ค้นรังใหญ่วุฒิ-ศักดิ์พบสารทำผิวขาวอื้อ

ตร.พร้อมจนท.อย.นำกำลังบุกค้นสำนักงานใหญ่ "วุฒิ-ศักดิ์คลินิก"

พบยาที่มีส่วนผสมสารกลูตาไธโอน 11 ขวด อย.คาดผู้ประกอบการไหวตัวขนสารที่ผิดกฎหมายไปหมดแล้ว แพทยสภาชี้ผิดจริยธรรม เตรียมนำเรื่องเข้าพิจารณา ด้าน "วุฒิ-ศักดิ์คลินิก" แถลงขอโทษลูกค้า สั่ง 45 สาขาเลิกใช้ พร้อมคืนเงินให้ลูกค้าที่ฉีดไม่ครบคอร์ส
 

ความคืบหน้ากรณีคลินิกเสริมความงามชื่อดังหลายแห่งนำสารกลูตาไธโอน(GLUTATHIONE) มาบริการฉีดให้ลูกค้าที่ต้องการให้ผิวขาวขึ้น 

โดยไม่คำนึงถึงผลข้างเคียงจากการใช้สารข้างต้น เนื่องจากยังไม่มีการขึ้นทะเบียนตำรับยาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นำมาสู่การเข้าจับกุม "วุฒิ-ศักดิ์คลินิก" สาขางามวงศ์วาน สถานเสริมความงามชื่อดัง ที่มีบริการชนิดนี้ด้วย ตามที่ "คม ชัด ลึก" นำเสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น
 

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน 

พ.ต.ท.เจนกมล คำนวล รอง ผกก.1 กองบังคับการตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ปทศ.) นำกำลังตำรวจ 10 นาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อย. เข้าตรวจค้นอาคารเลขที่ 44/41-43 ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัท วุฒิ-ศักดิ์ คลินิกเวชกรรม จำกัด จากการเข้าตรวจค้นไม่พบ นพ.วุฒิศักดิ์ ลิ่มพานิช ผู้บริหารบริษัท พบเพียง น.ส.ณัฐปรียา แนวพันธ์ ผู้จัดการทั่วไป และพนักงานจำนวนมากกำลังทำงาน เบื้องต้นค้นพบยาเตติโอนิล ซึ่งมีส่วนผสมของสารกลูตาไธโอน 11 ขวด พร้อมทั้งยาที่ใช้เป็นส่วนผสมอีก 13 ขวด เก็บอยู่บนชั้น 3 ของอาคาร และยังพบยาต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง
 

จากการสอบสวนทราบว่า

ยาดังกล่าวเป็นของบริษัทที่นำมาเก็บไว้เพื่อใช้กับคนไข้ที่เข้ารับการรักษาให้ผิวขาว ใส จึงยึดไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจพิสูจน์และดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไปในข้อหาใช้ยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาในการดำเนินกิจการสถานพยาบาลตาม พ.ร.บ.ยา มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 

น.พ.ศิริวัฒน์ทิพย์ธราดล เลขาธิการ อย. กล่าวว่า  

การดำเนินการตรวจสอบคลินิกเสริมความงามสาขาอื่นของวุฒิ-ศักดิ์คลินิก และสถานเสริมความงามอื่นนั้น อย.จะดำเนินการตรวจสอบต่อไป แต่ขณะนี้คาดว่าผู้ประกอบการคงจะไหวตัวและขนสารที่ผิดกฎหมายไปหมดแล้ว ส่วนการจะเอาผิดถึงขั้นสั่งปิดคลินิกหรือไม่นั้น อย.คงต้องดำเนินการร่วมกับกองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการ แพทยสภา ในการดำเนินการ เพราะขณะนี้ทำได้เพียงเอาผิดเรื่องการโฆษณาเกินจริงเท่านั้น

ขณะเดียวกันแพทยสภาได้ออกมายืนยันชัดเจนว่า กรณีดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรมแพทย์ จึงเตรียมนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของอนุกรรมการจริยธรรมของแพทยสภา 1-2 สัปดาห์นี้ทันที
 

