วิจัยวัคซีนเอดส์ ไทยรุดหน้าสุด ปี 2552 รู้ผลแน่

นพ.ปราชญ์ บุญยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการวิจัยวัคซีนทดลองของประเทศไทย ซึ่งเป็นขั้นตอนในระยะที่ 3 ขั้นตอนสุดท้าย เพื่อดูประสิทธิผลของวัคซีนต่อการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีก่อนนำมาใช้จริง ทดลองในกลุ่มอาสาสมัครชายหญิงอายุ 18-30 ปี ที่ จ.ชลบุรีและระยอง และไม่ติดเชื้อเอชไอวี จำนวน 16,402 คน เริ่มฉีดเมื่อปี 2546 ว่าโครงการวิจัยวัคซีนทดลองที่ประเทศไทยดำเนินการในครั้งนี้เป็นการศึกษาวัคซีนที่ใช้กับสายพันธุ์เอชไอวีในประเทศไทย ซึ่งกว่า 90% เป็นสายพันธุ์อี

"ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการติดตามประเมินผลโดยฉีดวัคซีนทดลองครบ 4 ครั้ง เป็นเวลา 6 เดือน เสร็จสิ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2549 และติดตามผลเป็นระยะเวลา 3 ปี จะครบกำหนดและแปลผลใน พ.ศ.2552 โดยมีอาสาสมัครฉีดครบถ้วนจำนวน 13,978 คน ในจำนวนนี้ร้อยละ 97 ได้รับการตรวจเลือดติดตามผลครบ 1 ปี เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.2550 และอีกร้อยละ 82 ได้รับการติดตามผลตามกำหนด 1 ปีครึ่งแล้ว และขณะนี้มีอาสาสมัครได้รับการติดตามผลครบ 3 ปีแล้วถึง 3,092 คน คาดว่าจะมาครบกำหนดติดตามผล 3 ปีทั้งหมดในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2552 ซึ่งหากดูในภาพรวมของการทดลองวัคซีนเอดส์ทั่วโลกแล้ว โครงการของไทยถือว่าเป็นโครงการเดียวที่ก้าวมาไกลที่สุดในโลก เป็นที่จับตามองและเฝ้ารอผลการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกอย่างใจจดใจจ่อ" นพ.ปราชญ์ กล่าว

ด้าน นพ.ศุภชัย ฤกษ์งาม ผู้อำนวยการโครงการศึกษาวัคซีนเอดส์ทดลองในระยะที่ 3 กล่าวว่า ตลอดโครงการทดลองวัคซีนนี้คณะกรรมการได้ติดตามผลหลังฉีดวัคซีนอย่างใกล้ชิด พบร้อยละ 50 ของผู้ที่รับการฉีดไม่มีช้อกังวลด้านความปลอดภัยต่อวัคซีนรวมทั้งกระบวนการวิจัยและให้ไทยดำเนินการวิจัยตามแผนเดิมได้จนครบกระบวนการประเมินผลในปี 2552 หากได้ผลตามเป้าหมาย จะเข้าสู่ขั้นตอนของการผลิตวัคซีนต่อไป




แหล่งข้อมูล : น.ส.พ.คมชัดลึก ฉบับวันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ.2551

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์