สั่งพักราชการ “ผอ.ฉาว” จนกว่าจะสอบวินัยร้ายแรงเสร็จ ด้านตร.เรียก “นร.ม.2” สอบปากคำ 5 ก.พ.นี้!!

จากกรณีนายณฐาภพ บุญทองโท อายุ 51 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา มีพฤติกรรมชู้สาวกับเด็กนักเรียนหญิง ม.2 อายุ 14 ปี และกำลังถูกดำเนินการเอาผิดทั้งทางวินัยร้ายแรง และคดีอาญาไปพร้อมกัน โดยเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา นายณฐาภพได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาพรากผู้เยาว์เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร หลังจากมีผู้ปกครองเด็กนักเรียนหญิง 2 คน ในโรงเรียนเดียวกันเข้าแจ้งความเอาผิด และข้อกล่าวหาหมิ่นประมาท นักเรียนชายชั้น ม.3 อดีตเพื่อนชายคนสนิทของเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 โดยกล่าวหาว่าค้ายาบ้านั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 ก.พ. พ.ต.อ.คารม บุญสด ผกก.สภ.บัวใหญ่ เปิดเผยว่า ในส่วนของคดีอาญาเมื่อนายณฐาภพผู้ถูกกล่าวหาได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวนแล้วนั้น หลังสอบปากคำเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้พิมพ์ลายนิ้วมือ และทำประวัติ ก่อนอนุญาตให้ปล่อยตัวกลับไป เพราะนายณฐาภพเป็นข้าราชการระดับสูง มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี โดยพนักงานสอบสวนได้นัดนายณฐาภพมาให้ปากคำอีกครั้งภายในเดือน มี.ค.นี้

พ.ต.อ.คารม กล่าวต่อว่า หลังจากนี้พนักงานสอบสวนก็จะเริ่มดำเนินการสอบปากคำเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ที่ตกเป็นข่าวกับ ผอ.โรงเรียนรายนี้ โดยนัดสอบปากคำพร้อมเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพในวันที่ 5 ก.พ.นี้ โดยอาจจะนัดหมายให้เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯ นำตัวเด็กมาพบพนักงานสอบสวน หรือพนักงานสอบสวนอาจจะเข้าไปสอบปากคำเด็กที่บ้านพักเด็ก และครอบครัวจังหวัดนครราชสีมา โดยจะมีการนัดหมายหารือกันอีกครั้ง ซึ่งหากพนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานเพียงพอพนักงานสอบสวนก็จะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี กับนายณฐาภพเพิ่มเติมต่อไป

ขณะที่การดำเนินการสอบสวนวินัยร้ายแรง นายสนอง สุดสะอาด ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 เปิดเผยว่า ขณะนี้นายณฐาภพได้เดินทางไปรายงานตัวที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแล้ว ตามคำสั่งที่ให้ไปช่วยราชการเป็นการชั่วคราวแล้ว และในวันนี้ทางศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมาก็จะส่งคำสั่งพักราชการ และคำสั่งสอบสวนวินัยร้ายแรงแก่นายณฐาภพมาให้ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ ซึ่งหากคำสั่งมาถึงก็จะแจ้งให้นายณฐาภพรับทราบคำสั่งทันที โดยคำสั่งพักราชการนี้จะมีผลไปจนกว่าการสอบสวนวินัยร้ายแรงที่ทางศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมาตั้งขึ้นมาจะดำเนินการสอบสวนแล้วเสร็จ

ที่มา : ข่าวสด