ครอบครัวทำบุญ 100วัน”น้องเมย” เผยยื่นหลักฐานใหม่กองทัพ เชื่อผลสอบเปลี่ยน!

น.ส.สุพิชา กล่าวว่า การทำบุญในวันนี้เป็นไปตามพิธีทางศาสนา ซึ่งถึงแม้ว่า หลังจากวันที่เดินทางเข้าไปพบผู้ใหญ่ในกองทัพไทย จนถึงวันนี้จะยังไม่มีอะไรคืบหน้า แต่ก็เชื่อว่าผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของน้องชาย น่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง

"ก่อนอื่นเลยคงต้องขอโทษพี่ๆ นักข่าวทุกท่านก่อนที่ในวันนั้นไม่ได้ให้สัมภาษณ์อะไร เพราะทางครอบครัวต้องรีบเดินทางกลับชลบุรี เพื่อเตรียมงานทำบุญให้น้อง แต่สิ่งที่เราเชื่อว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงก็คือ เราได้นำหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยื่นให้ทางกองทัพ ได้พิจารณาเพิ่มเติม ซึ่งเมื่อผู้ใหญ่ในกองทัพเห็นข้อมูลก็บอกว่ารู้สึกตกใจ และถือเป็นหลักฐานชิ้นใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน" น.ส.สุพิชา กล่าว

น.ส.สุพิชา กล่าวต่อว่า ซึ่งเป็นหลักฐานทางสภาพร่างกายของน้องเมย และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ไม่สามารถโกหก หรือทำขึ้นมาหลังการเสียชีวิตได้ เราจึงคาดหวังว่าน่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในแง่ของการสอบสวน อย่างไรก็ตาม นอกจากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์แล้ว ทางครอบครัวยังได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาภายในโรงเรียนเตรียมทหาร ในมุมที่เคยเป็นอดีตผู้ปกครองนักเรียน ที่เห็นว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง

"แม้เราจะเคยท้อกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นบ้างจากความล่าช้าในการดำเนินคดี เพราะหากเป็นเรื่องทั่วไปเวลาผ่านมา 3 เดือนเช่นนี้ ก็น่าจะมีการดำเนินคดีกันแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อเรายื่นหลักฐานไป เราก็ไม่ได้สังเกตปฏิกิริยาของผู้ใหญ่ทุกท่าน แต่เราคุยกับแพทย์ทหาร ที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ ซึ่งท่านเห็นหลักฐานก็ตกใจพอสมควร ที่สำคัญเราสามารถยืนยันได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามที่เราแถลงข่าวทุกครั้งจริงๆ" น.ส.สุพิชา กล่าว

น.ส.สุพิชา กล่าวว่า เราพยายามชี้ให้ผู้ใหญ่เห็นข้อเท็จจริงว่า สิ่งที่เราแถลงข่าวไปนั้น มันเกิดขึ้นจริงกับร่างกายของน้องเมย โดยไม่ได้มีการพูดขึ้นมาลอยๆ ส่วนในเรื่อง คุณหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไรนั้น เราขอชี้แจงว่าท่านเพียงแต่ให้คำปรึกษากับเรา ในแง่ของการวิเคราะห์ผลชันสูตรว่ามีจุดใดบ้างที่ผิดปกติบ้างเท่านั้น

ด้าน นางสุกัลยา กล่าวว่า หลังได้ระบายเรื่องราวในใจ และบอกเล่าถึงข้อมูลต่างๆ ที่มีให้ผู้ใหญ่ในกองทัพได้รับทราบ โดยเฉพาะความรู้สึกหลังการฟังแถลงการณ์ต่างๆ ของกองทัพ ก็ทำให้เชื่อว่าน่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในแง่ของการสอบสวนบ้าง และขอร้องไปยังผู้ใหญ่ที่จะช่วยให้ความยุติธรรมกับน้องเมยด้วย เพราะหลายๆอย่างที่บอกไป ผู้ใหญ่รับรู้หมดแล้ว

ขณะที่ นายพิเชษฐ กล่าวว่า อยากขอความเห็นใจจากผู้ใหญ่ในกองทัพ ให้ช่วยเร่งสืบหาคนที่กระทำความผิดมาลงโทษ เนื่องจากตนเองเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาแต่ก็ยังพอทราบข่าวว่าอะไรเกิดขึ้นกับลูกชายบ้าง ดังนั้น ผู้ใหญ่ในกองทัพระดับนายพล จึงน่าจะได้ข้อมูลเชิงลึกมากกว่า เพราะความจริงมีอยู่แล้ว เพียงแต่ช่วยหาตัวคนกระทำความผิดมาลงโทษให้ได้เท่านั้น