ครม.ไฟเขียวรถไฟฟ้าสายสีม่วง

นายอาคม เติมพิทยาไพศิษฐ์ รองเลขา ธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า


ที่ประชุม ครม. เห็นชอบดำเนินโครงการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ในส่วนก่อสร้างงานโยธา 31,217 ล้านบาท และที่ปรึกษา 1,248 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 32,465 ล้านบาท ตามที่ สศช. เสนอ โดยให้กระทรวงการคลังพิจารณาแหล่งเงินที่เหมาะสม เนื่องจากจะช่วยบรรเทาปัญหาจราจร และสนับสนุนบรรยากาศลงทุนในไทย พร้อมทั้งให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในรูปแบบพีพีพี เพื่อลดภาระการลงทุนในส่วนของระบบรถไฟฟ้าภาครัฐ  ซึ่งการบริหารโดยภาคเอกชนจะคล่องตัวมากในการเพิ่มประสิทธิภาพ 

ขณะเดียวกัน ครม. มีความเห็นเพิ่มเติมโดยกำหนดให้ใช้แรงงานไทยเป็นหลัก, กระบวนราคาจัดซื้อจัดจ้างตามโครงการ ควรให้มีหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วยเพื่อให้เกิดความโปร่งใส, ควรเร่งประกวดราคา เพื่อให้โครงการเริ่มก่อสร้างได้ต่อเนื่อง, เร่งเผยแพร่ข้อมูลและประชาสัมพันธ์ถึงแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนให้ประชาชนทราบ และควรพิจารณาถึงการหารายได้เชิงพาณิชย์ เพื่อลดต้นทุนการอุดหนุนของภาครัฐ รวมถึงเปรียบเทียบต้นทุนของภาครัฐและเอกชนให้ชัดเจน
 
สำหรับกรอบวงเงินค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 9,314 ล้านบาท ให้กระทรวงการคลัง, กระทรวงคมนาคม และสำนักงบประมาณ เร่งพิจารณาความเหมาะสมในรายละเอียดต่อไป
 
“โครงการสายสีม่วงมีระยะทาง 23 กม. เริ่มจากสถานีบางใหญ่ไปตามถนนกาญจนาภิเษก เข้าสู่ถนนรัตนาธิเบศร์ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานพระนั่งเกล้า เข้าสู่ถนนติวานนท์ ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ถนนประชาราษฎร์ ไปสิ้นสุดที่เส้นทางสถานีเตาปูน มีโครงสร้างทางวิ่งเป็นโครงสร้างยกระดับทางคู่  ซึ่งทั้งหมดมี 16 สถานี โดยมี 2 สถานีร่วมคือสถานีบางซ่อน เชื่อมต่อกับสายสีแดงช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อ และ สถานีเตาปูนเชื่อมกับโครงการรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล และสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย”

ส่วนที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)


มีมติให้นำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานลงทุนในโครงการพัฒนาระบบขนส่งเพื่อลดภาระของภาครัฐนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะลดภาระเงินอุดหนุนของภาครัฐ แต่ทั้งหมดอยู่ที่เงื่อนไขของกองทุนว่าจะคิดดอกเบี้ยสูงหรือไม่และจะมีวิธีจัดสรรเงินอย่างไรเพื่อไม่ให้ประชาชนทั่วประเทศต้องรู้สึกว่าไม่เป็นการเอาเปรียบคนต่างจังหวัด

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า

ภายในเดือน ต.ค. 50 จะประกาศชวนเชิญผู้สนใจมาซื้อซองประมูล, เดือน พ.ย. 50 ประกวดขายซอง, เดือน พ.ค.-มิ.ย. 51 จะได้ผู้รับเหมา ซึ่งเชื่อว่าจะก่อสร้างระบบรางเสร็จภายใน 3 ปีครึ่งนับจากวันที่ลงนามในสัญญา ส่วนระบบการเดินรถจะกลับไปทำรายละเอียดให้เร็วที่สุดคาดว่า 3 เดือนจะได้ข้อสรุป ก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมเสนอให้กพช.พิจารณาโครงการพัฒนาระบบขนส่ง ที่ต้องของบประมาณสนับสนุนจากกองทุนอนุรักษ์พลัง งาน 10 โครงการเป็นเงิน 414,377 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการที่พร้อมดำเนินการได้ทันทีในปี 50- 55 วงเงิน 97,075 ล้านบาท คือโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต วงเงิน 52,220 ล้านบาท, ก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย 7,648 ล้านบาท, ปรับปรุงทางระยะที่ 5 และระยะที่ 6 วงเงิน 14,607 ล้านบาทและโครงการรถไฟชานเมืองช่วงรังสิต-บ้านภาชี 22,600 ล้านบาท ส่วนโครงการที่มีเงินลงทุนอีก 317,302 ล้านบาท ต้องศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์