หนุ่มโคราชเฮงถูกรางวัลที่1-แจ๊คพอตรับเงิน 38 ล้านบ.

หัวหน้าพนักงานซ่อมบำรุง โรงแรมเมืองโคราชเฮง

ถูกสลากกินแบ่งรางวัลที่ 1 รับเงินรางวัล 8 ล้านบาท แถมถูกรางวัลแจ๊คพอตรับเงินรางวัลอีก 30 ล.รวม 38 ล้านบาท ด้านแม่หนุ่มดวงเฮง เผย ลูกเตรียมมอบเงินให้ 4 ล้าน ส่วนที่เหลือจะสร้างบ้านและเก็บเป็นทุนการศึกษาลูก


(3กย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กองสลากได้ประกาศผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กันยายน 2550

โดยรางวัลที่หนึ่งคือหมายเลข 331810 ปรากฎว่าในงวดนี้มีผู้โชคดีที่เป็นชาวนครราชสีมา ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ รวมเป็นเงิน 8 ล้านบาท และยังถูกรางวัลแจ็คพอตชุดที่ 25 เงินรางวัลอีก 30 ล้านบาท รวมเป็นเงินที่ได้รับทั้งสิ้น 38 ล้านบาท จากการตรวจสอบทราบชื่อคือ นายทองสุข หรือทอง วิสันเทียะ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 397 ซ.มิตรภาพ 8 ชุมชนวัดเลียบ อ.เมือง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา มีอาชีพเป็นหัวหน้าฝ่ายซ่อมบำรุง (ไฟฟ้า) โรงแรมดิแอร์พอร์ต ซึ่งตั้งอยู่ ถ.เดชอุดม ชุมชนหนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา


ต่อเมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้(3กย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงแรมดิแอร์พอร์ต

เพื่อขอทราบข้อมูลเกี่ยวกับหัวหน้าช่างที่มีข่าวว่าถูกรางวัลที่ 1 โดยนายกฤช หิรัญญกิจ ประธานผู้บริหารโรงแรมดิแอร์พอร์ต บอกว่าให้ไปติดต่อกับเพื่อนร่วมงานที่ชื่อ นายสุวิชาญ วงษ์มณี อายุ 25 ปี คนขับรถและเป็นเพื่อนรุ่นน้องที่มีความสนิทสนมกับ นายทองสุข และเป็นคนๆ เดียวที่ไปซื้อลอตเตอรี่เป็นเพื่อนกับผู้โชคดีในครั้งนี้


สอบถาม นายสุวิชาญ ทราบว่า

เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 09.00 น.วันที่ 1 ก.ย.50 ตนและนายทองสุข ได้ขับรถเพื่อจะไปซื้อรูปปั้นช้างแถว ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย เพื่อนำมาประดับโรงแรม ระหว่างที่ขับผ่านถึงบริเวณหน้าโรงพยาบาลค่ายสุรนารี ถ.พิบูลย์ละเอียด เขตเทศบาลนครนครราชสีมา นายทองสุข ได้บอกให้ตนหยุดรถเพื่อซื้อลอตเตอรี่กับพ่อค้าเร่ที่กำลังปั่นจักรยานขายอยู่ โดยนายทองสุข ได้บอกกับตนว่าซื้อเลขอะไรก็ได้ แต่พอลงไปถึงก็พบว่าทั้งแผงลอตเตอรี่มีลอตเตอรี่เหลือเพียง 2 ใบเท่านั้น นายทองจึงให้ตนซื้อทั้ง 2 ใบ


หลังจากนั้นจึงขับรถเดินทางไปต่อเพื่อซื้อรูปปั้นช้าง


ระหว่างทางช่วงเลยทางเข้าเขตอุตสาหกรรมสุรนารีไปประมาณ 500 เมตร บนถนนนครราชสีมา-โชคชัย พบร้านขายรูปปั้นจึงพากันลงไปเพื่อซื้อหาซื้อรูปปั้นช้าง ซึ่งขณะนั้นนายทองสุข ได้พบกับรูปปั้นพระพิฆเณศที่ถูกตากแดดไว้บริเวณหน้าร้านดังกล่าว และพูดขึ้นกับตนว่า ถ้าหากถูกรางวัลที่ 1 ทั้ง 2 ใบ จะมาบูชารูปปั้นพระพิฆเณศองค์นี้กลับไปไว้บูชาที่บ้าน


นายสุวิชาญ เปิดเผยว่า ต่อมาในช่วงบ่ายของวันที่ 1 ก.ย.ระหว่างที่มีประกาศผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล

ตนกับนายทองสุข กำลังก่อสร้างสระเลี้ยงปลาอยู่หน้าโรงแรม และทราบจากแม่บ้านของโรงแรมว่าเลขท้าย 3 ตัวของรางวัลที่ 1 คือ 810 ซึ่งเป็นเลขเดียวกันที่นายทองสุข มีอยู่ ในขณะนั้นนายทองสุข ยังไม่ทราบเลยว่าตนเองถูกรางวัล ตนจึงบอกให้นำลอตเตอรี่ออกมาดูพบว่าเลขที่ออกตรงกับเลขท้าย 3 ตัวจริง "เมื่อพบว่าเลขท้าย 3 ตัวบนตรงกับรางวัลที่ 1 ผมจึงบอกกับพี่ทองว่าเหลืออีก 3 ตัวหน้าพี่ทองก็จะถูกรางวัลที่ 1 จึงพากันรอลุ้นเพราะจำเลขรางวัลที่ 1 ทั้ง 6 หลักไม่ได้ จากนั้นจึงตรวจสอบดูให้แน่ใจว่าอีก 3 ตัวที่แหลือคือเลขอะไร ซึ่งหลังจากที่ตรวจสอบแล้วพบว่าพี่ทองถูกรางวัลที่ 1 ทั้ง 2 ใบ แถมยังเป็นรางวัลแจ็คพอตอีกด้วย" นายสุวิชาญ กล่าวและว่า


