อินโดฯระทึกทั้งวัน-อาฟเตอร์ช็อกถี่

เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย. อินโดนีเซียเผชิญเหตุคลื่นแผ่นดินไหวหรืออาฟเตอร์ช็อกอีกหลายระลอก


มีคำสั่งเตือนภัยสึนามิเป็นระยะ ขณะที่แรงสั่นสะเทือนเขย่าถึงมาเลเซียและไทยนับจากเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ 8.4 ริกเตอร์นอกชายฝั่งสุมาตรา ก่อคลื่นขนาดเล็ก 60 เซนติเมตรซัดเข้าฝั่ง ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่พากันตื่นตระหนกเพราะคิดถึงเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ก่อคลื่นยักษ์สึนามิซัดหลายประเทศเมื่อปี 2547 แต่รัฐบาลอินโดนีเซียแจ้งว่า ความเสียหายในครั้งนี้ไม่ร้ายแรงเท่ากับที่คาดไว้ เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต 10 ราย แต่อาจมีเพิ่ม เพราะมีพื้นที่ห่างไกลที่บ้านเรือนถล่มราบลงมา สายโทรศัพท์และไฟฟ้าขาด

สำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐอเมริกา (ยูเอสจีเอส) ให้ข้อมูลว่า

เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหม่ในวันที่ 13 ก.ย. ช่วงเช้าเกิดขึ้นเวลา 06.45 น. วัดค่าความสั่นสะเทือนได้ 7.8 ริกเตอร์ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ในทะเล ห่างจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดเบงกูลู ซึ่งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหวเมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 ก.ย. ประมาณ 210 กิโลเมตร ส่วนครั้งที่สองเกิดตามหลังอีก 4 ชั่วโมงต่อมาในพื้นที่ใกล้เคียงกัน วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.1 ริกเตอร์ จากนั้นเกิดแผ่นดินไหวตรงจุดทางเหนือสุดของเกาะสุลาเวสี ห่างจากศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งแรกไปทางตะวันออกถึง 2,700 กิโลเมตร ทางการสั่งเตือนภัยสึนามิก่อนยกเลิกในเวลาต่อมา

นายยูซุฟ คัลลา รองประธานาธิบดี กล่าวว่า ความเสียหายไม่แรงเท่ากับที่คิดไว้


และเห็นได้ว่า การเตรียมตัวรับมือดีขึ้นจากอดีต ส่วนเจ้าหน้าที่ในเขตเบงกูลู ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหวมากที่สุด แจ้งว่า มีบ้านเรือนมากกว่า 130 หลังถล่มลงมาในสภาพราบเป็นหน้ากลอง อีก 4,000 หลังเสียหาย ด้านชาวบ้านในหมู่บ้านใกล้เคียงกล่าวว่า เป็นเพราะปาฏิหาริย์ช่วยไว้ ทำให้พื้นที่ตนไม่มีคนเจ็บหรือตาย

วันเดียวกัน ศาสตราจารย์โยอาคิม ซีเชา ประจำศูนย์วิจัยภูมิศาสตร์ (GFZ) ของเยอรมนี แจ้งว่า โปรแกรมใหม่ของทางศูนย์ที่เรียกว่า SeisComP

วัดขนาดและจุดที่ตั้งของแผ่นดินไหวของอินโดนีเซียครั้งนี้ได้ภายในเวลาเพียง 5 นาที โดยอาศัยข้อมูลจากดาวเทียมที่ดึงจากสถานีตรวจวัดความเคลื่อนไหวในมหาสมุทร 11 แห่งที่เชื่อมกับคอมพิวเตอร์ในกรุงจาการ์ตา ถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยป้องกันภัยสึนามิที่รวดเร็วกว่าเดิม โดยโปรแกรมจะเสร็จสมบูรณ์ในปีหน้า

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์