ช็อกหนัก!! กทม.ล้างบ้านเลี้ยงนกพิราบเจอแมลงสาบไต่ยั้วเยี้ย!! (คลิป)

 ช็อกหนัก!! กทม.ล้างบ้านเลี้ยงนกพิราบเจอแมลงสาบไต่ยั้วเยี้ย!! (คลิป)

กทม.ทำความสะอาดบ้านลุงเลี้ยงนกพิราบ เจอแมลงสาบไต่ยั้วเยี้ย เพื่อนบ้านฉีดยาไล่กันเข้าบ้าน ด้านลุงเลี้ยงนกพิราบยันเลี้ยงต่อ เหตุสงสารและฝังใจในวัยเด็ก

วันนี้ (13 ก.ค.60) เวลา 09.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร เขตห้วยขวาง เข้าพูดคุยกับ นายวีระศักดิ์ สุนทรจามร ชายเก็บของเก่าที่เลี้ยงนกพิราบเป็นจำนวนมาก เพื่อขอเข้าทำความสะอาดพื้นที่รอบบ้าน บริเวณซอยอุดมสุข หลังมีชาวบ้านร้องเรียนเรื่องกลิ่นเหม็น และความสะอาด หลังเจรจาเสร็จเจ้าหน้าที่ กรุงเทพมหานคร มากกว่า 20 คน ระดมกำลังพร้อมรถเก็บขยะ 1 คัน เข้าทำความสะอาด เก็บขยะ สิ่งของเครื่องใช้ที่ไม่สามารถใช้งานได้ออกจากบ้าน

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ยินยอมให้เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครเข้าทำความสะอาดบ้านและจัดระเบียบเฉพาะบริเวณหน้าบ้านส่วนภายในตัวบ้านไม่อนุญาต และหลังจากนี้ตนก็ยืนยันที่จะเลี้ยงนกพิราบต่อไป เนื่องจากมีความฝังใจในวัยเด็กที่เห็นนกพิราบถูกเหล็กทับและเสียชีวิตจึงสงสาร ปัจจุบันตนเลี้ยงนกพิราบเป็นพันตัว นอกจากนกพิราบยังเลี้ยงแมวด้วย

นายวีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า แม้ตนจะเลี้ยงนกพิราบเป็นจำนวนมากแต่ก็ไม่เคยป่วยเป็นโรคอะไร นอกจากเป็นไข้หวัด และจากนี้ถ้ามีนกมากก็ยังคงจะให้อาหารต่อไป และยังคงเลี้ยงดูนกพิราบต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ช่วยกันทำความสะอาด โดยมีนายวีระศักดิ์ เจ้าของบ้านที่เลี้ยงนกพิราบเป็นจำนวนมากช่วยเก็บของและทำความสะอาดบริเวณรอบบ้าน ซึ่งพบว่า มีแมลงสาบวิ่งและไต่ยั้วเยี้ยออกมาจากที่ซ่อนเป็นจำนวนมาก ขณะที่เพื่อนบ้านได้นำยาฉีดไล่แมลงสาบมาฉีดบริเวณรอบบ้านของตนเองเพื่อป้องกันแมลงสาบวิ่งเข้าบ้าน

สำหรับการเลี้ยงนกพิราบในบ้านของนายวีระศักดิ์ เคยถูกเพื่อนบ้านฟ้องร้องเมื่อปี 2545 โดยยอมเสียค่าปรับ 1,000 บาท และครั้งนี้ก็ถูกฟ้องร้องอีกและก็ยอมเสียค่าปรับเช่นเดิม แต่เรื่องไม่จบจนนำมาสู่การที่เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครเข้าจัดระเบียบและทำความสะอาดในครั้งนี้

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า หากอยู่ใกล้ชิดนกพิราบอาจได้รับเชื้อโรคคลามัยดิโอซีสหรือโรคไข้นกแก้วซึ่งเกิดจากเชื้อ Chalamydia psittaci หรือปัจจุบันเรียกเป็น Chlamydophila psittaci เป็นโรคที่ติดต่อได้ระหว่างนกด้วยกัน และทำให้เกิดโรคได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด รวมถึงแมวและคนด้วย อีกโรคหนึ่งที่พบได้และทำให้คนเสียชีวิตมาแล้วหลายราย คือ โรคสมองอักเสบจากเชื้อรา คริปโตคอคคัส (Cryptococcal meningitis) หรือ Cryptococcosis ซึ่งเกิดจากเชื้อ คริปโตคอคคัส นีโฟอร์มาน (Cryptococcal neoformans) เป็นเชื้อราชนิดหนึ่ง เจริญเติบโตได้ง่ายและพบในอุจจาระของนกพิราบ เชื้อแพร่

