ลวงเด็ก14-16 ปีมาเสิร์ฟกาแฟถูกข่มขืนเซ็กส์หมู่

หลอกเด็กสาววัย 14 และ 16 ปี มาเสิร์ฟกาแฟที่พัทยา เจ้าตัวหวังหาเงินเลี้ยงแม่ ยายที่เป็นอัมพาต และตาที่ตาบอดสนิท แต่กลับถูกส่งขึ้นคอนโดหรูให้สามีฝรั่งอเมริกันขยี้กาม บังคับเซ็กส์หมู่ร่วมเพศแบบพิสดาร สุดเสียใจถูกเปิดบริสุทธิ์ แต่ก็หนีรอดมาได้ร้องตำรวจท่องเที่ยวพัทยาช่วยเหลือ หวั่นติดโรคร้าย ตำรวจออกหมายจับสาวไทยกับผัวฝรั่งแล้ว ในข้อหาข่มขืนหญิงซึ่งไม่ใช่ภรรยาและยังไม่บรรลุนิติภาวะ ทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว พรากผู้เยาว์ และบังคับให้ค้าประเวณีกับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ
 

 เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์

น.ส.เจี๊ยบ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เข้าร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจาก พ.ต.อ.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผกก.ส.ทท.1 ฝทท.2 เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และ ร.ต.อ.สุประพันธ์ โพธิภิรมย์ รอง สว.ฝทท.2 กก.ส.ทท.1 ว่า นางพิศมัย ไพรราม อายุ 30 ปี เจ้าของบาร์ชื่อ "แบล็คแค๊ดลาว" เลขที่ 352/178-8 ถนนพระตำหนัก 5 หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลอกพาตนและ ด.ญ.สอง (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ซึ่งอยู่บ้านติดกัน มาจากนครราชสีมา แล้วให้สามีข่มขืน

น.ส.เจี๊ยบ เล่าว่า

เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2550 มีนายหน้าไปติดต่อหาพนักงานเสิร์ฟกาแฟที่พัทยา โดยจะให้เงินเดือนเดือนละ 6,000 บาท ด้วยความสงสารแม่ ตาและยายที่ยากจน ประกอบกับตาตาบอดมองไม่เห็นทั้งสองข้าง และยายเป็นอัมพาต ส่วนแม่ก็แยกทางกับพ่อ จึงตัดสินใจออกจากโรงเรียนระหว่างเรียนอยู่ชั้น ม.3 เพื่อมาทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว
 ส่วน ด.ญ.สอง กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.2 ฐานะทางบ้านยากจนเหมือนกัน จึงออกจากโรงเรียนมาทำงานตามที่นายหน้าไปรับมาจากแม่และญาติๆ โดยทุกคนต่างคิดว่าจะมาทำงานเสิร์ฟกาแฟ จึงอนุญาตให้มา แต่ปรากฏว่าถูกพาไปอยู่ในร้านขายสุราและเบียร์ให้แก่ชาวต่างชาติ
 

 น.ส.เจี๊ยบ กล่าวอีกว่า

คืนแรกที่มาถึง นางพิศมัยพาขึ้นไปส่งบนห้องพักซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมชื่อรวมโชค 5 ชั้น 4 ให้อยู่กับนายเพิร์ทกาต หรือนายสมชาย สามีชาวอเมริกันของนางพิศมัย ในห้องเพียง 2 คน จึงถูกปลุกปล้ำ ข่มขืน แต่ครั้งแรกยังไม่เสียพรหมจรรย์ เพราะดิ้นรนต่อสู้อย่างสุดฤทธิ์ และกราบขอร้องไม่ให้ข่มขืนและทำร้ายร่างกายจึงรอดมาได้ ด้วยความกลัวและไม่มีเงินในการหลบหนี อีกทั้งเกรงว่าพวกแก๊งนายหน้าจะตามไปฆ่าแม่ ตาและยายที่บ้านนอก จึงอดทนอยู่ต่อไป
 

 น.ส.เจี๊ยบ เล่าต่อว่า

จากนั้นไม่กี่วัน นางพิศมัยได้พาขึ้นไปส่งให้สามีของตัวเองบนห้องอีกครั้ง ครั้งนี้ตนถูกสามีของนางพิศมัยบังคับด้วยการใช้ผ้าพันที่คอ แล้วทำท่าทางให้รู้ว่าถ้าร้องหรือขัดขืนจะรัดคอให้ตาย จากนั้นก็ข่มขืนด้วยการใช้วัตถุหล่อลื่นจนสำเร็จความใคร่ ต่อมาไม่กี่วัน นางพิศมัยได้พา ด.ญ.สอง ขึ้นไปส่งให้สามีบนคอนโดห้องเดิมข่มขืนอีกคน ที่เลวร้ายไปกว่านั้นบางวันพาขึ้นไปส่งพร้อมกัน 2 คน บังคับให้รักร่วมเพศแบบพิสดารพร้อมกัน
 

 น.ส.เจี๊ยบ กล่าวว่า

สิ่งที่อาจจะเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตของตัวเองและน้องสาว คือกลัวว่าจะติดโรคร้าย เพราะสังเกตเห็นอาการของฝรั่งและภรรยามีอาการป่วย ไอแห้งๆ ผอม อีกทั้งมีเสียงลือกันว่าสองสามีภรรยาป่วยมานานแล้วไม่หาย และบางครั้งการร่วมเพศก็ไม่ได้สวมถุงยางอนามัย ซึ่งตนยอมทุกอย่างเพื่อขออิสระ และจะเอาเรื่องคนไทยด้วยกันที่ไม่ยอมรักษาปกป้องหญิงไทยด้วยกัน ส่งเสริมให้สามีชาวต่างชาติข่มขืน
 

 หลังจากได้ทราบข้อมูล พ.ต.อ.นราเดช ได้ให้ ร.ต.อ.สุประพันธ์ นำ น.ส.เจี๊ยบ ไปส่งให้ พ.ต.ต.สมพล นากขำพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อบันทึกปากคำ

พร้อมกับเชิญพนักงานอัยการ เจ้าหน้าที่พิทักษ์เด็กและสตรี มาร่วมฟังการสอบปากคำเนื่องจากเด็กสาวยังไม่บรรลุนิติภาวะ และขออนุมัติหมายจับนางพิศมัย ไพรราม และสามีชาวอเมริกัน ในข้อหาข่มขืนหญิงซึ่งไม่ใช่ภรรยาและยังไม่บรรลุนิติภาวะ ทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว พรากผู้เยาว์ และบังคับให้ค้าประเวณีกับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ล่าสุด ตำรวจออกหมายแล้ว คาดว่าจะเข้าจับกุมต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์