เริ่มรายการเชือด! เด้งอธิบดี กรมสอบสวนพิเศษ

หลังจากที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาแล้ว งานหนึ่งที่นายสมัครประกาศว่าจะเริ่มทำทันที คือการคืนความชอบธรรมให้กับข้าราชการทุกหน่วยที่ได้รับผลกระทบถูกรังแกจากเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงทางการเมือง
 

“สมัคร” มั่นใจโฆษกใหม่ทำงานฉลุย


เมื่อวันที่ 22 ก.พ. เวลา 10.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม  ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาลประจำวันศุกร์ โดยก่อนการให้สัมภาษณ์นายสมัครได้ทำการเปิดตัว พล.ต.ท. วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้ง น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนัก นายกรัฐมนตรี  ส.ส.สอบตก  กทม.  เขต  8  ที่เดินทางเข้ามาทำงานในทำเนียบรัฐบาลเป็นวันแรก  ผู้สื่อข่าวถามถึงการมอบหมายงานให้ทีมโฆษก  นายสมัครตอบว่า  ทีมโฆษกเพิ่งโผล่หน้าเข้ามาหยกๆ  ขอให้ได้ทำงานก่อน ส่วนตัวยังไม่ทราบว่าจะออกมาอย่างไร  แต่แน่ใจว่าทำงานได้  เมื่อถามว่าจะรับมือกับฝ่ายค้านได้หรือไม่  นายสมัครหัวเราะก่อนตอบว่า  ฝ่ายค้านจะทำงานเต็มที่ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะเป็นหน้าที่ของเขา  ไม่มีปัญหา  สำหรับรายการ “สนทนาประสาสมัคร”  ในวันอาทิตย์นี้จะพูดคุยในหัวข้อ “เรื่องน่าคิด  จากผู้ผลิตถึงผู้บริโภค”  

คืนความเป็นธรรม ขรก.ที่ถูกรังแก


นายสมัครกล่าวว่า ขณะนี้ได้รับเรื่องร้องเรียน มากมายจากผู้ที่อยู่ในแวดวงราชการ ทั้งทหาร และกระทรวงต่างๆ เพราะได้รับความเสียหายจากการเปลี่ยนแปลงเมื่อครั้งที่แล้ว ทั้งนี้ ไม่ได้ต้องการฟื้นฝอยหาตะเข็บ แต่เมื่อมีคนร้องทุกข์เข้ามาแล้ว จะถือโอกาสนี้บอกกับคนอื่นด้วยว่า ใครก็แล้วแต่ที่รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เช่น ถูกโยกย้ายไปในที่ที่ไม่สมควร หรือเกิดความเสียหายบางอย่างขึ้น รัฐบาลก็พร้อมจะเยียวยาตามสมควรแก่เหตุ แต่ไม่ได้หมายถึงการเอาเงินไปให้ หรือชดใช้ด้วยเงิน จะตรวจสอบก่อนว่าเป็นอย่างไร รัฐบาลจะรับมาพิจารณาทีเดียว โดยขอให้แจ้งมาที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี “ผมไม่อยากฟื้นฝอยหาตะเข็บ การเปลี่ยนแปลงในครั้งที่แล้วมีการกล่าวหาผู้คน จนตกเป็นผู้ต้องหาในคดีต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคดีที่เกี่ยวกับนายกรัฐมนตรี คนใกล้ตัว และรัฐมนตรี ข้าราชการที่อยู่ในเส้นทางก็อยู่ด้วย ข้าราชการก็บอกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เขาไม่ได้ถูกดำเนินคดีแต่ถูกโยกย้าย” นายสมัครกล่าว


สมพงษ์”  เด้งอธิบดีดีเอสไอ


วันเดียวกัน ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม ได้อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 46 เซ็นคำสั่งย้ายนายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปช่วยราชการในตำแหน่งรักษาการเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ปปท.) สำนักงานที่เตรียมจะจัดตั้งขึ้นใหม่ ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม และมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) อดีตรองอธิบดีดีเอสไอ ไปช่วยราชการในตำแหน่งรักษาการอธิบดีดีเอสไอ ตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ.เป็นต้นไป ทั้งนี้นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่าตลอดทั้งวันได้ยินข่าวการโยกย้ายออกจากตำแหน่งมาอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่เห็นคำสั่ง จนกระทั่งนายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม โทรศัพท์มาแจ้งว่าถูกย้ายไปช่วยราชการในตำแหน่งรักษาการเลขาธิการ ปปท. และให้ พ.ต.อ.ทวีไปช่วยราชการในตำแหน่งรักษาการอธิบดีดีเอสไอ ส่วนตัวไม่รู้สึกอะไร เพราะเป็นข้าราชการต้องทำใจ 


เผยคดีสำคัญที่ดีเอสไอดำเนินการ


 สำหรับคดีสำคัญที่ดีเอสไออยู่ระหว่างดำเนินการ ล้วนแล้วแต่เป็นคดีที่เกี่ยวพันกับ พ.ต.ท.ทักษิณทั้งสิ้นนั้น ได้แก่ คดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ คุณหญิงพจมาน และเครือญาติ เป็นผู้ต้องหา และดีเอสไอได้สรุปสำนวนสั่งฟ้องไปยังอัยการแล้ว นอกจากนี้ยังมีคดีที่อยู่ ในชั้นสอบสวนของดีเอสไออีกหลายคดี อาทิ คดีทุจริตบ้านเอื้ออาทร คดีทุจริตโครงการก่อสร้างภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิหลายคดี อาทิ กรณีบริษัทคิงเพาเวอร์จัดพื้นที่ขายสินค้าในสนามบินสุวรรณภูมิ การให้สัมปทานโรงแรมโนโวเทล เข้าประกอบธุรกิจในสนามบินสุวรรณภูมิ กรณีจัดซื้อรถเข็นกระเป๋าในสนามบินสุวรรณภูมิ การจัดซื้อหลังคาผ้าใบสนามบินสุวรรณภูมิ การทำสัญญาก่อสร้างอาคารสนามบิน การเปิดประมูลบ่อขยะในสนามบินสุวรรณภูมิ การเปิดประมูลระบบไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศ

ทั้งหมดนี้ดีเอสไอได้เข้าไปสอบสวนตั้งแต่กลางปี 50 ก่อนจะสรุปสำนวนให้ ป.ป.ช. ดำเนินการ เพราะเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมือง คดีฟอกเงินที่ธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้กับบริษัทในกลุ่มกฤษดามหานคร ซึ่งเกี่ยวพันกับลูกชายนักการเมืองใหญ่ คดีอุ้มทนายสมชาย นีละไพจิตร รวมทั้งคดีฆ่าตัดตอนอีก 7-8 คดี ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงนโยบายประกาศสงครามยาเสพติดสมัยรัฐบาลทักษิณทั้งสิ้น 


ส่วน พ.ต.อ.ทวี ถือเป็นนายตำรวจใกล้ชิด พล.ต.อ. สมบัติ อมรวิวัฒน์ ซึ่งเป็นอธิบดีดีเอสไอขณะนั้น และเมื่อนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ มาเป็น รมว.ยุติธรรม พล.ต.อ. สมบัติได้มาเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวอยู่ในขณะนี้ 


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์