“ม่อนแจ่ม” ยืนหนังสือ หลังจนท.ตัดไฟ-สัญญาณโทรศัพท์ จนต้องปิดให้บริการรีสอร์ต

ชาวบ้านและผู้ประกอบการรีสอร์ทบนดอยม่อนแจ่ม ทั้งจากบ้านหนองหอยเก่า บ้านหนองหอยใหม่ และบ้านแม่ขิ ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ กว่า 500 คน นำโดยนายสุรินทร์ นทีไพรวัลย์ ผู้ใหญ่บ้านหนองหอยเก่า เดินทางมาชุมนุมเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ องค์การบริหารส่วนตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ หลังมีการจัดระเบียบพื้นที่บนดอยม่อนแจ่ม และมีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำบ้านพักและรีสอร์ต ทั้งหมด 27 คดี

ขณะเดียวกัน ยังมีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปให้รื้อถอนเสาสัญญาณโทรศัพท์ และตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 14 และวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีการขออนุญาตใช้พื้นที่อย่างถูกต้อง ส่งผลให้พื้นที่บนดอยม่อนแจ่มไม่มีสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตใช้

โดยนายวีระพันธ์ ดีอ่อน ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางมารับหนังสือจากตัวแทนชาวบ้านและผู้ประกอบการ เพื่อนำข้อร้องเรียนทั้งหมดยื่นต่อนายนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นนายวีระพันธ์ ได้ประชุมร่วมกับตัวแทนชาวบ้าน และผู้ประกอบการ โดยมีนายกมล นวลใย ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กอ.รมน.เชียงใหม่ และตำรวจ สภ.แม่ริม เข้าร่วมประชุมด้วย

“ม่อนแจ่ม” ยืนหนังสือ หลังจนท.ตัดไฟ-สัญญาณโทรศัพท์ จนต้องปิดให้บริการรีสอร์ต

นายสุรินทร์ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองหอยเก่า กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก จากการที่เจ้าหน้าที่ตัดสัญญาณโทรศัพท์ และกำลังเตรียมตัดไฟ ส่งผลกระทบทำให้บ้านพักและรีสอร์ตต้องปิดตัวไปโดยปริยาย แต่ยังยืนยันว่าตนเองและชาวบ้านไม่ได้ทำผิดวัตถุประสงค์ของโครงการหลวงที่ให้อาศัยทำกินอยู่ในพื้นที่

ด้านนายกมล นวลใย ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ระบุว่า หน่วยงานรัฐจะแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านแต่ต้องเป็นไปตามระเบียบของกฎหมาย ซึ่งสถานภาพในอดีตพื้นที่นี้ได้รับการผ่อนพันตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 แต่ปัจจุบันกำลังจะปรับให้ถูกต้องและดึงเข้าโครงการ คทช. ซึ่งการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นการพิสูจน์สิทธิ์ และให้ชาวบ้านทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ให้มีนอมินี และให้มีการใช้พื้นที่ตามวัตถุประสงค์ของโครงการหลวง รวมทั้งฟื้นฟูป่าที่ถูกบุกรุกให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง เพราะพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นป่าต้นน้ำชั้น 1 จึงต้องควบคุมการใช้ประโยชน์อย่างเคร่งครัดไม่ให้ส่งผลกระทบเกิดขึ้น

นายกมล ยืนยันด้วยว่า ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้มีตัดน้ำตัดไฟชาวบ้าน แต่ได้รื้อถอนเสาสัญญาณออกไปเพราะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ได้ประสานผู้ประกอบการให้ส่งรถโมบายสัญญาณโทรศัพท์เข้าไปในพื้นที่แล้ว

รายงานข่าวเพิ่มเติมแจ้งว่า จากข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้เข้าสำรวจพื้นที่บนดอยม่อนแจ่ม มีผู้ประกอบการรีสอร์ตทั้งหมด 116 แห่ง ถูกแจ้งความดำเนินคดี 27 ราย และมี 216 รายที่นำพื้นที่เกษตรมาสร้างรีสอร์ต คิดเป็นพื้นที่ 363 ไร่ มีบ้านพัก 454 หลัง ลานกางเต็นท์ถาวร 104 แห่ง ลานกางเต็นท์ชั่วคราว 75 แห่ง ร้านกาแฟ 57 แห่ง และแยกเป็นจุดชมวิว สกายวอร์ก รวมไปถึงโรงรถและโรงเก็บของ 198 แห่ง