ระดมรับมือ คาด1ล้านคน แห่กลับบ้าน ฉลองปีใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ   กล่าวถึงมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยช่วงเทศกาลปีใหม่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.สั่งการให้ทุกหน่วยดำเนินการอย่างเข้มงวดตามมาตรการที่ได้กำหนดไว้ ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นอยู่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบ ดูแลสั่งการผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด จากการตรวจสอบพบว่าขณะนี้ บช.น. บช. ภ.1-9 และ บช.ก.ได้จัดแผนป้องกันอาชญากรรมในช่วงปีใหม่เสร็จเรียบร้อย และเริ่มปฏิบัติมาตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีการระดมกำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างครอบคลุมถึง 2 แสนคนทั่วประเทศ ตั้งด่านตรวจกว่า 20,000 จุด เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและทรัพย์สินอย่างเต็มกำลังไปจนถึงวันที่ 7 ม.ค.2551
 

พล.ต.ท.พงศพัศกล่าวต่อว่า

ได้สั่งการให้ผู้ปฏิบัติมุ่งเน้นการป้องกันอาชญากรรมกลุ่มเป้าหมาย อาทิ คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ โดยเฉพาะธนาคาร ร้านทอง พื้นที่ล่อแหลม เคหสถาน ชุมชนและที่พักอาศัย เข้มงวด กวดขันตรวจตราสถานบริการ สถานบันเทิง ร้านคารา-โอเกะ สถานที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรมทางเพศ จัดกำลังสายตรวจบริเวณสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ จุดพักผู้โดยสาร จุดพักชมวิวตามแหล่งท่องเที่ยว และสถานที่ที่มีประชาชนเข้าไปร่วมกิจกรรมจำนวนมาก เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจค้นอาวุธปืน วัตถุระเบิด และสิ่งเทียมอาวุธปืนต่างๆ ให้ทุกสถานีตำรวจดำเนินการตามโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ นอกจากนี้ ได้กำชับให้ตำรวจสันติ-บาลสืบสวนหาข่าว พร้อมสนับสนุนข้อมูลข่าวสารป้องกันอาชญากรรมกับหน่วยปฏิบัติหรือหน่วยอื่นอย่างเต็มความสามารถ
 

วันเดียวกัน ที่กองทัพภาคที่ 1 พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า

ได้ประชุมร่วมกับ บช.น.และ กทม.มาตลอด โดยทหารได้เตรียมกำลังไว้ 2,800 นาย ประสานการปฏิบัติร่วมกับสารวัตรทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ กทม. โดยจะปล่อยแถวในวันที่ 28 ธ.ค. ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า มีกิจกรรมที่ต้องดำเนินการคือการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล รวมทั้งในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง และเป็นสถานที่สำคัญ รวมถึงการดูแลในเรื่องการเดินทางของประชาชน มีจุดพักรถ มีแพทย์ตรวจสุขภาพตลอดเส้นทาง ทั้งในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 1 และทุกกองทัพภาคทั่วประเทศ
  

“ผมและผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์เหมือนที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การเฝ้าระวังจะให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องเป็นความร่วมมือกันทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาชน โดยสามารถแจ้งข้อมูลข่าวสารมาที่ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ศูนย์ปฏิบัติ การกองทัพภาคที่ 1 และศูนย์มิสกวัน ได้ตลอดเวลา โดยทุกศูนย์มีการเชื่อมโยงการทำงานกัน”

 พล.ท.ประยุทธ์กล่าว

 ที่สถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2) พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม เป็นประธานเปิดงานรณรงค์ลดอุบัติเหตุในช่วงปีใหม่ รวมพลังไทยเมาไม่ขับ โดยมีบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) และเครือข่ายรณรงค์อุบัติเหตุเมาไม่ขับ ทั้งภาครัฐ เอกชน ร่วมกันจัดงาน มีเจ้าหน้าที่คอย แจกคู่มือการเดินทาง สติกเกอร์หลวงพ่อคูณเมาไม่ขับ นอกจากนี้ รมว.คมนาคม ยังแจกพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์สีชมพูแก่บรรดาประชาชนที่จะเดินทางกลับบ้าน ทั้งยังร่วมตรวจหาแอลกอฮอล์และสารเสพติดกับพนักงานขับรถของ บขส.ด้วย
  

ด้านนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กก.ผจก.ใหญ่ บริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า

ปีนี้จะมีประชาชนเดินทางกลับไปฉลองปีใหม่ที่บ้านต่างจังหวัด ประมาณ 1 ล้านคน มากกว่าปีที่แล้วประมาณ 10 % เป็นผลมาจากราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวสูงขึ้น ในส่วนของ บขส.ได้ จัดรถเพิ่มขึ้นอีก 2,000 เที่ยว จากเดิมที่วิ่งกันประจำทุกวัน 4,400 เที่ยว เท่ากับว่าจะมีรถทั้ง บขส. และ ขสมก. วิ่งบริการประชาชนถึง 6 พันกว่าเที่ยวต่อวัน ตั้งแต่ วันที่ 27-30 ธ.ค. ส่วนขากลับเข้ากรุงเทพฯ จะเสริมจำนวนเที่ยวรถเท่ากับขาไปต่างจังหวัดเช่นกัน เชื่อว่าเพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสารอย่างแน่นอน สำหรับวันที่คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางกลับต่างจังหวัดมากที่สุดน่าจะเป็นวันที่ 28 ธ.ค. อาจจะมีจำนวนมากถึง 250,000 คนทีเดียว
 

ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังปล่อยแถวเจ้าหน้าที่เทศกิจ และเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย 1,200 คน ออกประจำจุดต่างๆ 24 ชม. ว่า

ได้ร่วมกับทหารและตำรวจ ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ เน้นดูแลพื้นที่ที่จัดงานปีใหม่อย่างใกล้ชิด โดยขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังในการร่วมฉลองส่งท้ายปีเก่าหากเมาสุราขอให้เดินทางด้วยรถแท็กซี่ และเมื่อเห็นสิ่งผิดสังเกต เช่น กระเป๋า หรือกล่องถูกทิ้งไว้ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบทันที
 

นายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถจักรยานยนต์ รถยนต์ ตรวจการณ์ของตำรวจทางหลวง และรถยนต์บริการกว่า 80 คัน เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ ก่อนเผยว่า กรมทางหลวงได้วางมาตรการคุมเข้มในทุกเส้นทาง ทั้งเรื่องการดูแลตรวจสอบเส้นทาง ป้ายอำนวยความสะดวกต่างๆ ไฟฟ้าแสงสว่าง รวมไปถึงไฟสัญญาณจราจรทุกเส้นทางให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้ งาน ทั้งยังเปิดสายด่วนกรมทางหลวง 1586 ให้ประชาชนสอบถามเส้นทางและขอความช่วยเหลือกรณีเกิดอุบัติเหตุ รถเสีย น้ำมันหมด ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้รับเหมาก่อสร้างและซ่อมแซมถนนทุกโครงการ ให้หยุดงานและคืนพื้นผิวจราจรให้ได้ระหว่างวันที่ 28 ธ.ค.-3 ม.ค. และย้ำว่าในเส้นทางมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่ และวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก (บางปะอิน-บางพลี) ได้ประกาศยกเว้นการเก็บเงินค่าผ่านทาง โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น. ของวันนี้ ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 3 ม.ค. 51 ด้วย
 

พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผบก.ทล. กล่าวว่า

ตำรวจทางหลวงได้เตรียมความพร้อมรับการจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเส้นทางขาออกจะเปิดช่องทางพิเศษบริเวณที่มีการจราจรคับคั่ง เช่น บริเวณทางต่างระดับบางปะอิน ทางต่างระดับคารล์สเบิร์ก จุดเชื่อมต่อเส้นทางระหว่างมอเตอร์เวย์ สาย 9 และถนนพหลโยธิน ไปจนถึงเส้นทางต่างระดับสระบุรี กลางดง ปากช่องและลำตะคอง ซึ่งการจราจรติดขัดมากทุกปี โดยจะเปิดช่องทางพิเศษเพื่อระบายรถขาออกให้เร็วที่สุด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้บริการทุกนายจะต้องติดเข็มกลัดโครงการยิ้มจากใจตำรวจทางหลวง เพื่อเตือนสติเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ยิ้มแย้มแจ่มใส เต็มใจบริการประชาชนอีกด้วย
 

สำหรับบรรยากาศที่สถานีรถไฟหัวลำโพง มีประชาชนนับพันคนเดินทางมาจองตั๋วรถไฟและนั่งรอขบวนรถเดินทางกลับภูมิลำเนา

รวมทั้งท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งนี้ รฟท.ได้เพิ่มขบวนรถเที่ยวพิเศษ ในวันที่ 28 ธ.ค. 3 ขบวน ในเส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และวันที่ 29 ธ.ค. เพิ่มอีก 5 ขบวน ในเส้นทางเดียวกัน ทั้งนี้ ฝ่ายประชาสัมพันธ์สถานีรถไฟหัวลำโพงยืนยันว่า จะไม่มีผู้โดยสารตกค้างในช่วงวันหยุดนี้ เนื่องจากผู้โดย-สารทุกคนมีตั๋วโดยสารหมดแล้ว ประกอบกับ รฟท.ได้เพิ่มขบวนรถเพียงพอ
 

นพ.มงคล ณ สงขลา รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ ว่า

ในช่วงวันหยุดยาวฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2551 กระทรวงสาธารณสุขได้ให้สถานพยาบาลในสังกัดทุกระดับทั่วประเทศ เตรียมพร้อมบริการ 3 จุดใหญ่ ได้แก่ หน่วยแพทย์กู้ชีพนเรนทร เป็นทีมที่จะออกไปช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยยังจุดที่เกิดเหตุ ขณะนี้มีกว่า 4,000 ทีม ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้งรถพยาบาลฉุกเฉินที่เพียบพร้อมด้วยเครื่องมือแพทย์ ยา เวชภัณฑ์ช่วยชีวิต ให้มีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ประชาชนที่ประสบเหตุ พบเห็นมีผู้บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่หมายเลข 1669 หลังวางสายหน่วยกู้ชีพนเรนทรจะเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุภายใน 15 นาที


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์