ศ.นพ.สมศักดิ์โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา พร้อมด้วย นพ.อำนาจ กุสลานันท์ เลขาธิการแพทยสภา ร่วมแถลงข่าวกรณีคลินิกเสริมความงามชื่อดังหลายแห่งใช้สารกลูตาไธโอนฉีดเข้าเส้นเลือดเพื่อให้ผิวขาวขึ้น ที่อาคารเฉลิมพระบารมี ซอยศูนย์วิจัย กทม. โดย ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า กรณีนี้แพทยสภามีความเห็นว่า 1.การใช้สารกลูตาไธโอนซึ่งไม่เคยได้รับอนุญาตจาก อย.นั้น ถือเป็นการกระทำผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม 2.การใช้ยาฉีดเข้าเส้นเลือดเพื่อให้ผิวขาว ยังไม่ได้รับการรับรองเป็นมาตรฐานในการรักษา และยังมิได้มีการศึกษาถึงผลเสียในระยะยาว 3.การโฆษณาเรื่องทำให้ผิวขาวและมีแสงออกจากตัวเป็นการโฆษณาเกินจริง ซึ่งผิดข้อบังคับของแพทยสภาเรื่องจริยธรรม
 

ศ.นพ.สมศักดิ์กล่าวว่า 

แพทยสภาส่งเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาทางด้านจริยธรรมแล้ว โดยไม่มีผู้ร้องขอ และจะพิจารณาให้เร็วที่สุด คาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาของอนุกรรมการจริยธรรมของแพทยสภาภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ทั้งนี้ อาจจะต้องขอความเห็นจากราชวิทยาลัยและสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ขอให้แพทย์ที่เกี่ยวข้องหยุดการใช้ยาที่ผิดกฎหมายนี้ทันที ขณะเดียวกัน แพทยสภากำลังดำเนินการเพื่อร่างข้อบังคับเรื่องการสร้างเสริมความงาม ให้ประชาชนได้มีข้อมูลที่ถูกต้องและปลอดภัยยิ่งขึ้น
 

เมื่อเวลา15.00 น.วันเดียวกัน 

บริษัท วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก เวชกรรม จำกัด ได้จัดแถลงข้อเท็จจริง เรื่อง สารกลูตาไธโอน ที่โรงแรมแกรนด์ สุขุมวิท โซฟิเทล โดย นพ.วุฒิศักดิ์ ลิ่มพานิช ประธานกรรมการบริหาร กล่าวขออภัยต่อ อย. กองการประกอบโรคศิลปะ แพทยสภา และผู้ที่เกี่ยวข้อง เรื่องที่วุฒิ-ศักดิ์คลินิกนำสารกลูตาไธโอนมาฉีดให้ลูกค้า เนื่องจากไม่รู้ว่าสารดังกล่าวยังไม่ได้ขึ้นตำรับยาในประเทศไทย
 

นพ.วุฒิศักดิ์กล่าวว่า 

ที่ผ่านมาพบจากเอกสารวิชาการว่า สารกลูตาไธโอนเป็นสารที่ช่วยขจัดพิษ และทำให้ร่างกายสร้างเม็ดสีน้อยลง ซึ่งจะทำให้ผิวขาวขึ้น จึงติดต่อผู้แทนจำหน่ายให้นำเข้ามา และได้รับเอกสารยืนยันจากบริษัทตัวแทนจำหน่ายว่า ไม่พบผลข้างเคียงที่จะก่อให้เกิดอันตราย แต่หลังจาก อย.ออกมาประกาศว่า สารกลูตาไธโอนยังไม่ได้ขออนุญาต วุฒิ-ศักดิ์คลินิกก็ปฏิบัติตาม ด้วยการหยุดใช้สารดังกล่าว รวมถึงโฆษณาต่างๆ ทันที แต่ยืนยันว่าตัวยาที่ใช้เป็นของจริง และขอปฏิเสธข่าวที่บอกว่าตัวยาที่ใช้เป็นของปลอม รวมทั้งยินดีให้ อย.นำตัวยาที่นำเข้าไปตรวจสอบได้ ส่วนคนไข้ที่ชำระเงินล่วงหน้าแล้วยินดีคืนเงิน หรือเปลี่ยนแปลงไปรักษาโปรแกรมอื่นได้
 