โรคนี้ติดต่อได้ในสัตว์ เช่น แมว สุนัข ปศุสัตว์ รวมถึงคน แต่การติดต่อระหว่างคนสู่คนเกิดขึ้นได้ยากมากอาจมีอาการป่วยอย่างเฉียบพลัน หรืออาจเป็นแบบเรื้อรัง ลักษณะอาการ คือ ผิวหนังเป็นตุ่ม หนอง ผื่น แพ้ คัน อาจแสดงอาการสมองอักเสบ อาการอื่นๆ เช่น ตาอักเสบ โพรง จมูกอักเสบ ข้ออักเสบ เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีรายงานการพบเชื้อไข้หวัดนก (H5N1) ในนกพิราบที่ตกลงมาตาย

ส่วนโรคอื่นๆ ที่เกิดจากนกพิราบ แม้จะพบแต่น้อยมากและพบในต่างประเทศ เช่น ปอดอักเสบ Q fever ท้องเสีย อาการแพ้หรือเครียด เนื่องจากหมัดจากนกพิราบ โดยคนที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคดังกล่าว คือ บุคคลที่มีอาชีพเกี่ยวข้อง และใกล้ชิดกับนกพิราบ ซึ่งมีโอกาสสัมผัสโดยตรงกับแหล่งอาศัยและมูลอุจจาระได้ง่าย รวมทั้งผู้ที่มีความบกพร่องทางภูมิคุ้มกันโรค โดยในเด็กและคนชราอาจมีความเสี่ยงต่อการติดโรคมากกว่า คนปกติถึง 1,000 เท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคจากเชื้อราที่พบในมูลขับถ่ายของนกพิราบ

ทั้งนี้ หากต้องสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดนกพิราบควรมีผ้าปิดจมูก และอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังสัมผัสสัตว์ ทำความสะอาดเก็บกวาดมูลนกอย่าให้หมักหมมเพราะจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อรา

ทั้งนี้ นายวีระศักดิ์ เจ้าของบ้านที่ทำอาชีพเก็บของเก่า บริเวณซอยอุดมสุข กินแมลงสาบในระหว่างการให้สัมภาษณ์ พร้อมเล่าว่า สาเหตุที่กินแมลงสาบ เพราะว่าเคยชงกาแฟและวางทิ้งไว้ในบ้าน ปรากฎว่ามีแมลงสาบ 10 กว่าตัวลงไปในแก้วกาแฟ ด้วยความเสียดายกาแฟ เนื่องจากมีฐานะยากจนถึงได้ดื่มกาแฟไปพร้อมกับแมลงสาบ


จากข้อมูลของสำนักงานเลขานุการกรมอนามัย ระบุว่า เนื่องจากแมลงสาบสามารถกินอาหารได้แทบทุกชนิดทั้งพืชและสัตว์ ตั้งแต่อาหารที่สกปรก ของเน่าเสียตามกองขยะ จนถึงอาหารที่คนกินเข้าไปด้วย ในการนำโรคของแมลงสาบ เชื้อโรคสามารถติดมาตามตัวหรืออยู่ภายในกระเพาะของแมลงสาบได้ เวลาที่แมลงสาบกินหรือเดินผ่านอาหารก็จะสำรอกหรือไม่ก็ถ่ายลงบนอาหารนั้นด้วย ทำให้ผู้กินอาหารได้รับเชื้อโรค และเจ็บป่วยได้ ซึ่งโรคที่แมลงสาบมีการแพร่เชื้อมีดังนี้

1.เป็นพาหะนำโรค ทั้ง PROTOZOA, BACTERIA และ VIRUS ถึง 40 ชนิด พบเชื้อรามีพิษ และไข่พยาธิบางชนิด หนอนพยาธิ ไข่ของพยาธิที่ตรวจพบในอุจจาระของแมลงสาบมีพวก ไข่พยาธิเข็มหมุด , ไข่พยาธิปากขอ , ไข่พยาธิไส้เดือน , ไข่พยาธิตัวตืด , ไข่พยาธิตัวจี๊ด พวกโปรโตซัว ที่พบได้แก่ Giardia lambia, Balantidium coli, Entamoeba histolytica พวกแบคทีเรีย Salmonella, Poliomyelitis Infectious hepatitis พวกไวรัส ( VIRUS ) เช่น Poliomyelitis Infectious hepatitis พวกเชื้อรา พบว่ามีติดมาตามขา, ปีก, ลำตัวและปาก ฯลฯ

2.เป็นตัวกลางของพยาธิบางชนิด ( INTERMEDIATE HOST ) เช่น พยาธิตัวตืดบางชนิด Hymenolepis nana, และ Raillietina spp.

3.ทำให้เกิดอาการแพ้ พวกเศษของปีกหรือชิ้นส่วนต่าง ๆ ของแมลงสาบ ถ้าหายใจเข้าไปอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้

 


ที่มา -  pptv

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์