วางยาหมายัวะอึหน้าบ้านลั่นไม่ยอมความรู้ถึงศาล

เจ้าของบ้านสุดทน หมามาขี้หน้าบ้านจนเหม็นคลุ้ง ใช้ยาเบื่อคลุกลูกชิ้นโยนให้กินจนตาย ต่างฝ่ายต่างเข้าแจ้งความ ท้าสู้กันในชั้นศาล ลั่น " ยังต้องตายอีกหลายตัว" เพราะสุดทนเพื่อนบ้านอีกหลายหลังปล่อยหมาถ่ายเรี่ยราด "ประมาณ" ระบุฆ่าหมามีเจ้าของมีความผิดตามกฎหมาย เลขาฯ สมาคมป้องกันทารุณสัตว์ฯ เตือน เลี้ยงหมาต้องดูแล อย่าสร้างความเดือดร้อน
 

ทุกข์ของคนที่ต้องทนเหม็นขี้หมาจนนำไปสู่การทะเลาะวิวาทรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 มีนาคม 

ขณะที่ พ.ต.ท.จารุวัฒน์ สรรพอุดม ปฏิบัติหน้าที่สารวัตรเวร สภ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ได้มี น.ส.ปัทมาพร แดงเกาะโพธิ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174/29 หมู่บ้านฉัตรไพริน หมู่ 8 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว เข้าแจ้งความว่า นางสุรีย์ ธนพัฒนกุล อายุ 43 ปี เพื่อนบ้านติดกัน ใช้ยาเบื่อสุนัขพันธุ์ไทยชื่อ "ดำ" ที่เลี้ยงไว้จนตาย
 

ระหว่างให้ปากคำนางสุรีย์ ผู้ถูกกล่าวหาก็ได้เดินทางมาที่ สภ.ลาดหลุมแก้วเช่นกัน

โดยเข้าพบร้อยเวรพร้อมหลักฐานภาพถ่ายสุนัขหลายตัวที่กำลังถ่ายอยู่หน้าบ้าน และภาพของเจ้า "ดำ" ที่ตายแล้ว โดยแจ้งความว่า สุนัขของเพื่อนบ้านรวมทั้งสุนัขของ น.ส.ปัทมาพร สร้างความเดือดร้อนให้อย่างมาก มาถ่ายอุจจาระที่หน้าบ้านตนมาแล้วหลายครั้ง ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นตลบอบอวลไปรอบรั้วบ้าน และยอมรับว่าเป็นคนวางยาเบื่อหมา ด้วยการใช้ยาฆ่าแมลงคลุกลูกชิ้นให้กินจนตาย 

หลังจากพบหน้ากันต่างก็ไม่ยอมกัน มีการโต้เถียงเป็นระยะๆ ตำรวจได้พยายามไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่าย ซึ่งฝ่ายเจ้าของหมาได้เรียกร้องให้จ่ายค่าเสียหาย ซึ่งเป็นค่าซื้อสุนัขมาและค่าวัคซีน แต่ยังไม่ทันแจ้งว่าจะให้ชดใช้จำนวนเท่าใด ส่วนนางสุรีย์ยืนยันว่าจะไม่ยอมจ่ายค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น และต้องการให้เรื่องถึงชั้นศาล เพื่อให้เรื่องราวยุติในชั้นศาลเท่านั้น
  

"อยู่หมู่บ้านนี้มาหลายปีแล้ว ได้รับความเดือดร้อนจากเพื่อนบ้านที่เลี้ยงหมา ในละแวกใกล้เคียงมี 5 หลัง ตรงข้ามก็พันธุ์บางแก้ว หลังนี้ก็มีหมา หลังนั้นก็มีหมา บ้านไหนปล่อยหมาออกมาก็วิ่งมาขี้หน้าบ้านฉัน เคยบอกให้ดูแลดีๆ ก็ไม่ทำ จนทะเลาะกันไปหมด เมื่อไม่ดูแลก็เลยเบื่อหมาตาย นี่ยังอีกหลายตัว ยังต้องตายอีกหลายตัว" นางสุรีย์ กล่าว เมื่อพ.ต.ท.จารุวัฒน์ เห็นว่าไม่มีท่าทีที่คู่กรณีจะสามารถตกลงกันได้ จึงได้นัดผู้เสียหายมาสอบสวนใหม่ แล้วจะส่งฟ้องศาลดำเนินการตามกฎหมายในวันถัดไป
 

