ปตท.โล่งโอนท่อก๊าซคืนคลังแค่ 1.5หมื่นล. จ่ายค่าเช่าขั้นต่ำ 5%


นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

แถลงข่าวว่า มติคณะรัฐมนตรี วันที่
18 ธ.ค. เห็นชอบให้มีการโอนทรัพย์สินและท่อก๊าซของ ปตท. คืนให้กระทรวงการคลัง ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ประกอบด้วย 1. ที่ดินจากการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ 32 ไร่ มูลค่า 7 ล้านบาท 2. สิทธิการเวนคืนที่ดินและการใช้ที่ดิน เพื่อวางระบบขนส่งทางท่อ มูลค่าทางบัญชี ณ 30 ก.ย. 44 อยู่ที่ 1,124 ล้านบาท 3. ท่อก๊าซธรรมชาติ อุปกรณ์ ระบบขนส่งปิโตรเลียม ทางท่อ เหนือส่วนที่ดินของเอกชน มูลค่า 14,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 15,139 ล้านบาท ส่วนทรัพย์สินของ ปตท.ที่เกิดขึ้นหลัง 1 ต.ค. 44 ภายหลังการแปรรูปการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย เป็นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ไม่เข้าข่ายที่จะต้องโอนให้กระทรวงการคลัง

ทั้งนี้ ปตท.ต้องเสียค่าเช่าให้กับกระทรวงการคลังขั้นต่ำ 5% ของรายได้ค่าผ่านท่อ

 คาดว่าจะเสียค่าเช่าประมาณปีละ
200 ล้านบาท แต่การคิดค่าเช่าจะปรับขึ้นทุก 5 ปี ซึ่งปตท.จะต้องเช่าจากคลังเป็นการเช่าระยะยาว 30 ปี นับตั้งแต่ 1 ต.ค. 44 คาดว่าจะเสียค่าเช่ารวม 8,800 ล้านบาท

ส่วนในเรื่องของภาษีในการโอนท่อครั้งนี้น่าจะอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท

และต้องจ่ายค่าเช่าย้อนหลัง
6 ปี มูลค่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งปตท.จะลงในบัญชีในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ รวม 3,200 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์รับไปกำหนดหลักเกณฑ์ ในการคิดอัตราค่าเช่าในส่วนของทรัพย์สินที่เป็นระบบท่อ เพื่อเป็นฐานในการ คำนวณค่าเช่าให้แก่ ปตท. ภายใน 3 สัปดาห์ ดังนั้นอาจจะมากกว่า 5% ก็ได้ แต่จะไม่ต่ำกว่า 5%

นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า หลังจากนี้ไปสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะเข้ามาตรวจสอบรายละเอียดทรัพย์สินดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งค่าเช่า 5% ที่ปตท.ต้องจ่ายให้คลังคงไม่สามารถนำมาผลักภาระไปในราคาก๊าซธรรมชาติ และก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) หรือค่าไฟฟ้า

ด้านนายศานิต ร่างน้อย อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยถึงแนวทางในการจัดเก็บภาษีการโอนทรัพย์สินจากปตท.มาให้กระทรวงการคลัง ว่าจะไม่มีภาระภาษีในส่วนการโอน เพราะถือ ว่าสินทรัพย์เหล่านั้นไม่ใช่ของปตท.ตั้งแต่ต้น แต่เป็นของรัฐ อย่างไรก็ตาม การโอนทรัพย์สินดังกล่าวจะมีภาษีในส่วนของเงินลงทุนในท่อก๊าซของปตท.ในช่วงที่ผ่านมาจำนวน 15,000 ล้านบาทนั้น ได้มีการลงบัญชีว่าเงินในส่วนนี้เป็นเงินลงทุนและนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายมาตลอด ดังนั้น เมื่อเงินในส่วนนี้ไม่ใช่รายจ่ายก็ต้องตีกลับมาเป็นรายได้ และต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา 30% ของวงเงินดังกล่าวภายในปีบัญชีนี้ด้วย ซึ่งส่วนนี้จะต้องมีผลกระทบต่อผลประกอบการของปตท.บ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 12.30 น. นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ได้รายงานผลของคดีในศาลปกครองสูงสุดที่เกี่ยวข้องกับปตท. และการดำเนินการตามคำพิพากษาและคำสั่งของศาลต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จากนั้นตลท.ได้ปลดเครื่องหมายห้ามการซื้อขาย (เอสพี) ในการซื้อขายช่วงบ่ายของวันที่
18 ธ.ค. และทันทีที่เปิดการซื้อขายราคาหุ้นปตท.ลดลงประมาณ 6 บาท และ 10 บาท จากราคาปิดของวันก่อนหน้าคือ 368 บาท และราคาได้ปรับลงไปที่ 354 บาท เมื่อเวลา 14.40 น. โดยลดลงถึง 14.00 บาท และมาปิดตลาดที่ 358 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,652.71 ล้านบาท

นายพิชัย ชุณหวชิร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการบัญชีและการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท.เตรียมเดินสายชี้แจงข้อมูลให้กับนักลงทุนต่างชาติและกองทุนเพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่ให้เกิดความวิตกกังวลในการลงทุนหุ้น ปตท.

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์