พระพี่นาง รับสั่งชัดขึ้น แห่ลงนาม

ประชาชนชาวไทยจากทั่วทุกสารทิศ ยังคงมุ่งหน้าเดินทางมา รพ.ศิริราช เพื่อลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ศาลาศิริราช 100 ปี

โดยในวันที่ 3 พ.ย.นี้ ประชาชนส่วนใหญ่จะมากันเป็นครอบครัวเนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ โดยส่วนใหญ่จะนำกล้องมาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ส่วนที่บริเวณลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก นอกจากอาหารและน้ำดื่ม ที่ภาคเอกชนนำมาแจกจ่ายให้กับประชาชนแล้ว ยังมีประชาชนพากันเข้าแถวยาวเหยียด เพื่อรอรับแจกพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงฉายกับกษัตริย์ราชวงศ์ต่างๆ ทั่วโลก ในงานฉลองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี

เมื่อเดือนมิถุนายน 2549  ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 3 พ.ย. เป็นต้นมา ได้มีบุคคลต่างๆหลากหลายสาขาอาชีพ เดินทางมาลงนามถวายพระพร ทั้ง 2 พระองค์กันเป็นจำนวนมาก อาทิ พระมหาสุนทร สุนทโร เลขานุการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพวรวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะนำพระพุทธรูปทำด้วยหยกขาวปางห้ามญาติ มาทูลเกล้าฯ ถวาย กลุ่มชาวเขาเผ่าเย้า 13 คน จ.กำแพงเพชร และนักเรียนจากโรงเรียนระเบียบศึกษา เขตสายไหม กทม. นำกระดาษที่ตัดเป็นรูปหัวใจสีเหลือง เขียนคำถวายพระพรจำนวนกว่า 2 พันคน มาทูลเกล้าฯถวายทั้ง 2 พระองค์  


จากนั้น พระภิกษุจีน เสี่ยไค่ จากวัดโพธิ์แมนคุณาราม นำภาพพระพุทธเจ้าปางตรัสรู้ จำนวน 2 ภาพมาทูลเกล้าฯ ถวาย

ตามด้วยนายอธึก อัศวานันท์ นายกสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ ในฐานะอุปนายกสยามสมาคมฯ และคณะ ร่วมลงนามถวายพระพร คณะนักเรียนโรงเรียนบ้านถ้ำโกป อ.เขาพนม จ.กระบี่ นำคณะมโนห์รา และหนังตะลุงมาแสดง  นอกจากประชาชนชาวไทยแล้ว ยังมีชาวต่างชาติจำนวนมาก มาลงนามถวายพระพรทั้ง 2 พระองค์ โดยนายอาร์เน อัสไพลิน อายุ 63 ปี ชาวสวีเดน พร้อมด้วยนางสุภัทรา กันภัย อายุ 48 ปี ภรรยา กล่าวว่า อาศัยอยู่ที่สวีเดนมา 20 ปี พอทราบว่าทั้ง 2 พระองค์ ประชวร จึงชักชวนครอบครัวมาร่วมลงนามถวายพระพร ทั้งนี้ ชาวไทยในสวีเดน ติดตามข่าวพระอาการประชวรทั้ง 2 พระองค์ จากหนังสือพิมพ์ในสวีเดน ที่ได้ลงข่าวพระอาการประชวร แต่บางคนไม่สามารถเดินทางกลับมาร่วมลงนามถวายพระพรได้ จึงร่วมกันสวดมนต์ถวายพระพรอยู่ที่สวีเดน ส่วนนายอาร์เน กล่าวว่า ประทับใจในหลวงหลายด้าน ทราบว่าพระองค์ทรงชอบเป่าแซ็กโซโฟน และทรงเป็นที่รักของคนไทยทั้งประเทศ จึงมาร่วมถวายพระพร 


ต่อมาคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดพัทลุงและภูเก็ต พร้อมด้วยอิหม่ามและแม่บ้าน จำนวน 120 คน นำโดยนายบำรุง สำเภารัตน์ เดินทางมาร่วมลงนามถวายพระพร

พร้อมกับสวดขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้า ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ทรงหายประชวรโดยเร็ว และนายวีรชัย บุญเพ็ง ผช.ผอ.โรงเรียน พณิชยการราชดำเนิน นำชาวเขาเผ่าม้ง จำนวน 23 คนจาก จ.ตาก พะเยาและน่าน ที่ได้รับทุนเรียนฟรีในโครงการสร้างคนสร้างปัญญา พัฒนาบ้านเกิด มาร่วมแสดงดนตรีถวายพระพร  ขณะเดียวกันมีนางสีไพ พุ่มเถื่อน อายุ 52 ปี ชาว อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา พานางผ่อง อาพัดนอก อายุ 96 ปี มารดามาลงนามถวายพระพร นางผ่อง กล่าวว่า พอรู้ว่าทั้ง 2 พระองค์ทรงประชวร จึงบอกให้ลูกสาวพามาลงนามถวายพระพร ส่วนตัวไม่เคยเข้าเฝ้าในหลวง เคยเห็นแต่ในโทรทัศน์ และไม่รู้ว่าอายุขนาดนี้ จะได้เห็นพระบารมีของพระองค์หรือไม่ จึงต้องมาลงนามถวายพระพรขอให้พระองค์ทรงหายประชวร เป็นมิ่งขวัญของคนไทยต่อไป
 