ด้านนายยศสกลบัณฑุกุล ผู้ช่วยรองประธานกรรมการบริหารวุฒิ-ศักดิ์คลินิก ให้สัมภาษณ์ว่า 

ที่ผ่านมาวุฒิ-ศักดิ์คลินิกนำสารกลูตาไธโอนมาฉีดให้ลูกค้า เพราะศึกษาแล้วว่าผ่านการรับรองจากองค์การยาของอิตาลี และมีทีมงานแพทย์ของวุฒิ-ศักดิ์ฯ ตรวจสอบข้อมูลทางวิชาการว่าสามารถทำให้ผิวขาวได้จริง แต่ที่ถือเป็นความผิดพลาด คือ ไม่ได้ยื่นเรื่องขอนำเข้าสารกลูตาไธโอนต่อ อย.ของประเทศไทย ดังนั้น วุฒิ-ศักดิ์คลินิกจึงขอรับผิดชอบ โดยการสั่งให้คลินิกที่มีสาขาทั้งหมด 45 แห่ง หยุดการใช้สารกลูตาไธโอนฉีดเพื่อปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างขึ้น และจะมีการโละ หรือนำยาฉีดกลูตาไธโอนทั้งหมดทิ้ง พร้อมกันนี้ขอรับผิดชอบต่อลูกค้า โดยยินดีคืนเงินให้  

"ถือเป็นความผิดพลาดอย่างมากของวุฒิ-ศักดิ์คลินิก ที่นำสารกลูตาไธโอนมาฉีดให้ลูกค้า โดยไม่ผ่านการขออนุญาตจาก อย. เพราะตอนศึกษาตลาดเบื้องต้น พบว่ามีโรงพยาบาลชั้นนำที่มีชื่อเสียง และคลินิกศัลยกรรมหลายแห่งนำสารตัวนี้มาฉีดเพื่อปรับสีผิวลูกค้าให้ขาวขึ้น จึงไม่คาดคิดมาก่อนว่าสารตัวนี้จะไม่มีการขออนุญาตจาก อย. เราจึงขอรับผิดชอบโดยการคืนเงินให้ลูกค้าที่มาซื้อคอร์สฉีดสารกลูตาไธโอนแล้วยังฉีดไม่ครบ หรือที่เรียกว่า โปรแกรมเรเดียนซ์ แอนด์ ดีท็อกซิฟิเคชั่น ส่วนลูกค้าที่เคยฉีดไปแล้วทางผู้บริหารจะขอประชุมพิจารณาอีกครั้งว่าจะทำอย่างไร" นายยศสกล กล่าว
 

ทั้งนี้ทีมข่าว "คม ชัด ลึก" ได้ออกสำรวจคลินิกศัลยกรรมความงามย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและสยามสแควร์ ปรากฏว่า

ยังมีคลินิกเสริมความงามบางแห่งติดป้ายโฆษณาฉีดสีผิวให้ขาวขึ้นด้วยสารกลูตาไธโอน และยังพบว่ามีลูกค้ามาสอบถามการฉีดสีผิวขาวและขอใบปลิวอย่างต่อเนื่อง แต่คลินิกบางแห่งเมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปสอบถามก็บอกปัดและขอไม่รับลูกค้าใหม่ ขณะเดียวกันก็พบว่า เจ้าหน้าที่คลินิกเสริมความงามบางแห่งแนะนำให้ลูกค้าเปลี่ยนมากินยาที่มีส่วนผสมของกลูตาไธโอนแทน โดยอ้างว่าเป็นโปรตีนที่จะช่วยให้มีอายุยืนยาวขึ้น และยังสามารถยับยั้งการสร้างเม็ดสี (Melanin) ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ ส่งผลให้ผิวขาวใสขึ้น โดยตั้งราคาขายเม็ดละ 12 บาท ให้กินวันละ 3 เวลาหลังอาหาร หากซื้อทั้งขวดราคา 1,000 บาท
 

