พระเขมรลักลอบเข้าไทย ! ส่งเงินกลับไปเลี้ยงลูกเมีย


จนท.จับสึกผลักดันออกนอกประเทศ หลังจากที่ พ.อ.สุรินทร์ เจริญชีพ หน.ชุดปราบปรามพิเศษจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งจาก นายสุนทร ภูมิสวัสดิ์ อายุ 64 ปี ชาวบ้านในตำบลบางไผ่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ว่า ว่า มีพระสงฆ์ 5 รูป แอบเข้าไปพักอาศัยอยู่ในป่าละเมาะรกร้าง บริเวณริมถนนสายพนมสารคาม-ฉะเชิงเทรา พื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลบางไผ่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา

  พระเขมรลักลอบเข้าไทย ! ส่งเงินกลับไปเลี้ยงลูกเมีย


โดยช่วงเช้ามืดก่อนรุ่งสว่าง หรือประมาณ 04.30 น. ของทุกๆ วัน พระสงฆ์กลุ่มดังกล่าวจะพากันเดินออกจากป่ามาริมถนน ก่อนจะมีรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างมารับ แล้วขับมุ่งหน้าไปทางตัวเมืองฉะเชิงเทรา และช่วงเวลา 08.00 - 09.00 น. ก็จะมีรถจักรยานยนต์รับจ้างขับย้อนศรผ่านด่านชั่งน้ำหนักก่อนพามาส่งยังจุดเดิม จากนั้นพระก็จะเดินเข้าไปในป่าหายไป เป็นอย่างนี้มานานเกือบ 2 เดือนแล้ว ซึ่งเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมของสงฆ์ที่ควรจะจำพรรษาและปฏิบัติศาสนกิจอยู่ที่วัด

หลังรับแจ้ง พ.อ.สุรินทร์ เจริญชีพ จึงประสานกับ พ.ต.ท.ชัยชนะ สุริยวงศ์ สว.ตม.ฉะเชิงเทรา นายธีระพงศ์ อินทร์พันธุ์ รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดฉะเชิงเทรา นายชูเกียรติ์ ลูกอินทร์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย นายพิภพ อาสนกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ตำบลบางไผ่ นายพิเชษฐ์ เปลี่ยนประเสริฐ สมาชิก อบต.หมู่ที่ 8 ตำบลบางไผ่ เดินทางไปตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่พาเดินลัดเลาะผ่านป่าต้นกระถิน ป่าสะแก ลึกเข้าไปประมาณ 300 เมตร ก็พบพระสงฆ์ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกมี 2 รูป กำลังนอนหลับอยู่ในเต็นท์ ส่วนอีกกลุ่มอยู่ถัดไปราว 50 เมตร มี 3 รูป กำลังนั่งจับกลุ่มคุยเป็นภาษาเขมรแบบเสียงดัง


  พระเขมรลักลอบเข้าไทย ! ส่งเงินกลับไปเลี้ยงลูกเมีย


จากการตรวจสอบบริเวณที่พัก ยังพบอาหารคาวหวานและน้ำดื่ม รวมทั้งข้าวสารอาหารแห้งจำนวนมากวางอยู่ในเต็นท์และแขวนไว้ตามต้นไม้รอบๆ ที่พัก พบเศษกระดาษ เศษเศษกระป๋อง ขวดน้ำดื่มถูกโยนทิ้งระเกะระกะ นอกจากนี้ยังพบมูลอุจจาระอยู่ในละแวกที่พักหลายแห่ง จากนั้นจึงนิมนต์พระทั้ง 5 รูปมาสอบถาม เบื้องต้นทราบชื่อคือ1.พระฮนดาวี อายุ 26 ปี 2.พระวนวาน อายุ 34 ปี 3.พระเผื้อะ อายุ 33 ปี 4.พระออม อายุ 73 ปี และพระเตียวพา อายุ 65 ปี ทั้งหมดเป็นสัญชาติกัมพูชา

จากการตรวจค้นทุกคนมีเอกสารการอุปสมบทเป็นของกัมพูชา แต่ไม่มีหลักฐานการขออนุญาตเข้าประเทศแต่อย่างใด จึงนิมนต์พระทั้ง 5 รูปไปให้พระครูโชติพัฒนากร เจ้าอาวสวัดบางปรง เจ้าคณะอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ทำการสึกก่อนนำตัวส่งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองฉะเชิงเทรา ดำเนินคดีในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ภายในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนผลักดันกลับสู่ประเทศต่อไป

พระฮนดาวี อายุ 26 ปี ให้การว่า ทั้งหมดอยู่เมืองพนมเปญและกำปงสะปรือ ประเทศกัมพูชา ตนเคยถูกเจ้าหน้าที่ไทย จับกุมมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 2 ปีก่อน ขณะร่วมกับพระ 5 รูปที่เดินทางมาจากกัมพูชา โดยถูกจับกุมได้ที่ป่าละเมาะริม แม่น้ำบางปะกง และถูกผลักดันส่งกลับประเทศ แล้วไปทำมาหากินก็ไม่ดีขึ้น จึงตัดสินใจบวชอีกครั้งเมื่อปีที่ผ่านมา ก่อนจะชวนพระมาด้วยกันหลบข้ามแดนจากกัมพูชามา แล้วนั่งรถโดยสารจากอรัญประเทศมายังจังหวัดฉะเชิงเทรา



  พระเขมรลักลอบเข้าไทย ! ส่งเงินกลับไปเลี้ยงลูกเมีย


"เดินสำรวจพื้นที่ที่เป็นป่าละเมาะ ป่ารกร้าง แล้วเข้าไปอาศัยอยู่ โดยซื้อเต็นท์มาคนละหลังเพื่ออาศัย เหตุผลที่มาเมืองไทยเพราะคนไทย ใจบุญ เดินไปบิณฑบาตที่ไหน ตามตลาดหรือชุมชน ก็มักชอบใส่บาตร และส่วนใหญ่ก็จะใส่บาตรด้วยเงิน ทำให้มีรายได้ดีวันละ 300- 500 บาท เป็นอย่างต่ำ เมื่อหักค่าใช้จ่ายเป็นค่าวินมอเตอร์ไซค์วันละ 100 บาทแล้ว ยังมีเงินเหลือเก็บและส่งไปให้ทางบ้านเดือนละ 7,000 - 10,000 บาท"

พ.อ.สุรินทร์ เจริญชีพ กล่าวว่า เคยจับกุมกลุ่มคนที่มาอ้างว่าเป็นพระ หรือเป็นชาวต่างชาติบ่อยครั้งมาก การทำบุญของญาติโยมทุกคน ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี คนทำบุญแล้วจะไม่คิดอะไรว่าสิ่งของเงินทองที่ทำบุญไป พระจะนำไปใช้
ประโยชน์อย่างไร เพราะคิดว่าได้บุญแล้ว การทำหน้าที่ตามกฎหมายบางครั้งก็อาจจะไปกระทบกระเทือนจิตใจญาติโยมบ้าง แต่รายนี้มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง จนชาวบ้านเกรงว่าหากปล่อยไว้จะเสื่อมเสียพระพุทธศาสนา เพราะพระสงฆ์ควรจะอยู่จำพรรษาที่วัด เพื่อปฏิบัติศาสนกิจ แต่มารวมตัวกันอยู่ในป่าแบบนี้และเป็นคนต่างด้าวด้วย

 

ที่มา: ไทยรัฐทีวี



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : me
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 203.151.136.238

203.151.136.238,,238.136.151.203.sta.inet.co.th ความคิดเห็นที่ 2 [อ้างอิง]
wellcome


[ วันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 11:09 น. ]
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์