หลังทราบว่าถูกรางวัลที่ 1 และรางวัลแจ๊คพอต นายทองสุข ถึงกับกระโดดกอดกับเพื่อนร่วมงานในสภาพเนื้อตัวสั่นด้วยความดีใจ

หลังจากนั้นในช่วงเย็น นายทองสุขได้โทรศัพท์มาบอกตนว่า วันจันทร์จะไม่อยู่ ซึ่งตนคิดว่าน่าจะเดินทางเข้าไปรับเงินรางวัลที่กรุงเทพฯ อย่างแน่นอน และสำหรับอุปนิสัยส่วนตัวของ นายทองสุข เป็นคนดี เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนร่วมงาน และยังเป็นพนักงานดีเด่นทุกปีตลอดระยะเวลาที่ทำงานในโรงแรม 7 ปี


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 397 ซ.มิตรภาพ 8/9 ข้างวัดเลียบ ชุมชนวัดเลียบ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา

โดยได้พบกับ นางผ่องศรี วิสันเทียะ อายุ 50 ปี มีอาชีพขายผลไม้และขนม อยู่ข้างทางบริเวณตลาดสดแม่กิมเฮงตรงข้ามวัดสะแก เขตเทศบาลนครนครราชสีมา และนายสุชน วิสันเทียะ อายุ 54 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งเป็นแม่และพ่อของนายทองสุข หนุ่มดวงเฮงที่ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 และรางวัลแจ๊คพอต โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูน 2 ชั้น โดยชั้น 2 เป็นไม้สภาพทรุดโทรม


นางผ่องศรี วิสันเทียะ เปิดเผยว่า ตนมีลูกชายทั้งหมด 3 คน

มีนายทองสุข เป็นลูกชายคนโต โดยเมื่อเวลาประมาณ 17.30 น.ของวันที่ 1 ก.ย.นายทองสุข ลูกชายได้กลับมาบอกกับตนว่าถูกรางวัลที่ 1 และรางวัลแจ๊คพอต รวมเป็นเงินจำนวน 38 ล้าน พร้อมกับกราบเท้าตนแล้วเอาเท้าของตนลูบหน้าและเหยียบหัวตัวเอง และบอกกับตนว่า ต่อไปนี้พ่อกับแม่ไม่ต้องลำบากอีกแล้ว เพราะพ่อและแม่ทำงานลำบากเลี้ยงลูกมานาน ขอให้พ่อกับแม่เลิกทำงาน มาอยู่บ้านเลี้ยงหลาน เมื่อพูดจบลูกชายก็ได้โอบกอดตนและผู้เป็นพ่อ รวมทั้ง นางอุดมศิลป์ วิสันเทียะ อายุ 30 ผู้เป็นภรรยา และพากันร้องไห้ด้วยความปลาบปลื้ม ซึ่งตนรู้สึกมีความสุขมากที่สุดในชีวิตที่ได้เห็นลูกชายแสดงความรัก ความกตัญญูออกมาในลักษณะดังกล่าว


นางผ่องศรี กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ลูกชายยังบอกอีกว่าจะแบ่งเงินส่วนนี้ให้แม่เก็บไว้ใช้และทำบุญเป็นจำนวนเงิน 4 ล้านบาท

ส่วนที่เหลือจะเก็บไว้ใช้และเป็นทุนการศึกษาสำหรับลูกได้เรียนหนังสือในอนาคต ซึ่งปัจจุบันลูกสาวมีอายุได้เพียง 7 เดือน รวมทั้งจะสร้างบ้านใหม่อยู่ ตนจึงได้บอกกับลูกชายไปว่า ให้ลูกชายตั้งสติดีๆ เพราะกลัวลูกจะช็อค และให้วางแผนการใช้เงิน อย่าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเพราะอนาคตลูกยังอีกไกล พร้อมกับย้ำบอกลูกชายอีกว่า ขอให้ลูกอย่าลืมตัว เมื่อลูกเป็นคนอย่างไรก็เป็นคนอย่างนั้น อย่าลืมบุญคุณคน ให้เป็นคนดีอย่างนี้ตลอดไป ซึ่งนายทองสุข ก็ได้บอกกับตนว่า จะยังคงทำงานอยู่ที่โรงแรมดิแอร์พอร์ตต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศของเพื่อนร่วมงานในโรงแรมดิแอร์พอร์ต

พบว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่นและต่างแสดงความยินดีกับ นายทองสุข ที่ถูกรางวัล ส่วนตัวนายทองสุขได้หายไปตั้งแต่เย็นวันที่ 1 ก.ย.50 หลังทราบว่าตนเองถูกรางวัล และปิดโทรศัพท์มือถือไม่สามารถติดต่อได้ ทราบจากญาติว่าได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อขอรับเงินรางวัลที่กองสลากในเช้าวันนี้ (3 ก.ย.) ทั้งนี้เมื่องวดประจำวันที่ 16 ส.ค.50 ที่ผ่านมา ก็พบว่ามีชาวโคราชทราบชื่อคือ นายยุทธนา ปราณีตพลกรัง อายุ 39 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นลูกจ้างกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ที่กรุงเทพฯ ถูกสลากกินแบ่งรางวัลรางวัลที่ 1 หมายเลข 476207 รับเงินรางวัลจำนวน 29 ล้านบาท กระทั่งงวดประจำวันที่ 1 ก.ย.50 ชาวโคราชก็มาถึงรางวัลที่ 1 และรางวัลแจ๊คพอตอีกเช่นกัน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์