โวยรถไฟสายอุบลฯปล่อยตัวเรือดอาละวาด

เรือดบุกรถไฟสายด่วน ฝังตามเบาะ ไล่กัดผู้โดยสาร ขยาดไม่กล้านั่ง ยืนมาตลอดตั้งแต่อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ ผู้รับผิดชอบยอมรับอยู่ระหว่างกำจัด
 

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นางจินตนา นามบุญ ครู คศ.2 วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี ร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวประจำ จ.อุบลราชธานี

ว่าระหว่างเดินทางด้วยรถไฟเที่ยวด่วนพิเศษสปรินเตอร์กับรถโดยสารหมายเลข 2522 จากกรุงเทพฯ ไป จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ระหว่างทางต้องตกใจตื่น เมื่อมีตัวเรือดจำนวนมากมากัดที่แขน และเกาะที่แผ่นหลัง เพื่อนครูที่นั่งโดยสารมาด้วยกันต้องช่วยปัดออก ตอนแรกที่มีอาการคันตามแขนขาคิดว่าถูกยุงกัด แต่เมื่อช่วยกันตรวจดูอย่างละเอียดพบว่าเป็นตัวเรือดที่อาศัยอยู่ตามเก้าอี้ที่เป็นเบาะกำมะหยี่ ทำให้ไม่กล้านั่ง ต้องยืนมาตลอดทาง
 

 อย่างไรก็ตาม นายทองจันทร์ บุตรมาตร ผู้ช่วยนายสถานีรถไฟอุบลราชธานี กล่าวยอมรับว่า

มีตัวเรือดอาศัยอยู่ตามตู้โดยสารของรถไฟจริง ได้ฉีดพ่นยาฆ่าตัวเรือดและทิ้งเบาะที่มีตัวเรือดจำนวนมาก รวมทั้งเปลี่ยนเก้าอี้ออกทั้งหมด เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาด แต่อาจยังกำจัดไม่หมด ทำให้ตัวเรือดมารบกวนผู้โดยสารอีก ทั้งนี้ รถสปรินเตอร์กว่า 20 คัน ได้ฉีดพ่นยาฆ่า 2 ช่วง คือ ครั้งแรกเมื่อเดือน สิงหาคม-กันยายน ครั้งที่ 2 คือ เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2550 แต่ยังกำจัดไม่หมดทุกคัน เหลืออีก 7 คันคือ รถคันหมายเลข 2121, 2514, 2522, 2523, 2527, 2539 และ 2532 ซึ่ง ร.ฟ.ท.เร่งกำจัดตัวเรือดให้หมดไปโดยเร็ว
 

 น.ส.ชวนพิศ ลักษณะงาม อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 5 ต.แจระแม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี พนักงานของบริษัทยาแห่งหนึ่ง กล่าวว่า

เดินทางโดยใช้รถไฟเป็นประจำ และได้สังเกตตามร่างกายก็พบว่าถูกกัดเป็นตุ่มๆ คิดว่าเป็นยุงกัด มาทราบภายหลังจากผู้โดยสารด้วยกันว่าเป็นตัวเรือด ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ สุราษฎร์ธานีรายหนึ่งเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยพบตัวเรือดในรถไฟสายใต้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในโบกี้ที่เป็นห้องปรับอากาศ ทั้งรถไฟขบวนสปรินเตอร์และขบวนพิเศษ แต่มีการทำความสะอาดและฉีดยาฆ่าตัวเรือดก็หายไปบ้าง สร้างความรำคาญอย่างมาก
 

 ด้าน นพ.วุฒิไกร มุ่งหมาย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า

 ตัวเรือดมักก่อให้เกิดความรำคาญ โดยการกัดกินเลือด บางคนอาจแพ้น้ำลายเกิดเป็นผื่นได้ แต่ตัวเรือดไม่เป็นพาหะนำเชื้อโรค ผู้ที่ถูกกัดไม่ต้องกลัวว่าจะได้รับการแพร่เชื้อ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์