เบรกหมูหัวทิ่มขึ้นราคา 3 บาท

เหล็กลุ้นตัวโก่งพาณิชย์จ้องปล่อยผีสมาคมหมูบ่นอุบ 7 เดือนขาดทุนยับ

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้ขอความร่วมมือให้สมาคม ผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ชะลอปรับขึ้นราคาหมูหน้าฟาร์มกก.ละ 3 บาท ออกไปก่อน โดยวันที่ 26 ต.ค. จะเรียกสมาคมฯ มาหารือถึงความจำเป็น และเหตุผลในการปรับขึ้นราคา ซึ่งหากเป็นไปได้จะยังไม่ให้ขึ้นราคา โดยจะหาแนวทางช่วยเหลือ วิธีอื่น แต่ถ้าจำเป็นต้องปรับขึ้นราคา ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมฯ คือ ต้องสมเหตุสมเหตุ และทยอยปรับขึ้นราคา เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อน

นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า

สมาคมฯ ได้ประกาศ ขึ้นราคาหมูเป็นหน้าฟาร์ม กก.ละ 3 บาททุกภูมิภาค เนื่องจากเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร ประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่องกว่า 7 เดือน เพราะได้รับผลกระทบราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้นมาก เช่น กากถั่วเหลือง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทำให้ต้นทุนการเลี้ยงสุกรเพิ่มขึ้น 7.03% และมีแนวโน้มสูงขึ้น “ราคาสุกรขุนน้ำหนัก 100 กก. เฉลี่ยย้อนหลัง 10 เดือน สามารถขายได้เพียง 3,757 บาท ขณะที่มีต้นทุนอยู่ที่ 4,491 บาท ทำให้ผู้เลี้ยงขาดทุนเฉลี่ยตัวละ 734 บาทต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งการประกาศขึ้นราคาหน้าฟาร์มกก.ละ 3 บาท เกษตรกรก็ยังขาดทุนอยู่ดี”


นอกจากนี้สมาคมฯ ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อขอความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร

โดยขอให้รัฐพิจารณาลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบกากถั่วเหลืองเป็นกรณีพิเศษจาก 4% เหลือ 0% เป็นระยะเวลา 2 ปี รวมทั้งขอให้รัฐออกมาตรการระงับการส่งออกข้าวโพดอาหารสัตว์โดยเด็ดขาด เพื่อรักษาปริมาณข้าวโพดให้เพียงพอต่อการใช้ภายในประเทศ ขอให้รัฐระงับการนำเข้าเครื่องในสุกรจากต่างประเทศเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคชาวไทย และขอให้รัฐสนับสนุนการส่งออกเนื้อสุกรไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลดปริมาณเนื้อสุกรภายในประเทศ ซึ่งจะทำให้ราคาภายในประ เทศปรับตัวสูงขึ้นและช่วยลดภาระขาดทุนของเกษตรกรได้

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงผลการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาเหล็กเส้นและโครงสร้างว่า

ปลายสัปดาห์นี้ กรมการค้าภายใน จะเสนอให้นายเกริกไกร จีระแพทย์ รมว.พาณิชย์อนุมัติปรับขึ้นราคาแนะนำขายเหล็กเส้น และเหล็กแผ่น ประจำเดือนพ.ย.50 ตามข้อเสนอของผู้ผลิตและนำเข้าเหล็กในประเทศ ที่ยื่นขอปรับราคาผลิตภัณฑ์เหล็กในประเทศ เพราะต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นกก.ละ 2-3 บาท จากการปรับขึ้นราคาของวัตถุดิบโดยเฉพาะสินแร่เหล็ก ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ประกอบกับความต้องการใช้เหล็กในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นราคา อาจเป็นการทยอยปรับขึ้นจนกว่าจะเท่ากับราคาต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น

เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้บริโภคมากนัก และไม่เกิดภาวะกักตุน ประกอบกับภาวะการค้าในประเทศกำลังซบเซา หากปรับขึ้นครั้งเดียวจนเท่ากับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น จะทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบตาม ซึ่งคาดว่า รมว.พาณิชย์จะอนุมัติให้ปรับขึ้นราคาได้ เพราะอุตสาหกรรมเหล็กของไทยยังต้องพึ่งพาการนำเข้า เมื่อต้นทุนภายนอกเพิ่ม ราคาภายในประเทศก็ต้องเพิ่มตาม

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์