โหรโสรัจจะทำนายไทยหิมะตกปีหน้า

โหรโสรัจจะ' ยืนยันปีหน้าคนไทยได้ดูหิมะแน่ เหตุสามดาวทำมุมวิกฤต ย้ำเจอภัยธรรมชาติหนักทั้งแผ่นดินไหว พายุ น้ำท่วม ด้านอธิบดีกรมอุตุฯ ยันเป็นไปได้ยาก โอกาสเกิดน้อยมาก แต่ยอมรับเคยเกิดที่พม่า ไม่วางใจจับตาสภาพอากาศวิปริต

คำทำนาย 'โหรโสรัจจะ' ใกล้เคียงกับผลวิจัยของนักวิชาการ

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ที่ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรม การเปลี่ยนแปลงของโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาระบุว่า ปรากฏการณ์ลานีญาปีนี้แรงมากที่สุดในรอบ 30 ปี และทำให้ไทยมีอากาศหนาวหนักที่สุด

ทั้งนี้ พบว่าผลวิจัยดังกล่าวตรงกับคำทำนายของ 'โหรโสรัจจะ นวลอยู่' ซึ่งได้ทำนายไว้ในหนังสือ 'ศาสตร์แห่งโหร' ปี 2551ของสำนักพิมพ์'มติชน' ที่ระบุว่า

'...ส่วนสยามประเทศ ปีชวด 2551 นี้ จะเป็นปีแห่งความอาเพศ ในปลายปีชวด 2551 นี้ จะเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าแปลกมหัศจรรย์ จะเกิด 'หิมะตก' ในเมืองไทยไปทั่วทางภาคเหนือและอีสานบางส่วน ประชาชนทั้งคนไทยและทั่วโลกตื่นตกใจแทบช็อก เพราะไม่เคยเห็นปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อนเลย

แต่จริงๆ แล้ว ในทางโหราศาสตร์ไทยถือว่าเป็นอาเพศ เป็นลางร้ายที่จะเกิดมหันตภัยตามมาไม่หยุดหย่อน ทั้งทางธรรมชาติ บุคคล การเมือง การปกครอง วัฒนธรรมประเพณี ความเป็นอยู่แบบไทยๆ เราก็จะเปลี่ยนแปลงไป...'

ย้ำ 3 ดาวทำมุมวิกฤต ส่งผล 'หิมะตก'

นายโสรัจจะ นวลอยู่ หรือ โหรโสรัจจะ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า มีความเป็นไปได้ว่า ปีหน้า เมืองไทยจะมีหิมะตก เพราะเท่าที่วิเคราะห์แล้วพบว่า มีดวงดาวสามดวงที่ทำมุมกันอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน ทำให้ปลายปีหน้าไทยอาจจะมีหิมะเกิดขึ้น คือสามดาวใหญ่จะทำมุมกันแบบวิกฤต ทั้งดาวพฤหัส ดาวเสาร์ และราหู ทำให้มีแนวโน้มว่าอาจทำให้เกิดภาวะธรรมชาติวิปริต สอดคล้องกับวงการวิทยาศาสตร์เหมือนกัน

'ดาวพฤหัสบดี ซึ่งตอนนี้อยู่ในราศีพิจิกจะเขยิบย้ายไปอยู่ราศีธนู ขณะที่ราหูจะยังอยู่ในราศีกุมภ์ ส่วนดาวเสาร์ก็จะยังอยู่ในราศีสิงห์ ตรงนี้ถือว่า กระทบต่อโลกและเมืองไทยโดยตรง เพราะเป็นการจรของดวงดาวในมุมอับ ซึ่งตรงกับดวงเมืองลัคนาของไทย เพราะดาวพฤหัสซึ่งดาวเกี่ยวกับน้ำจะย้ายไปอยู่ราศีธนูในเดือนพฤศจิกายนนี้ ขณะที่ราหูจะโคจรจากราศีกุมภ์ไปยังราศีมีน ถือเป็นจุดตรึงเมืองไทย หรือเหมือนเจอมุมกากบาท ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกับดินฟ้าอากาศโดยตรง คือเมืองไทยเราจะเจอภาวะอากาศหนาวจัด ตรงนี้ก็อาจสอดคล้องกับปรากฏการณ์วิทยาศาสตร์เรื่องน้ำแข็งขั้วโลกละลาย ทั้งหมดนี้เป็นผลพวงจากปลายปีนี้ ซึ่งอากาศเมืองไทยเริ่มหนาวมาก โดยดาวพฤหัสจะเริ่มย้ายเข้าสู่ราศีธนูในเดือนพฤศจิกายนนี้แล้ว ' โหรโสรัจจะกล่าว

