีลูก 2 คน แต่เมื่อต้นปี 2550 จับได้ว่าสามีไปมีภรรยาน้อย ทำให้มีเรื่องทะเลาะกันต่อเนื่อง จนต้องหย่าร้างกันไป ต่อมาช่วงปลายปีได้รับการชักนำจากเพื่อนให้ไปเล่นแชทหาคู่ครองชาวต่างชาติผ่านเว็บไซต์ จนได้รู้จักชายชาวเยอรมันคนหนึ่ง และได้นัดพบกันที่โรงแรมในกรุงเทพฯ  

"ฉันได้เดินทางไปพบและทำความรู้จักกันประมาณ 3-4 วัน แต่ตกลงเรื่องการแต่งงานกันไม่ได้ จึงได้กลับมาที่ขอนแก่นเหมือนเดิม หมดเงินค่ารถค่าเดินทางไปหลายพันบาท ต่อมาก็ได้เข้าแชทพบชาวต่างชาติอีกคน คนนี้เขาเดินทางมาหาที่ จ.ขอนแก่น ไปกินไปเที่ยวกันหลายครั้ง และคิดว่าคนนี้จะยอมแต่งงานและอยู่กินด้วย แต่สุดท้ายก็รู้ว่าชาวต่างชาติคนนี้ไม่ได้มีฉันคนเดียว เขามีเมียเป็นชาวไทยอีกคน จึงเลิกรากันไป" นางบีกล่าวนางบียังฝากเตือนไปยังผู้หญิงชาวไทยที่กำลังหาคู่ครองชาวต่างชาติให้ระวังให้ดีเพราะชาวต่างชาติส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการแต่งงานอยู่กินกับเรา เขาต้องการเพียงคู่ขาเพื่อมีเซ็กส์ในช่วงที่เขามาอยู่ที่เมืองไทยเท่านั้น หากใครต้องการมีคู่ครองชาวต่างชาติจริงๆ ต้องศึกษาประวัติความเป็นมาให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ ไม่เช่นนั้นจะถูกหลอกและเสียตัวให้เขาฟรีๆ 



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์