ครูน้องเมย ยังคาใจ ชี้เด็กผ่านการฝึกช่วงที่โหดสุดมาแล้ว ถ้าจะตายคงตายตั้งแต่ตอนนั้น

จากกรณีกองทัพไทยแถลงสาเหตุเสียชีวิต นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหาร โดยแพทย์สรุปการเสียชีวิตเกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่วนซี่โครงหักเนื่องจากการทำซีพีอาร์ ตลอด 4 ชั่วโมง ขณะที่รอยช้ำเกิดจากตกบันได ซึ่งต่อมาก็ได้มีการยอมรับเพิ่มเติมว่า น้องเมยโดนซ่อม 2 วันติด โดยให้เข้าห้องซาวน่า และกระโดดกบ จนเกิดอาการหอบ ก่อนจะเกร็ง มือจีบ หายใจถี่นั้น

คืบหน้าวันที่ 16 ธันวาคม 2560 อมรินทร์ ทีวี เปิดเผยข้อมูลหลังผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ได้พูดคุยกับ กับ นายนาวา (นามสมมติ) เพื่อนของนายภคพงศ์ โดยนายนาวาเผยว่า ตนอยากเป็นทหารจึงเข้าเรียนที่โรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่งใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จนได้พบกับนายภคพงศ์และสนิทกัน โดยจะติดต่อกันผ่านเฟซบุ๊กตลอดจนเรียนจบ ประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ตนและนายภัคพงษ์ไปสอบเตรียมทหาร ตนสอบไม่ติด แต่นายภัคพงษ์ สอบติด หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกัน จนมาทราบว่านายภัคพงษ์เสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้ตนเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยทราบเลยว่าเพื่อนมีโรคประจำตัว

ขณะที่ นาวาตรี เทวฤทธิ์ ทองดี ครูโรงเรียนกวดวิชาหุบเขามังกรหลับ ซึ่งเคยเป็นผู้ฝึกสอนนายภัคพงษ์ เปิดเผยว่า ตลอดเวลากว่า 3 ปีที่นายภัคพงษ์อยู่ที่โรงเรียนกวดวิชาของตน ไม่เคยมีอาการชักเกร็ง หรือโรคมือจีบ แถมเมื่อว่างจากการเรียนก็มักจะมาดึงข้อกัน แสดงให้เห็นว่านายภัคพงษ์เป็นคนที่แข็งแรงมาก อีกทั้งนายภัคพงษ์จะอยู่ที่โรงเรียนกวดวิชามากกว่าอยู่บ้าน ทำให้ตนเห็นสภาพร่างกายของนายภัคพงษ์อย่างชัดเจน

ที่สำคัญตลอดเวลาที่ตนสอนพิเศษกว่า 10 ปี ก็ไม่เคยเห็นนักเรียนเป็นโรคมือจีบหรือชักเกร็ง อย่างมากแค่เป็นลม นักเรียนกลุ่มนี้จะรู้ตัว อีกทั้งตนมองว่าอาการชักเกร็งไม่น่าทำใครเสียชีวิตได้ เพราะเป็นอาการจากความเครียดและมีแรงกดดันสูง ตนก็เคยผ่านโรงเรียนเตรียมทหารมาแล้ว ยังไม่เคยพบว่าใครมีอาการเกร็ง รวมทั้งไม่เคยรู้จักโรคมือเกร็งมาก่อน เพราะยังไม่เคยเห็นกับตา

ที่สำคัญ นายภัคพงษ์ได้เคยผ่านการฝึกช่วงที่โหดที่สุดมาแล้ว เรียกว่าช่วงปรับสภาพนักเรียนเตรียมทหาร ประมาณ 6 สัปดาห์แรก และหากนายภัคพงษ์จะเสียชีวิต คงจะเสียชีวิตตั้งแต่ช่วงเวลานั้นแล้ว ส่วนท่าพุ่งหลังและท่าวิดพื้นซึ่งเป็นท่าพื้นฐานในการธำรงวินัยของนักเรียนเตรียมทหาร ขอยืนยันว่าหากมีผู้ที่มีวุฒิภาวะดูแลระหว่างการฝึก เชื่อว่าจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่นักเรียนแน่นอน

ทางด้าน แพทย์หญิงชนิดา สถิตย์ปัญญาพันธุ์ แพทย์จิตเวช โรงพยาบาลยันฮี ให้ข้อมูลว่า Hyperventilation syndrome หรือหอบจากอารมณ์ เป็นกลุ่มอาการหอบ ที่ไม่ได้มีสาเหตุทางร่างกาย แต่เกิดจากอารมณ์ เมื่อมีเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ เช่นเครียด หรือ เสียใจ หรือตื่นตระหนกทำให้เกิดอาการหายใจเร็วเกินไป ส่งผลให้หายใจลำบาก แน่นหน้าอก หอบเหนื่อย ใจสั่น มือเท้าชา เกร็ง กระตุก เหมือนจะชัก แต่ความรุนแรงของอาการไม่ทำให้ถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนคำถามว่าหากมีอาการ Hyperventilation syndrome จะทำให้หัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้หรือไม่ แพทย์หญิงชนิดา บอกว่า ไม่ได้ เพราะไม่มีความเกี่ยวโยงกัน

 


 ครูน้องเมย ยังคาใจ ชี้เด็กผ่านการฝึกช่วงที่โหดสุดมาแล้ว ถ้าจะตายคงตายตั้งแต่ตอนนั้น


 ครูน้องเมย ยังคาใจ ชี้เด็กผ่านการฝึกช่วงที่โหดสุดมาแล้ว ถ้าจะตายคงตายตั้งแต่ตอนนั้น


 ครูน้องเมย ยังคาใจ ชี้เด็กผ่านการฝึกช่วงที่โหดสุดมาแล้ว ถ้าจะตายคงตายตั้งแต่ตอนนั้น


 ครูน้องเมย ยังคาใจ ชี้เด็กผ่านการฝึกช่วงที่โหดสุดมาแล้ว ถ้าจะตายคงตายตั้งแต่ตอนนั้น

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : me
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 203.151.136.238

203.151.136.238,,238.136.151.203.sta.inet.co.th ความคิดเห็นที่ 2 [อ้างอิง]
wellcome


[ วันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 11:08 น. ]
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์