เมื่อถามย้ำว่า แล้วจะเกิดหิมะขึ้นในเมืองไทยจริงหรือไม่ โหรชื่อดังกล่าวว่า อาจเป็นลักษณะเป็นเกร็ดน้ำแข็งมากกว่า แต่เป็นปรากฎการณ์ที่จะเรียกว่าจะบ่อยครั้งขึ้นในเมืองไทยหรือทุก ๆ 1 หรือ 2 ปี จากเดิมที่เกิดแบบ 3 ทศวรรษครั้ง

ปีหน้าหนัก ทั้งแผ่นดินไหว พายุ น้ำท่วม

โหรโสรัจจะ ยังกล่าวว่า นอกจากนี้ มีความเป็นไปได้ว่าปีหน้าจะเกิดภัยธรรมชาติอย่างรุนแรง ๆ เช่น พายุ อุทกภัย หรือน้ำท่วมในบางแห่ง เรียกว่าเป็นภัยรุนแรงเกี่ยวกับน้ำ คน และมหาสมุทร โดยเฉพาะในช่วงที่ปลายปีหน้า ดาวพฤหัสจะเขยิบจะไปอยู่ราศีมังกร ตรงนี้เกี่ยวกับไทยโดยตรง เพราะทำฉากกับลัคนาของดวงเมืองไทย ส่วนราหูก็จะโคจรมารวมอยู่กับดาวพฤหัสด้วย ถือเป็นมุมเล็งกัน

'จากมุมวิกฤตของดวงดาวดังกล่าวตั้งแต่ปีนี้จนถึงปีหน้า ไทยอาจะต้องเจอภัยธรรมชาติอื่นๆ เช่น แผ่นดินไหวในบางพื้นที่ หรือสึนามิใต้ทะเล ดินถล่ม รวมทั้งเรื่องแผ่นดินไหว ที่คาดว่าอาจเกิดขึ้นในช่วงเดือนเมษา เพราะอิทธิพลของราหูที่ย้ายเข้าราศีมังกร' โหรโสรัจจะ กล่าว

อธิบดีกรมอุตุ รับเคยมีหิมะตกที่พม่า

ด้านนายศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงค์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวถึงสภาวะอากาศที่แปรปรวนบ่อย โดยคาดว่า จะเป็นช่วงที่อากาศหนาวที่สุดในรอบ 30 ปี ว่า ในขณะนี้ถือได้ว่ามีปรากฏการณ์ลานีญาเกิดขึ้น ซึ่งเป็นแบบอ่อนๆ ยังไม่มากนัก และจะเป็นต่อเนื่องไปจนถึงปี 2551 และหากประกอบกับมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีน ก็จะทำให้อุณหภูมิลดต่ำลง 1-2 องศาเซลเซียสในภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งน่าจะสนับสนุนกับแนวคิดของนักวิชาการที่เคยระบุไปก่อนหน้านี้

ระบุหิมะที่เมืองไทย เป็นไปได้ยาก

เมื่อถามว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าอาจจะมีหิมะตกที่เมืองไทย อธิบดีกรมอุตุนิยม กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ คงเป็นเรื่องยากมากทีเดียว แต่ถ้าในภูมิภาคเดียวกันก็เคยเกิดที่ทางเหนือของประเทศพม่า ใกล้กับประเทศจีน เคยมีหิมะตกบ้าง แต่ก็ไม่ได้บ่อยนัก สำหรับบ้านเราอย่างมากก็มีแค่แม่คะนิ้ง

'กรณีที่จะเกิดหิมะตกได้จะต้องมีอุณหภูมลบต่ำกว่าศูนย์องศามากๆ ก็อาจจะทำให้เกิดเป็นลักษณะของเกร็ดหิมะได้ แต่ที่ผ่านมาประวัติศาสตร์เมืองไทยไม่เคยปรากฏ'

เมื่อถามย้ำว่าหากเกิดหิมะตกในเมืองไทยจริงจะหมายความว่าสภาพอากาศของประเทศเกิดวิกฤตแล้วใช่หรือไม่ นายศุภฤกษ์ กล่าวว่า ก็ยังไม่เรียกได้ว่าวิกฤต เป็นเพียงสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามกรมอุตุฯาก็ต้องติดตามต่อไปว่าสภาพอากาศจะเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน เป็นสิ่งที่ต้องจับตาอยู่แล้ว




    ที่มา :    

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์