ช่วงบ่าย พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม มาลงนามถวายพระพรทั้ง 2 พระองค์ แล้วกล่าวว่า ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน เป็นหลักชัยแก่พสกนิกรชาวไทยมีพระองค์ท่านอยู่

เหตุร้ายจะไม่เกิดกับบ้านเมืองแน่นอน ส่วนตัวเหมือนกับประชาชนทั้งประเทศที่รู้สึกเป็นห่วงพระอาการประชวรของทั้ง 2 พระองค์ยิ่งกว่าญาติผู้ใหญ่ อยากให้ทั้ง 2 พระองค์กลับมามีพระพลานามัยที่แข็งแรงเหมือนเดิม ขณะที่นายเดนนิส โอเวน เครมพ์ อายุ 56 ปี ชาวออสเตรเลีย กล่าวว่า อยู่เมืองไทยมา 7 ปี แต่รู้จักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมากว่า 30 ปีแล้ว ชื่นชอบในพระราชกรณียกิจของพระองค์มาก ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง พระองค์ทรงมีความสำคัญกับคนไทย 100% ไม่เช่นนั้นคนไทยคงจะทะเลาะ เบาะแว้งกันแล้ว การที่คนไทยพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลืองย่อมเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า คนไทยรักพระองค์มาก ส่วนตนจะสวมเสื้อสีเหลืองในวันศุกร์เช่นกัน
 

ส่วนที่บริเวณลานพระราชานุสาวรีย์ พระบรมราชชนก เมื่อเวลา 16.00 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ โปรดเกล้าฯให้ พล.อ.ต.ธีระพงษ์ วรรณสำเริง ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ฯ นำกะหรี่ปับจำนวน 4 พันกล่อง

มาพระราชทานให้กับประชาชน ที่มาลงนามถวายพระพร นอกจากนี้กลุ่มบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ นำข้าวสเต๊กไก่ จำนวน 2 พันกล่อง มาแจกจ่ายให้ประชาชนได้รับประทานกันด้วย ช่วงเย็นวันที่ 3 พ.ย. สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ ถึงพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉบับที่ 22 ความว่า วันนี้คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่า ผลของการตรวจพระโลหิตด้านโลหิตวิทยาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ทรง พระดำเนินโดยใช้เครื่องช่วยพยุงได้คล่องขึ้น จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน สำนักพระราชวัง  


นอกจากนี้ยังออกแถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระประชวร ฉบับที่ 10 ความว่า วันนี้คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร์ รายงานว่า เริ่มรับสั่งได้ชัดขึ้น ทรงเคลื่อนไหวพระหัตถ์ขวาได้ดีขึ้น คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาทางกายภาพบำบัดและอาหารเสริมทางหลอดพระโลหิตเพิ่มขึ้น จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน สำนักพระราชวัง  


สำหรับบรรยากาศการลงนามถวายพระพรในช่วงเย็น คุณหญิงสมจินตนา ภักดิ์ศรีวงศ์ ที่ปรึกษาโครงการเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

ซึ่งเป็นโครงการที่จัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระพี่นางฯ นำคณะนักเรียนในโครงการ ขับร้องบทเพลงมาถวายพระพร พร้อมถวายจตุคามรามเทพ ขนาดหน้าตัก 9๚27 นิ้ว คุณหญิงสมจินตนากล่าวว่า ได้รวบรวมนักเรียนที่ได้รับทุนสมเด็จพระพี่นางฯ มาร่วมกันจัดทำโครงการต่างๆ เพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ นับตั้งแต่ เตรียมจัดทำเว็บไซต์ การทำสมุดที่ให้นักเรียนเขียนความรู้สึกถึงพระองค์ เพื่อถวายในวโรกาสวันประสูติในปี 2551 ที่ผ่านมา ทรงมีเมตตาสนับสนุน การศึกษาของเยาวชน ด้วยการมอบทุนการศึกษาให้เด็กจำนวนมาก ได้เรียนต่อ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เมื่อท่านประชวร รู้สึกเป็นห่วงอยากให้หายประชวร เพื่อกลับมาเป็นร่มโพธิ์ ร่มไทรของพวกเราต่อไป


ต่อมาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ

ทรงเยี่ยมพระอาการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ท่ามกลางพสกนิกรที่มารอเฝ้ารับเสด็จกันอย่างแน่นขนัด ส่วนที่ศาลาศิริราช 100 ปี มีน้องเชียร์-น.ส.ฑิฆัมพร ฤทธาอภินันท์ นักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง เดินทางมาลงนามพร้อมครอบครัว กระทั่งเวลา 20.00 น. เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ปิดการลงนามถวายพระพร ในวันที่ 3 พ.ย. มียอดพสกนิกรที่ลงนามถวายพระพรรวม 39,537 รายชื่อ เมื่อรวมยอดลงนามถวายพระพร 21 วันที่ผ่านมา พบว่ามีประชาชนที่มาถวายความจงรักภักดีมากเป็นประวัติศาสตร์ เป็นจำนวนรวมแล้วถึง 990,024 รายชื่อ อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมยอดการลงนามถวายพระพรที่จัดไว้ในส่วนต่างๆ เช่น ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง พบว่าขณะนี้มีผู้ลงนามถวายพระพรแล้วมากกว่า 1 ล้านรายชื่อแล้ว และมียอดการแจกภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง มากกว่า 6.5 แสนใบ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์