โดยห้องพักดังกล่าวอยู่ที่ชั้นที่ 10 อาคารชื่อดังในย่านถนนบางนาตราด เจ้าหน้าที่พบชาวมาเลเซียชาย-หญิงอยู่ในห้อง รวม 8 คน และยังพบโน้ตบุ๊กและโทรศัพท์มือถืออีกหลายเครื่อง และพบตัว น.ส.กู เวิน ชิง หญิงสาวที่ถูกทำร้ายตามตัวเขียวช้ำหลายแห่งโดยเฉพาะบริเวณต้นขาขวา ที่มีรอยช้ำขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงสอบถาม น.ส.กู เวิน ชิง ว่าถูกใครทำร้าย น.ส.กู เวิน ชิง ผู้เสียหาย ได้แจ้งว่าคนที่ทำร้ายร่างกายตน คือ นาย เจ้าเฟยหลง (Mr. Zhao Fei Long) อายุ 29 ปี นายจ้างชาวไต้หวัน ซึ่งเป็นคนคุมระหว่างที่ทำงานในไทย
น.ส.กู เวิน ชิง ผู้เสียหาย ได้เล่าว่า ก่อนหน้าที่ตนจะเดินทางมาเมืองไทยได้มีคนแนะนำให้มาทำงานด้านบริการลูกค้าที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นงานลูกค้าสัมพันธ์ โดยเข้ามาทำงาน 3 เดือน และเดินทางกลับ โดยได้ค่าจ้างประมาณ 5,500 เหรียญมาเลเซีย โดยเดินทางมาตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา แต่เมื่อมาทำงานกลับพบว่า งานที่นายจ้างให้ตนทำเป็นงานเป็นแก๊งหลวกลวง ตนจึงยังไม่กล้าทำอะไรมาก ส่วนที่ถูกทำร้ายเพราะว่าตนไม่สามารถทำงานหลอกลวงลูกค้าได้สำเร็จ จึงถูกนายจ้าง ใช้เหล็กแป๊บที่ใช้แขวนเสื้อผ้าในตู้เก็บเสื้อผ้าตีเข้าที่สะโพกและต้นขา ที่แขนทั้ง 2 ข้างและที่หลังมือ ก็ถูกปลายมีดแทง และใช้มีดจี้ที่ลำคอข่มขู่ โดยเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา ตนก็ถูกนายจ้างทำร้ายด้วยการทุบตีอีก
จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ตนก็ถูกนายจ้างให้เหล็กแป๊บท่อนเดิมตีอีก ตนจึงขอร้องให้เพื่อนที่มาทำงานด้วยกัน ส่งข้อความไปข้อความช่วยเหลือจากญาติของตนที่มาเลเซีย จนกระทั่งญาติของตนได้ไปขอความช่วยเหลือจากสถานทูต ให้ช่วยประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศไทยเข้าไปช่วยเหลือตน โดยเพื่อนตนได้แจ้งรายละเอียดที่อยู่อย่างละเอียด จนกระทั่งในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศไทยได้เข้ามาให้การช่วยเหลือดังกล่าว
ด้านนายเจ้า เฟยหลง นายจ้างได้ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นคนใช้แท่งเหล็กที่ใช้แขวนเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้าตี น.ส.กู เวิน ชิง จริง เนื่องจากโมโหที่ น.ส.กู เวิน ชิง ผู้เสียหายพูดคุยไม่รู้เรื่อง ส่วนตนเข้ามาที่ประเทศไทย เพื่อคุมชาวมาเลเซีย ทั้ง 7 คน ให้ทำงานด้วยการส่งข้อความทางเสียงผ่านอินเตอร์เน็ตไปยังคนมาเลเซีย เพื่อหลอกลวงให้โอนเงิน โดยให้กลุ่มคนเหล่านี้ส่งข้อความว่า เหยื่อเป็นหนี้บัตรเครดิต ให้ติดต่อกลับ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อก็จะส่งข้อมูลต่อให้กับผู้ร่วมแก๊งที่มาเลเซีย ทำการหลอกลวงเหยื่อให้โอนเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า นายเจ้า เฟยหลง เดินทางเข้าไทยตั้งแต่ช่วงต้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา นายเจ้า เฟยหลง ว่า ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตราย ส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆที่พบในห้องได้ทำการตรวจยึดไว้ เพื่อส่งต่อให้ตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ทำการตรวจสอบ และชาวมาเลเซียอีก 7 คน ได้มอบให้ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสมุทรปราการ ทำการตรวจสอบอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนนายเจ้าเฟยหลง เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว พร้อมของกลางแท่งเหล็ก ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
