แคนาดา-สหรัฐอ่วมพายุหิมะถล่ม

ภาคตะวันออกของแคนาดาและด้านตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐประสบภัยธรรมชาติอย่างรุนแรงจากพายุหิมะกระหน่ำอย่างหนัก

ทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 1 ราย ทำให้การขับขี่ยวดยานบนท้องถนนไม่ปลอดภัย เช่นเดียวกับสนามบินหลายแห่งต้องยกเลิกเที่ยวบินเป็นจำนวนมาก โดยแคว้นออนแทรีโอและแคว้นควิเบกในแคนาดาเผชิญสภาพอากาศที่เลวร้ายสุด ๆ ทำให้นครโตรอนโต, ออตตาวาและมอนทรีออล ตกอยู่ภายใต้การปกคลุมของหิมะที่มีความหนาถึง  40 เซนติเมตร (16 นิ้ว) ท่ามกลางพายุหิมะที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
 
หน่วยงานสิ่งแวดล้อมของแคนาดาเตือนว่า

สภาพอากาศที่เลวร้ายเช่นนี้ จะเป็นอันตรายต่อประชาชนอย่างยิ่ง เนื่องจากมีผู้หญิงรายหนึ่งเสียชีวิตแล้วจากหิมะที่บริเวณถนนในเมืองลอนดอนของแคว้นออนแทรีโอ นอกจากนี้  รายงานข่าวพยากรณ์อากาศของสหรัฐเตือนว่า พายุหิมะเข้ากระหน่ำเกรท เลคส์ และภูมิภาคทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐแล้ว และคาดว่า จะลุกลามไปยังเมืองมิชิแกนและเมืองอินเดียนาในรัฐเมนด้วย
 
จากภัยธรรมชาติดังกล่าว ส่งผลต่อราคาน้ำมันในตลาดเอเชีย

โดยปรับตัวสูงขึ้นด้วยปัจจัยที่คาดว่า ความต้องการบริโภคน้ำมันเพื่อทำความร้อนเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบไลท์ สวีด ครูด ส่งมอบล่วงหน้าเดือน ม.ค. ที่ตลาดนิวยอร์ก เพิ่มขึ้น 52 เซ็น อยู่ที่ 91.79 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ ราคาน้ำมันเบรนท์ทะเลเหนือ เพิ่มขึ้น 51 เซ็น อยู่ที่ 92.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ด้าน นายวิคเตอร์ ชัม นักวิเคราะห์แห่งตลาดสิงคโปร์กล่าวว่า ตลาดขานรับต่อเหตุการณ์พายุหิมะถล่มในสหรัฐ เพราะว่า พายุฤดูหนาวมีส่วนทำให้ความต้องการบริโภคน้ำมันเพิ่มสูงและทำให้ราคาพุ่งขึ้นด้วย.