พล.อ.เปรม เน้นสอนเด็กให้เป็นคนดี ย้ำปัญหาภาคใต้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือแก้ไข

พล.อ.เปรม เน้นสอนเด็กให้เป็นคนดี ย้ำปัญหาภาคใต้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือแก้ไข

ที่สโมสรทหารบก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานให้การต้อนรับเยาวชนจากพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เข้าร่วม โครงการสานสายใจ เยาวชน ครูและผู้ปกครองใน 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่โลกแห่งการเรียนรู้ รุ่นที่ 4 โดยเป็นโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการจัดขึ้นเพื่อนำเด็กนักเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาชั้นปีที่ 1 มัธยมศึกษาปีที่ 6 ทั้งเยาวชนไทยพุทธและมุสลิม ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาเยียวยาบำบัดจิตใจ โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 131 คน

จากนั้น พล.อ.เปรม ให้สัมภาษณ์ว่า เอกชนและภาครัฐต่างมีความตั้งใจที่จะดูแลเด็กซึ่งก็มีวิธีของตัวเองที่จะทำ เพื่อให้เด็กเป็นคนดีนั่นคือวัตถุประสงค์ว่าทำอย่างไรที่จะให้เขาเติบโตขึ้นมาเป็นคนดี ส่วนปัญหาของเด็กไม่ใช่ให้เด็กเป็นคนแก้ แต่เป็นเราทุกคนต้องช่วยกันแก้ ซึ่งหน้าที่ของเราคือทำเด็กให้เป็นเด็กดี ซึ่งเราต้องการแค่นั้น ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ไม่ใช่หน้าที่ของเด็กเป็นหน้าที่ของเรา

เมื่อถามว่า คิดว่ารัฐบาลสมควรจะให้การช่วยเหลือให้มากกว่านี้หรือไม่ พล.อ.เปรมกล่าวว่า ถ้าเป็นรัฐบาลต้องถามนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งเป็นคนดูแลโครงการนี้ เพราะตนไม่ใช่รัฐบาล

เมื่อถามว่า การฟื้นฟูจิตใจเยาวชนจะมีการเพิ่มเติมในส่วนใดบ้าง พล.อ.เปรม กล่าวว่า ถ้าจะให้พูดต้องพูดกันยาว แต่เราต้องทำเด็กให้เป็นเด็กดีให้ได้ ถ้าเขาเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีก็จะทำประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมืองและก็จะไม่มีปัญหาหรือถ้ามีปัญหาก็สามารถแก้ไขได้ เมื่อถามว่า มีความห่วงใยในสถานการณ์ทางภาคใต้ในปัจจุบันนี้อย่างไรบ้าง พล.อ.เปรม กล่าวว่า ทุกคนพยายามทำให้ดีและปรารถนาดีที่จะให้ปัญหาทางภาคใต้ดีขึ้น

ขอให้เชื่อว่าทุกคนพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อที่จะให้สถานการณ์ในภาคใต้ดีขึ้น ขณะเดียวกันฝ่ายที่ทำให้สถานการณ์ไม่ดีขึ้น เราก็ต้องไปทำความเข้าใจกับเขา

ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เด็กและเยาวชนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการเป็นผู้ที่สูญเสียบิดามารดาทำให้ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าซึ่งกระทบต่อสภาพจิตใจของเด็กทำให้เด็กไม่มีความสุขในชีวิตอีกทั้งครูยังได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากเหตุการณ์ที่ครูถูกลอบทำร้ายทำให้เกิดความกดดันและเครียด ซึ่งจะส่งผลให้ขาดกำลังใจในการทำงานโดยจะให้เด็กและเยาวชนได้ศึกษาเรียนรู้เข้าค่ายร่วมกันเพื่อให้เกิดสัมพันธไมตรีต่อกัน เกิดความเข้าใจ และจะนำมาซึ่งความสันติสุข ทั้งนี้กระทรวงได้ดูแลผู้ได้รับผลกระทบกว่า 5,000 คน ใช้เงินงบประมาณกว่า 600 ล้านบาท

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์