จากการสำรวจในเว็บไซต์ยังพบว่า 

มีการประกาศโฆษณาขายสินค้ายาแคปซูลที่มีส่วนผสมของกลูตาไธโอนเป็นจำนวนมาก โดยอ้างคล้ายคลึงกันว่า เมื่อกินผสมกับวิตามินซีจะช่วยให้ผิดขาวใสกระจ่างขึ้น มีประสิทธิภาพให้ขาวทั้งตัว โดยเฉพาะผิวใต้วงแขนและบริเวณหัวนม มีการตั้งราคาขายตั้งแต่เม็ดละ 10-16 บาท ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการประกาศขายกลูตาไธโอนที่เป็นส่วนผสมของครีมทาผิวอีกด้วย โดยอ้างว่าผู้ที่ผิวคล้ำแดดจะขาวใน 7 วัน ส่วนผู้ที่มีผิวดำคล้ำจะขาวขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ กระปุกละ 30 กรัม ราคา 530 บาท
 

 นางสารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แนะนำว่า 

ลูกค้าที่ไปใช้บริการฉีดสารที่มีส่วนผสมของกลูตาไธโอนตามคลินิกเสริมความงาม เพื่อให้ผิวขาวขึ้นโดยไม่รู้ความจริงว่าเป็นยาที่ยังไม่ได้ผ่านการขออนุญาตจาก อย.นั้น ถือเป็นผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหาย แม้จะฉีดไปแล้วก็ตาม เพราะเป็นการผิดตาม พ.ร.บ.ยา และแพทย์ที่ฉีดสารนี้ให้ผู้มารับบริการก็ถือว่าทำผิด พ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้เสียหายสามารถดำเนินคดีได้ ที่ผ่านมามีคลินิกเสริมความงามหลายแห่งดำเนินกิจการโดยปราศจากความรับผิดชอบ จึงอยากให้ลูกค้าที่เคยไปฉีดสารกลูตาไธโอนร้องเรียนมายังมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค หรือติดต่อที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2952-5060-2
 

ด้านนายอภิชาตินรเศรษฐาภรณ์ หรือ "เป็ด" เมคอัพอาร์ติสต์ชื่อดัง กล่าวว่า 

ตั้งใจจะไปฉีดสารทำให้ผิวเนียนขาวใสเช่นกัน โดยนัดกับหมอด้านผิวหนังที่ดูแลเรื่องผิวพรรณ ผิวหน้า และเรื่องสิวให้ตัวเองมาโดยตลอดว่า วันที่ 27 พฤศจิกายน จะไปฉีดสารตัวนี้ เนื่องจากหมอแนะนำว่าฉีดแล้วจะทำให้ผิวพรรณดี และตนก็ทำงานในแวดวงความสวยงามก็ต้องดูแลตัวเอง แต่พอได้อ่านข่าวจาก "คม ชัด ลึก" ว่า สารตัวที่จะไปฉีดยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยากับ อย.ของไทย เลยเปลี่ยนใจและโทรศัพท์ไปถามหมออีกครั้งว่าสารนี้มีผลกระทบอะไรหรือไม่ ก็ได้คำตอบว่าขึ้นอยู่กับแต่ละคน ฟังอย่างนั้นแล้วจึงตัดสินใจไม่ฉีด 

"ตั้งใจจะไปฉีดอยู่แล้วเชียว ดีว่าเห็นข่าวเสียก่อน แล้วหมอยังบอกว่าก็แล้วแต่นะ ไม่คอนเฟิร์มด้วยว่าจะปลอดภัยหรือไม่ เลยไม่ฉีดดีกว่า เพราะจริงๆ ก็รู้มาว่าสารที่นำมาฉีดทำให้ผิวเนียนสวยนี้มีในพืชผักผลไม้ทั่วไป ถ้าเราเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ก็จะได้สารตัวนี้เอง และการเลือกรับประทานอย่างนี้ก็ไม่มีสารพิษสะสมในร่างกายด้วย" นายอภิชาติ กล่าว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์