นายฉัตรชัยเพื่อนบ้านที่เลี้ยงหมา กล่าวว่า

เลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน บางบ้านก็เลี้ยงพันธุ์บางแก้ว พอกลับจากทำงาน ก็จะพาหมาเดินเล่นในหมู่บ้าน แต่หมาเจ้ากรรมมักวิ่งไปถ่ายอุจจาระที่หน้าบ้านของนางสุรีย์เป็นประจำ จูงหนีก็ไม่ยอมไป สังเกตว่าหมาทุกตัวจะวิ่งมาถ่ายที่จุดเดิมเสมอ
 

นายเอนกเพื่อนบ้านอีกรายกล่าวว่า 

ต่อไปนี้จะพยายามไม่ปล่อยหมาออกไปนอกบ้าน จะฝึกให้ขับถ่ายในบ้าน เพื่อไม่ให้สร้างความรำคาญกับเพื่อนบ้านอีก โดยเฉพาะเมื่อเขาประกาศแล้วว่า "จะเบื่อหมาทุกตัวที่มาขี้หน้าบ้าน " ยิ่งต้องดูแลเป็นพิเศษเพราะกลัวหมาถูกวางยาตาย
 

นายประมาณเลืองวัฒนะวณิช ทนายความชื่อดัง กล่าวถึงกรณีวางยาเบื่อสุนัขมีเจ้าของ และเจ้าของแจ้งความดำเนินคดีว่า 

มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา เป็นความผิดที่ยอมความได้ ตามมาตรา 358 ระบุว่า ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  

ด้านนายสวรรค์แสงบัลลังค์ เลขาธิการสมาคมป้องกันทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย มองว่า 

กรณีที่เกิดขึ้นผิดด้วยกันทั้งคู่ว่า คนที่เป็นเจ้าของสุนัขควรดูแลสุนัขของตนเองไม่ให้ไปก่อความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ส่วนคนวางยาเบื่อก็มีความผิดถูกปรับตามกฎหมายอยู่แล้ว ในส่วนของผู้เลี้ยงใน กทม. ล่าสุด กทม.มีการฝังไมโครชิพสุนัข เพื่อเป็นการแก้ปัญหา รวมทั้งตามระเบียบของ กทม. ก็กำหนดโทษปรับผู้ทอดทิ้งและปล่อยสุนัขให้มาสร้างความเดือดร้อนแก่คนอื่น 5,000 บาทด้วย
 

"กรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของสุนัข แต่เป็นความผิดของเจ้าของที่ปล่อยให้มาสร้างความเดือดร้อน ส่วนคนที่วางยาเบื่อก็ผิดกฎหมายและศีลธรรม ฉะนั้นการอยู่ร่วมกันในสังคมต้องมีการกำหนดกติกาในการอยู่ร่วมกัน อย่างระเบียบของ กทม.ทุกคนควรปฏิบัติตาม" นายสวรรค์ กล่าว
 

ทั้งนี้ในส่วนของกรุงเทพมหานคร การดำเนินการข้อพิพาทอันเกิดจากสุนัขระหว่างเจ้าของสุนัขและคู่กรณีหมายถึงเจ้าของบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนรำคาญนั้น ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ข้อที่ 16 ตาม พ.ร.บ.การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสุนัข  กำหนดว่า โดยหลักการการควบคุมเลี้ยงสุนัข เจ้าของต้องจัดสถานที่ให้เหมาะสม และมีระบบกำจัดสิ่งปฏิกูลให้ถูกสุขลักษณะ ถ้าสุนัขไปข้างนอกสถานที่จัดไว้ เจ้าของต้องไปด้วย และควบคุมไม่ให้สุนัขทำความเดือดร้อนรำคาญ เช่น ถ่ายอุจจาระหรือส่งเสียงดัง หากฝ่าฝืน ตามพระราชบัญญัติสาธารณสุขมาตรา 73 วรรคสอง จะมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท การดำเนินการอยู่ที่สำนักงานเขตนั้นๆ เป็นผู้ดำเนินการ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์