มัมมี่อินคา สาวน้อยผู้ถูกบูชายัญ

ปกติแล้ว เราจะเห็นมัมมี่มาจากประเทศอียิปต์

ในสภาพผ้าพันรอบตัวที่นอนอยู่ภายในโลง แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัวมัมมี่ที่ดูจะแปลกไปจากมัมมี่ปกติทั่วไป ตรงที่มัมมี่ตนนี้ไม่ได้นอน แต่อยู่ในลักษณะท่านั่ง ในสภาพที่สมบูรณ์สุดสุด

มัมมี่ตนนี้เป็นมัมมี่ของชนเผ่าอินคา

ที่ถูกตั้งชื่อว่า "ลา ดอลเซลญา" ซึ่งเป็นภาษาสเปน แปลว่า หญิงสาว ถูกนำมาเปิดเผยให้สาธารณชนได้ชมกันเป็นครั้งแรกที่พิพิธภัณฑ์ในเมืองซาลตา ประเทศอาร์เจนตินา นับตั้งแต่มีการพบมัมมี่ตนนี้เมื่อปี 2542 บนยอดภูเขาไฟลูไลลาโก บนเทือกเขาแอนดิส อันหนาวเหน็บที่อยู่สูงขึ้นไปถึง 22,080 ฟุต

จากการศึกษาพบว่า

มัมมี่ตนนี้เป็นหญิงสาววัยเพียง 15 ปี และถูกพบอยู่เคียงข้างมัมมี่เด็กหญิงวัย 6 ขวบ และเด็กชายวัย 7 ขวบ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าทั้งหมดถูกนำมาบูชายัญบนภูเขาไฟแห่งนี้เมื่อกว่า 500 ปีก่อน ในพิธีบูชายัญในฤดูเก็บเกี่ยวประจำปี โดยผู้ที่ถูกนำมาบูชายัญจะถูกให้กินเครื่องดื่มมึนเมาก่อนเพื่อที่จะได้หลับ แล้วถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้บนภูเขาที่สูงกว่าสองหมื่นฟุตแห่งนี้จนตายไปในที่สุด ด้วยความเย็นสุดขั้วบนภูเขาแห่งนี้ ที่อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง จึงทำให้ร่างของผู้ถูกบูชายัญถูกรักษาไว้อย่างดี !

สภาพของมัมมี่สาวตนนี้ อยู่ในท่านั่งขัดสมาธิและมือวางอยู่บริเวณหน้าท้อง

มีการแต่งกายด้วยผ้าคลุมไหล่และเครื่องประดับที่ทำจากกระดูกและหิน นอกจากนี้ ที่บริเวณหน้าของเธอยังถูกแต้มด้วยสีแดงและรอบๆ ปากยังพบร่องรอยของเศษใบโคคาซึ่งเป็นที่นิยมเคี้ยวกันในกลุ่มชนเผ่าอินคาบนที่ราบสูงเพื่อให้ช่วยลดแรงกดดันที่เกิดจากการอยู่บนที่สูง

สำหรับมัมมี่ของเด็กอีก 2 ตนที่ถูกพบพร้อมกันนั้น

ยังอยู่ระหว่างการศึกษาและยังไม่มีการนำมาแสดงแต่อย่างใด ซึ่งคงต้องรอสักระยะจึงจะมีการนำมาเปิดตัวในเวลาต่อไป


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์