ดีเอสไอเล็งเอาผิดเสี่ยอู๊ด เพิ่มสอบภาษีย้อนหลัง

ดีเอสไอเล็งเอาผิด'เสี่ยอู๊ด' เพิ่ม ตรวจสอบย้อนหลัง เสียภาษีถูกต้องหรือไม่ ประสานสรรพากรค้นข้อมูล เผยจัดสร้างพระหลายรุ่นได้รับความนิยม ยอดจองสูง รายได้รวมไม่ต่ำกว่า 500 ล. ขอโฆษณาจากสื่อเกินจริง-แอบอ้างเบื้องสูงหรือไม่
 

กรมสอบสวนคดีพิเศษ

หรือดีเอสไอ ประสานสื่อมวลชน ขอข้อมูลเกี่ยวกับการจัดสร้างพระเครื่องรุ่นต่างๆ ที่ผ่านมา ซึ่งนายสิทธิกร บุญฉิม หรือเสี่ยอู๊ด ประธานบริษัทไดมอน ฮิลล์ จำกัด เป็นผู้จัดสร้าง หรือเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อนำมาตรวจสอบว่ามีการแอบอ้างเบื้องสูงหรือมีการโฆษณาเกินจริงหรือไม่ รวมทั้งจะประสานกับกรมสรรพากร ให้ตรวจสอบการเสียภาษีในการจัดสร้างวัตถุมงคลต่างๆ ว่ามีการเสียภาษีที่ถูกต้องหรือไม่

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากดีเอสไอ ว่า

หลังจากที่นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตํารวจตรวจคนเข้าเมือง ประจําท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับกุมตัวนายสิทธิกรได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะเตรียมเดินทางไปพักผ่อนที่ประเทศญี่ปุ่น  พร้อมแจ้งข้อหากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองผู้บริโภค ด้วยการโฆษณาอันเป็นเท็จในการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว ซึ่งนายสิทธิกรให้การปฏิเสธ พร้อมใช้หลักทรัพย์ 1 ล้านบาท ประกันตัวไปว่าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ติดต่อไปตามสื่อมวลชนต่างๆ เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับการจัดสร้างพระเครื่องรุ่นต่างๆ ที่ผ่านมาของนายสิทธิกรที่เคยลงโฆษณา เพื่อนํามาตรวจสอบข้อความว่าเป็นการโฆษณาเกินจริงหรือแอบอ้างเบื้องสูงหรือไม่


'คดีการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว ดีเอสไอจะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ซึ่งมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ในวันที่ 27 ธันวาคม เพื่อพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่'
แหล่งข่าวจากดีเอสไอกล่าว

แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า

จากการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการจัดสร้างวัตถุมงคลของนายสิทธิกรที่จัดสร้างในนามวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร และวัดชื่อดังใน จ.สมุทรปราการ มีจํานวนหลายรุ่น ประกอบด้วย กริ่งมังกรทอง กริ่งเสาร์ห้า กริ่ง 69 กริ่งคลองด่าน กริ่งวัดนาคราชกริ่งวัดช้างกริ่งจอมไทยและกริ่งจักรพรรดิซึ่งวัตถุมงคลที่นายสิทธิกรเข้าไปร่วมจัดสร้างแต่ละรุ่นจะเป็นที่นิยม และมียอดจองสูง รวมแล้วเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท

'ดีเอสไอจะประสานกรมสรรพากรให้ช่วยตรวจสอบการจัดเก็บภาษีในการจัดสร้างวัตถุมงคลแต่ละครั้งว่าเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ และยังตรวจสอบคดีเก่าๆ ที่ผ่านมา ที่นายสิทธิกรเคยถูกฟ้องร้อง เพื่อเก็บข้อมูลไว้นําเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 ธันวาคมด้วย'แหล่งข่าวกล่าว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์