ติดต่อมอบตัวแล้ว บัณฑิตสาวลักเพชร

บัณฑิตสาวฉกเพชรร้านขายเพชรที่ทำงานอยู่ ติดต่อมอบตัวแล้ว

ญาติติดต่อตร.สอบถามเรื่องหลักทรัพย์ประกันตัวแต่ยังไม่บอกว่าจะมามอบตัวเมื่อไหร่ อ้างต้องใช้เวลาหาเงินประกัน เผยล่าสุดฝ่ายผู้ต้องหาขอไกล่เกลี่ยโดยจะยอมจ่ายเงินให้เท่าที่เจ้าของร้านไปไถ่เพชรออกมาจากโรงจำนำ แต่ตร.ยันเป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ ด้านเจ้าของร้านขายเพชรเข้าให้ปากคำตร.อีกรอบ เผยความจริงไม่อยากแจ้งความ แต่เปิดโอกาสให้บัณฑิตสาวเอาเพชรมาคืนแล้วไม่เป็นผล แถมยังหลบหนีเลยต้องแจ้ง

จากกรณีน.ส.นราทิพย์ หรือโบ ศรีวรนารถ อายุ 22 ปี บัณฑิตสาวมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ที่ 5 ต.ท่าแร้ง อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ก่อเหตุขโมยเพชรจากตู้เซฟร้านขายเพชรของน.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ย่านชิดลม กทม. ซึ่งน.ส.นราทิพย์ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ประกอบด้วยสร้อยข้อมือ ต่างหู และแหวนเพชร มูลค่า 1.3 ล้านบาท ต่อมาวันที่ 25 ก.พ. เจ้าหน้าที่สน.ลุมพินีจับกุมน.ส.นราทิพย์ได้ โดยบัณฑิตสาวยอมรับว่าเป็นคนขโมยเพชรจริง และไปจำนำที่ร้านรับจำนำณัชชา ย่านถนนรัชดาภิเษก ในราคา 70,000 บาท นำเงินไปให้เพื่อนทำแท้ง 10,000 บาท ส่วนที่เหลือนำไปใช้หนี้พนันฟุตบอลของตนเอง แต่ขณะเจ้าหน้าที่กำลังขออนุมัติหมายจับ มารดาของผู้ต้องหาได้อ้างสิทธิตามกฎหมาย จนต้องปล่อยตัวไป และ น.ส.นราทิพย์หายตัวไป ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 27 ก.พ.

พ.ต.ต.ปิโยรส กัณหะสิริ สว.สส.สน.ลุมพินี กล่าวว่า นช่วงเช้าญาติของน.ส.นราทิพย์โทรศัพท์ติดต่อเข้ามาปรึกษากับ ร.ต.ท.พีรรัฐ โยมา รองสว.สส. เพื่อสอบถามถึงจำนวนหลักทรัพย์ที่ต้องใช้ในการประกันตัว โดยญาติผู้ต้องหาอ้างว่า ในวันนี้น.ส.นราทิพย์ไม่สามารถเข้ามอบตัวได้ เนื่องจากต้องหาหลักทรัพย์มาใช้ในการประกันตัว หรือนางดารารัศม์ ศรีวรนารถ อายุ 50 ปี มารดาของผู้ต้องหา อาจใช้ตำแหน่งข้าราชการระดับ 7 มาประกันตัวบุตรสาว

พ.ต.ต.ปิโยรส กล่าวว่า

ในช่วงบ่ายก็มีญาติของผู้ต้องหาเข้ามาสอบถาม รายละเอียดและขั้นตอนการประกันตัวอีกครั้ง และบอกว่าต้องการที่จะเจรจาไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหาย โดยฝ่ายผู้ต้องหายินยอมจะชดใช้ค่าเสียหาย 72,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ผู้เสียหายนำไปไถ่เครื่องเพชรออกมาจากโรงรับจำนำ แต่ตนแจ้งไปว่า คดีนี้ถือเป็นคดีอาญา ไม่สามารถยอมความได้ ตำรวจต้องทำตามกฎหมาย และสรุปสำนวนส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้อง จากนั้นต้องอยู่ที่ดุลพินิจของศาล

พ.ต.ต.ปิโยรส กล่าวอีกว่า

สำหรับนายประกิจ ตรวจมรรคา อายุ 55 ปี เจ้าของโรงรับจำนำ ที่รับจำนำเครื่องเพชรดังกล่าวไว้ ขณะนี้พนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายเรียก เพื่อเชิญตัวมาสอบปากคำและขอตรวจสอบใบอนุญาตรับซื้อของเก่า ซึ่งหากการสอบสวนพบว่า นายประกิจมีเจตนาที่รับจำนำเครื่องเพชรไว้ ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยแจ้งข้อหารับของโจร

ต่อมาเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน น.ส.เอ เข้าพบ พ.ต.ต.ปิโยรส เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม

โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที หลังให้ปากคำ น.ส.เอ กล่าวว่า ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับน.ส.นราทิพย์ ตนได้ให้โอกาสถึง 2 ครั้ง เป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อให้นำเครื่องเพชรที่ขโมยไปกลับมาคืน เพราะไม่ทราบว่า น.ส.นราทิพย์นำเครื่องเพชรไปจำนำแล้ว แต่น.ส.นราทิพย์พยายามบ่ายเบี่ยงและหลบหนีไป จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ ตอนแรกก็ไม่อยากเชื่อว่าน.ส.นราทิพย์ จะก่อเหตุเนื่องจากเป็นคนที่มีอัธยาศัยและบุคลิกดี

น.ส.เอ กล่าวอีกว่า

สำหรับกรณีที่ฝ่ายผู้ต้องหาต้องการเข้ามาขอเจรจาไกล่เกลี่ยนั้น ตนยินดี เพราะแต่เดิมไม่คิดติดใจเอาความอยู่แล้ว เนื่องจากเห็นว่าน.ส.นราทิพย์ยังเด็กและเพิ่งจบการศึกษา ยังมี อนาคตอีกไกล ตอนแรกหากยอมรับผิดและนำเครื่องเพชรมาคืน ก็จะไม่แจ้งความ แต่น.ส.นราทิพย์กลับหลบหนีไป นอกจากนี้ขณะที่สามีของตนและเจ้าหน้าที่ตำรวจไปไถ่เครื่องเพชรคืนจากโรงรับจำนำ ขณะนั้นตำรวจได้ยืนรออยู่บริเวณด้านนอก พนักงานโรงรับจำนำคนหนึ่งได้หยิบอาวุธปืนขึ้นมา หันปากกระบอกปืนมาที่สามี ในเชิงข่มขู่ แต่สามีวิ่งหลบหนีออกมาได้ก่อน ส่วนที่ไม่ได้แจ้งตำรวจทราบขณะนั้น เพราะสามีไม่ต้องการให้เรื่องบานปลายมากไปกว่านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

บ่ายวันเดียวกัน พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.1ป. ได้ติดต่อเข้ามาที่ฝ่ายสืบสวนสน.ลุมพินี เพื่อประสานขอหมายจับของ น.ส.นราทิพย์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหาหลบหนีออกนอกพื้นที่ คาดว่าน.ส.นราทิพย์น่าจะอยู่ที่บ้านที่จ.เพชรบุรี

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์